กลับมาให้หายคิดถึงกับวงดนตรีร็อกในตำนาน The Beatles ที่ล่าสุด Disney+ ได้ประกาศวันที่ 8 พฤษภาคม เป็นวันแรกของการสตรีมมิ่งสารคดีของ The Beatles ‘Let It Be’ ที่มาบอกเล่าบรรยากาศการทำอัลบั้มชุดสุดท้าย Let It Be ของ The Beatles และเล่าถึงการเตรียมตัวขึ้นแสดงบนดาดฟ้าตึก ในลอนดอน ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของ The Beatles ก่อนจะยุติบทบาท
ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ถูกบูรณะมาจากผลงานต้นฉบับของผู้กํากับ Michael Lindsay-Hogg ในปี 1970 ที่ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 16 มม. นับเป็นครั้งแรกที่สารคดีมีวางจําหน่ายในรอบกว่า 50 ปี และก่อนหน้านี้ฟุตเทจจากสารคดีเรื่องนี้ที่ไม่ถูกใช้ก็นำไปใช้ในสารคดี Get Back ของ Peter Jackson ในปี 2021 ที่การันตีความดีงามด้วยรางวัลจากเวที Primetime Emmy Awards ทั้งหมด 5 รางวัลในปีเดียวกันที่ออกฉาย
เรื่องย่อของสารคดี Let It Be
Let It Be เป็นสารคดีที่จะพาย้อนไปช่วงเวลาการทำงานร่วมกันของสมาชิกวงทั้ง John Lennon, Paul McCartney, George Harrison, และ Ringo Starr ที่กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง ซึ่งเราจะได้เห็นถึงการรับบทบาทสำคัญของแม็กคาร์ตนีย์ในฐานะหัวหน้าวงจำเป็น, ความรักของจอห์นกับ Yoko Ono, ความกดดันของแฮร์ริสันที่ทำให้เขาถึงกับลาออกจากวงชั่วคราว และความเป็นกันเองของสตาร์ รวมทั้งรอยร้าวของสมาชิกวงทั้ง 4 คน

สารจากผู้กำกับสารคดี Let It Be ฝากถึงคนดู
ฮอกก์ผู้กำกับสารคดีเรื่องนี้ได้ออกมาปกป้องผลงานของเขากับนิตยสาร Rolling Stone ในปี 2021 ถึงข้อเท็จจริงในเชิงลบหลังจากที่วงยุบไปแล้วไว้ว่า “หากแฟนๆ คิดว่าการดู Let It Be ด้วยความเศร้าในใจถึงการไม่มีวงเดอะบีทเทิลส์แล้วเป้นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างมาก เพราะความจริงแล้วคุณจะได้ขึ้นไปที่หลังคา เห็นความตื่นเต้น ความสนิทสนมกัน และความสุขอย่างแท้จริงในการเล่นด้วยกันอีกครั้ง รู้ถึงความสุดของครั้งสุดท้าย และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าพวกเขาเป็นใครและยังคงเป็นใครอยู่”