หวนคืนสู่รากเหง้า! ตีความบริบท Dior ในทุกยุคสมัยสู่เมนส์แวร์คอลเล็กชั่น Summer 2024

สถานที่จัดโชว์ของ ‘Dior’ คอลเล็กชั่น Summer 2024 Menswear ถูกเซตขึ้นเป็นอาคารชั่วคราวหน้า École Militaire โรงเรียนทหารใจกลางกรุงปารีส ท่ามกลางบรรยากาศอันร้อนระอุแต่บรรยากาศนอกสถานที่จัดแฟชั่นโชว์นั้นร้อนแรงกว่าอากาศไปเลย เพราะว่าบรรดาแขกฟ้อนต์โรว์ของ Dior ในคราวนี้รวมเหล่าเซเลบริตี้ตัวท๊อประดับโลกมาไว้ในโชว์อย่างคับคั่ง และในลิสต์นั้นก็มี ‘มาย ภาคภูมิ’ และ ‘อาโป ณัฐวิญญ์’ สองนักแสดงไทยผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเฮ้าส์แอมบาสซาเดอร์ของ Dior ประจำประเทศไทยก่อนบินไปชมแฟชั่นโชว์ของ Dior ในรอบนี้สดๆ ร้อนๆ

แต่นอกเหนือจากอากาศอันร้อนแรงพูดเลยว่าในคอลเล็กชั่นนี้ ‘ว้าว’ ตั้งแต่ตอนเปิดโชว์ไปจนปิดโชว์ เพราะตอนเริ่มโชว์เหล่านายแบบทั้งหมดถูกยกขึ้นมาจากใต้พื้นรันเวย์ ภาพที่เห็นทำให้นึกถึงนักร้องชื่อดังที่ผุดขึ้นมาจากใต้เวทีในคอนเสิร์ตใหญ่ๆ จนโมเมนต์นี้กลายเป็นอีกหนึ่งความประทับใจของฤดูกาลนี้เลย นอกจากนั้นคอลเล็กชั่นนี้ยังเป็นคอลเล็กชั่นครบรอบ 5 ปีที่ Kim Jones (คิม โจนส์) ได้กลายเป็นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเมซงชื่อดังแห่งนี้อีกด้วย ทำให้ในคอลเล็กชั่นเขาจัดเต็มรวมบริบมความเป็น Dior ไว้ในคอลเล็กชั่นเดียวอย่างกลมกล่อม สมตำแหน่งดีไซเนอร์มือฉมังของยุคนี้!

DNA ของเฮ้าส์ในแต่ละยุคถูกหลอมรวมให้เป็นหนึ่ง!

ในคอลเล็กชั่นนี้ Kim Jones ต้องการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 5 ปีด้วยการหวนรำลึกถึง Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์) และเหล่านักออกแบบแฟชั่นท่านอื่นๆ ในอดีตภายใต้ชายคาเมซงเก่าแก่หลังนี้ ตั้งแต่ Yves Saint Laurent (อีฟ แซงต์ โรลองต์), Gianfranco Ferré (เจียนฟรังโก เฟอร์เร) และคนสุดท้าย Marc Bohan (มาร์ก โบแฮน) ซึ่ง Kim ได้ดึงเอาจุดเด่นของนักออกแบบแต่ละคนมาหลอมรวมกลายเป็นคอลเล็กชั่น Summer 2024 นี้

โดยดึงเอา ‘ซิลูเอ็ตต์’ ของ Yves Saint Laurent ไปจนถึง ‘งานปัก’ สุดละเอียดอ่อนของ Gianfranco Ferré รวมถึงเหล่าชิ้นงานไฮจิวเวลรีประดับอัญมณีทรง ‘หลังเบี้ย’ ที่ถือกำเนิดขึ้นในยุค Christian Dior ไปจนถึงการใช้ ‘วัสดุ’ ที่โดดเด่นด้านผิวสัมผัสของ Marc Bohan มารวมกันไว้ในคอลเล็กชั่นนี้

นอกจากนั้นในคอลเล็กชั่นนี้ Kim ยังยึดถือคอนเซปต์ที่เป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของเขา อย่างการผสมผสานความแตกต่างของสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ เหล่าชิ้นงานสุดคลาสสิกเข้ากับรูปลักษณ์สุดป๊อป, แนวคิดแบบดั้งเดิมเข้ากับแนวคิดนอกกรอบ, ความเฟมินีนเข้ากับความมาสคิวลิน ไปจนถึงแฟชั่นชั้นสูงเข้ากับสตรีตสไตล์ เพื่อพัฒนาคอนเซปต์ ‘New Look’ ในตำนานไปสู่ผลงานในมุมมอง ‘New Wave’ หรือคลื่นลูกใหม่นั่นเอง และเมื่อทุกสิ่งหลอมรวมเข้าหากันแบบไร้รอยต่อ ทำให้คอลเล็กชั่นนี้ที่แฟชั่นดีไซเนอร์มือฉมังชาวอังกฤษคนนี้ออกแบบไม่ทำให้เราผิดหวังเลย!

‘Connage’ ลายไอคอนิกที่เปรียบเสมือน DNA หลักของ Dior

นอกจากการหลอมรวมระหว่าง DNA ของเมซง Dior ในแต่ละยุคสมัยเข้าด้วยกัน มีหนึ่งรหัสการออกแบบของเมซงหลังนี้ที่เชื่อมโยงเหล่านักออกแบบแฟชั่นกลุ่มนี้เข้าไว้ด้วยกัน นั่นก็คือลาย ‘Connage’ (หรือในภาษาไทย’ลายหวายถัก’) ลวดลายที่มีจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์กับห้องเสื้อชื่อดังนี้ในยุคของ Christian Dior ที่เขาได้ทำการตกแต่งเมซงของเขาด้วยเก้าอี้ที่มีพนักเป็นลายหวายสานถักสุดไอคอนิกลายนี้ จนลวดลาย Connage กลายเป็นอีกหนึ่งภาพจำของเมซงหลังนี้มาตั้งแต่สมัยนั้น

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปลายสานของพนักเก้าอี้ในเมซงแห่งนี้ ถูกแปรเปลี่ยนมาอยู่บนกระเป๋าสุดคลาสสิคอย่าง Lady Dior โดย Gianfranco Ferré ในปี 1995 เพื่อสร้างให้กับแฟชั่นไอคอนในตำนานอย่าง ‘เลดี้ไดอาน่า’ ถือในวาระต่างๆ ของเธอ จนกลายกระเป๋าใบนี้กลายเป็นเป็น ‘Iconic Bag’ ตลอดกาลของโลกแฟชั่น ซึ่งลวดลาย Connage ถูก Kim จับมาเป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นเมนส์แวร์นี้ตั้งแต่ไอเทมเสื้อผ้า ไปจนถึงเหล่าเครื่องประดับต่างๆ ที่ถูกหยอดลวดลายสุดคลาสสิกลงไป ภาพรวมของคอลเล็กชั่นนี้จะเป็นอย่างไรวันนี้ ELLE MEN Thailand รวบตึงมาให้คุณได้ชมแล้ว!

Dior Men Summer 2024 Collection

Similar Articles

More