นี่หรือจะเป็นสัญญาณ… ลด Supreme จากแบรนด์ไฮสตรีตเหลือแค่ ‘สตรีตแวร์’ ทั่วไป

ขณะเวลายังคงเดินหน้าไปต่อเรื่อยๆ ระหว่างทางนี้ก็ย่อมมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไปอย่าง ‘ความนิยม’ ที่มักเปลี่ยนไปพร้อมกับการเติบโตของเจนใหม่ๆ และดูเหมือนว่า ‘สตรีตแฟชั่น’ จะเริ่มได้รับความนิยมน้อยลงจากเจน Z เมื่อรายงานผลประกอบการของแบรนด์ Supreme ภายใต้การดูแลของ VF Corporation (VFC) ว่ารายได้ของแบรนด์ในช่วงไตรมาสแรกอยู่ที่ 523.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณกว่า 1.8 แสนล้านบาท) ลดลงจาก 561.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณกว่า 1.94 แสนล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

Courtesy of Brand

คิดถูกหรือคิดผิดของ VF Corporation

VF Corporation (VFC) เจ้าของเดียวกับแบรนด์ Vans, The North Face, Timberland ฯลฯ เข้าซื้อกิจการ Supreme ในปี 2020 ด้วยมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณกว่า 7 หมื่นล้านบาท) โดยหวังว่าจะได้กวาดเงินจากสายแฟผู้คลั่งแนวสตรีตและสินค้าฟุ่มเฟือย และต่อมาก็ได้ทาบทาม Tremaine Emory (เทรเมน เอเมรี่) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Denim Tears มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนมีความเป็นไปได้ยาก (หรือเปล่า) ต้องมาคอยดูกันว่าเกมอาจจพลิกในอีกสามไตรมาสที่เหลือ

แบรนด์เล็กแรงแซงแบรนด์ใหญ่อย่าง Supreme

ถึงอย่างไรก็ตามก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าความสำคัญของสตรีทแวร์ได้จางหายไปเมื่อกระแสแฟชั่นเปลี่ยนไปตามเจน ตามเทรนด์ที่ไหลลื่นได้ตลอดเวลา ในขณะที่แบรนด์เล็ก อย่าง Aimé Leon Dore, Corteiz ในลอนดอน และ Free The Youth ของกานา มีจุดเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของวัยรุ่น ทำให้ได้รับความสนใจของ Gen-Z และเข้าชิงตลาดส่วนแบ่งจากแบรนด์ Supreme จนสูญเสียตำแหน่งแบรนด์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดบนแพลตฟอร์มขายต่อ StockX เป็นครั้งแรก โดย Fear of God ของ Jerry Lorenzo เป็นผู้ล่มแชมป์

Courtesy of Brand

จริงแล้วแอลเมนตามติดแบรนด์ Supreme มาโดยตลอดจากทั้งการรายงาน BALENCIAGA X SUPREME คอลเล็กชั่นนี้จะไม่ผลิตแล้วจริงหรือ? และ ‘SUPREME’ สิ้นความขลัง? เมื่อตัวตึงแฟชั่นสายสตรีตอาจไม่เจ๋งเหมือนเดิมอีกต่อไป! ก็มีความเป็นไปได้ว่า Supreme กำลังตกอยู่ในภาวะ ‘สัญญาณอันตราย’

Similar Articles

More