ก้าวใหม่ของ Louis Vuitton ในฤดูกาลล่าสุด ​Fall/Winter 2023 โดยนักออกแบบรับเชิญรายแรก Colm Dillane

ปีนี้ถือเป็นอีกปีสำคัญของเมซงเก่าแก่อายุ 169 ปี โดยวันก่อนหน้าจะมีโชว์คอลเล็กชั่นบุรุษประจำฤดูหนาวปี 2023 ทาง Louis Vuitton ได้เชิญแขกซึ่งประกอบด้วยสื่อชั้นนำ ลูกค้า และเพื่อนพ้องคนสนิทไปร่วมดื่มด่ำกับนิทรรศการ LV Dream ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางข้ามกาลเวลา สะท้อนผ่านนวัตกรรมและงานช่างฝีมือที่ได้ร่วมงานกับ ‘คนสร้างสรรค์’ ตั้งแต่นักออกแบบแฟชั่นคนดัง ไปจนถึงศิลปินเลื่องชื่อ (นิทรรศการจะมีไปถึง 15 พฤศจิกายนนี้) เพื่อเน้นย้ำจุดยืนที่ต้องการเชื่อมโยงโลกแห่งศิลปะ ดนตรี และวัฒนธรรมกระแสนิยมหลากรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน และอีกเรื่องสำคัญคือ ครบรอบ 25 ปีการเปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูป (ready-to-wear) ซึ่งหากเราย้อนกลับไปในต้นปี 1998 เวลานั้นถือว่าวิตตองได้สร้างความฮือฮา และสั่นสะเทือนวงการแฟชั่นรับยุคมิลเลนเนียม เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าแบรนด์เก่าแก่อายุนับร้อยปีที่ขึ้นชื่อในการทำหีบเดินทาง กระเป๋า และเครื่องหนังชิ้นเล็กชิ้นน้อยจะกระโจนเข้าสู่สังเวียนแฟชั่น และจากวันนั้นถึงวันนี้แบรนด์หรูที่โดดเด่นด้วยลวดลายโมโนแกรมก็กลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์ประจำตารางแฟชั่นวีคที่คอแฟชั่นทั่วโลกตั้งตารอ

และอย่างที่เกริ่นไว้ว่าแม้เมซงวิตตองมีประวัติศาสตร์มายาวนาน แต่เพิ่งมีในส่วนเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพียง 25 ปีเท่านั้น แล้วหากเราย้อนชมประวัติศาสตร์เสื้อสำเร็จรูปของเฮ้าส์หลังนี้ ก็ต้องยอมรับว่านักออกแบบที่สามารถคุมทิศทางให้ผลงานแต่ละฤดูกาลสอดประสาน เชื่อมโยง และเดินไปในลู่ทางเดียวกันได้นั้นก็ต้องนึกถึง Virgil Abloh ผู้ล่วงลับ เขาเป็นผู้ที่ทำให้คอลเล็กชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับฝั่งบุรุษได้รับความนิยมตีตื้นฝั่งหญิง (และช่วง 2 ปีหลังนี้ดูจะแซงหน้าไปด้วยซ้ำ) ดังนั้นเมื่ออดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จากโลกนี้ไป ภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการหาผู้มาสานต่อจึงเป็นเรื่องท้าทาย ดังบทความ ‘ทำไม Louis Vuitton จึงยังหาผู้นำทัพคนใหม่ไม่ได้‘ อย่างที่นำเสนอไปก่อนหน้า ความท้าทายนี้จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ LVMH ตัดสินใจใช้การคอลลาบอเรชั่นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังว่างเว้นตำแหน่งหัวเรือมานานจนล่วงเลยหนึ่งปี โดยเชิญ Colm Dillane แห่งแบรนด์สุดคูล ‘KidSuper’ มาเป็นนักออกแบบรับเชิญรายแรก ร่วมรังสรรค์คอลเล็กชั่น Men’s Fall/Winter 2023 กับสตูดิโอทีม ซึ่งยังสอดคล้องกับปณิธานของมิสเตอร์ แอบโลห์ ที่อยากให้ทางวิตตองได้ร่วมงานกับคนสร้างสรรค์ทั้งหน้าเก่าและใหม่ 

โชว์ฤดูหนาวประจำปี น่าสนใจตั้งแต่บัตรเชิญที่ถูกดีไซน์เป็น Slate หรือ Clapperboard อุปกรณ์สำคัญในการถ่ายทำภาพยนตร์โดยบนกล่องมีเวิร์ดดิ้งให้ชวนตีความ – “This is to be used, not for decoration, direct a movie at home, use this for memory stories and dream building” – ที่หากถอดรหัสสารที่ส่งแบบหยาบๆ คงต้องการให้ใช้เสื้อผ้าเพื่อประโยชน์ใช้สอย และอยากให้นำเครื่องแต่งกายไปสร้างคาแรคเตอร์ให้ตัวเอง เราอยากสวมบทเป็นใครก็ให้เสื้อผ้าสะท้อนตัวตนที่อยากเป็น ทำหน้าที่กำกับชีวิตราวกับที่ผู้กำกับ ควบคุมตัวละครให้เป็นในสิ่งที่วาดฝัน นอกจากสอดคล้องกับชื่อของ LV Dream นิทรรศการสำคัญที่กล่าวถึงตอนต้นแล้ว ยังเคารพวิสัยทัศน์ของมิสเตอร์ แอลโลห์ ที่ทั้งสตูดิโอทีมและตัวโคล์มต้องการสานต่อและดำเนินรอยตาม เปลี่ยนสถานะของลักซ์ชัวรี่ไอเท็มในคอลเล็กชั่นบุรุษของวิตตอง จากข้าวของบ่งบอกถึงความมั่งมีให้กลายเป็นชิ้นสเตทเมนท์ทำหน้าที่สะท้อนจุดยืน สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และผลักดันโลกใบนี้ไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิม ภาพรวมของโชว์จึงยังเป็นการเชื่อมโยงหลากวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน สื่อสารผ่านคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า ไปจนถึงการแสดงสดโดยศิลปินเพลงแนว ฟลาเมงโกป็อป … Rosalía

ความ ‘ป็อป’ ยังปรากฏใบนโชว์ซึ่งพื้นที่ตรงกลางถูกจัดเป็นห้องของหนูน้อยที่กำลังเติบใหญ่ มีงานศิลปะ และของเล่น เพื่อสื่อสารถึงวัฒนธรรมเยาวชน ภาพวาดที่โคล์มเป็นผู้สร้างสรรค์ถูกนำมาใช้เป็นลวดลายหลัก อาทิ ผลแอปเปิลหลากสีสัน ลายพรางรูปใบหน้ามนุษย์ที่เกิดจากการใช้เทคนิกปะติดและตัดต่อผ้าสีพื้น เข้ากับลายโมโนแกรม และผ้าทอลายที่มองผิวเผินดูคล้ายการระบายด้วยสีน้ำมัน ลวดลายทั้งหมดช่วยแต่งแต้มสีสันให้ให้คอลเล็กชั่นที่ยืนพื้นด้วยชิ้นคลาสสิกแต่ทวิสต์ให้เกิดความน่าสนใจ อาทิ แจ็กเก็ตบอมเบอร์ MA-1 ที่มีการโยกตำแหน่งกระเป๋าและตกแต่งด้วยซิปดูแปลกตา แจ็กเก็ตกระดุมสองแถวคัตติ้งคมกริบที่มีกระดุมเม็ดหนึ่งดูคล้ายแผ่นโลหะหลอมละลายแล้วทำตราประทับอักษรย่อ LV และแจ็กเก็ตบลูซงประดับคริสตัลระยิบระยับทั่วตัว อีกชิ้นเด่นที่เชื่อว่าสาวกสตรีทแฟชั่นที่ชื่นชอบความหรูหราคงถูกใจ …ในมุมมองส่วนตัวของผม ภาพรวมของคอลเล็กชั่นนี้ยังหนีไม่พ้นเงาของ เวอร์จิล แอบโลห์ จะด้วยเพราะเกิดจากความตั้งใจ หรือเพราะสตูดิโอทีมที่ร่วมงานกับมิสเตอร์แอบโลห์และโคล์มยังไม่กล้าสลัดภาพที่ประสบความสำเร็จและสร้างเม็ดเงินให้มหาศาลก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราเริ่มได้เห็นหมุดหมายในการพร้อมจะก้าวไปข้างหน้า หลังตำแหน่งอันทรงเกียรติวางเว้นนานเป็นปี จะเป็นการใช้วิธีชวนนักออกแบบรับเชิญมาร่วมงาน หรือจะรอดูผลตอบรับว่าโคล์มควรจะได้มารับหน้าที่ต่อจากเวอร์จิลเลยหรือไม่ … ต้องติดตามกันต่อไป

Similar Articles

More