‘ถ่อมตนและปรับตัว’ คุณสมบัติของนักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ Y-3 ประสบความสำเร็จ

“หลังทำมานานเป็นสิบปี ตอนนี้ผมคิดว่าผลงานเริ่มดูน่าเบื่อไปหน่อย จึงเกิดความคิดว่าควรจะหยุดหรือไปต่อดี เราถกเถียงกันในบริษัทแต่ท้ายสุดแล้วคำตอบที่ได้คือ เราต้องไปต่อ!” – เจ้าของบทสัมภาษณ์กล่าวไว้ในปี 2015 นามของเขาคือ โยจิ ยามาโมโตะ (Yohji Yamamoto) ชายวัย 79 ปี ราชาแฟชั่นจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ทั้งวงการสรรเสริญ และยกย่องเป็น ‘ปรมาจารย์ด้านแฟชั่น’ แต่ถึงเป็นเช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าผู้คนในวงการอื่นต้องคล้อยตาม … เขาต้องพิสูจน์ให้เห็นและเป็นที่ยอมรับด้วยตัวเอง

ย้อนกลับไปในปี 2002 โยจิที่อยากจะกระโจนเข้ามาสนุกกับโลกสตรีทแวร์กำลังมองหาหุ้นส่วนที่จะร่วมสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นเพื่อเจาะกลุ่ม ‘สายสตรีท’ โดยเฉพาะ เขายกหูหาแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ Nike เพราะอยากจะชวนมาร่วมงาน แต่คำตอบที่ได้รับนั้นคือ “ขอบคุณมากนะคุณยามาโมโตะ แต่เราทำเสื้อผ้ากีฬา ไม่ได้ทำสินค้าแฟชั่น” เขาได้แต่กล่าวกล่าวขอบคุณ ก่อนโทรหาเบอร์ใหญ่รายถัดไป Adidas แต่คำตอบที่ได้แตกต่าง “โอเค เราตกลง!” … และแล้วไลน์ Y-3 ส่วนผสมอันลงตัวระหว่างแฟชั่นสไตล์อาวองต์การ์ดของ ‘Y’ ตัวแทนของ Yohji Yamamoto และเลข ‘3’ สื่อสารถึงตัวตนของแบรนด์กีฬาโลโก้สามแถบสุดโด่งดังก็ถือกำเนิดขึ้น แสดงผลงานครั้งแรกในฤดูกาล Spring/Summer 2003 และเดินทางมาจนครบ 2 ทศวรรษ

Yohji Yamamoto ราชาแฟชั่นจากแดนอาทิตย์อุทัยที่คนทั้งวงการพากันสรรเสริญ ผลงานเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการมีตัวตนที่ชัดเจน และการปรับตัวทำให้เขาได้มีที่ยืนในวงการนี้จนถึงปัจจุบัน
Photo: Courtesy of the Brand

Adidas Y-3 Spring/Summer 2016 โดย Yohji Yamamoto

ผมชื่นชมคุณโยจิไม่เฉพาะในส่วนของงานสร้างสรรค์แต่รวมไปถึงทัศนคติต่อประเด็นต่างๆ จะมีนักออกแบบระดับแถวหน้าที่ถูกยกย่องให้เป็นถึงระดับ ‘ปรมาจารย์’ กี่คนที่กล้าลุกขึ้นมายอมรับตรงๆ ว่า “งานของผมเริ่มน่าเบื่อ” จึงต้องปรับทิศทางกันต่อไป อย่างบทสัมภาษณ์ตอนต้นที่ให้ไว้ในฤดูกาล Spring/Summer 2016 ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปร่วมชมโชว์ และเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นของ Y-3 ที่ประทับใจมาก มีลายเด่นเป็นเวิร์ดดิงทรงพลัง ‘Don’t Stop’ ที่สื่อถึงการไม่หยุดพัฒนาและต้องก้าวไปข้างหน้า “ว้าว! งานเขากลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง” ผมคิดระหว่างชมการแสดงผลงานที่ทำให้กลับมาหลงรัก Y-3 หลังเริ่มเข้าขั้นน่าเบื่อมาหลายปีอย่างที่เขาให้สัมภาษณ์ไว้จริงๆ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่และเรื่องใหม่เพราะกระแสขึ้นและลงเป็นวัฏจักรแห่งโลกแฟชั่น ที่สำคัญคือตอนนี้ … “เขากลับมาแล้ว”

อีกทั้งในปัจจุบันนี้เขายังชวนให้ สเตฟาโน ปิแอร์ เบรุชชี (Stefano Pierre Beruschi) – Head Design Director แห่ง Adidas Originals มาทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ของ Yohji Yamamoto สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ต้องการจะก้าวไปข้างหน้า และร่วมงานกับคนสร้างสรรค์ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ๆ ดังที่เห็นจากภาพเบื้องหลังการรังสรรค์คอลเล็กชั่นอยู่บ่อยครั้งว่าโยจินั้นจะถูกรายล้อมไปด้วยทีมงานเป็นคนกลุ่มมิลเลนเนียลที่มีอายุพอๆ กับลูกหลานของเขา

Photo: Courtesy of the Brand

Adidas Y-3 Atelier

Y-3 เปลี่ยนวิธีการแสดงผลงานจากรูปแบบรันเวย์โชว์มาเป็นพรีเซนเทชั่นให้ลูกค้า สื่อชั้นนำ และเซเลบริตี้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ควบคู่กับการนำเสนอผลงานผ่านวิดีโอแคมเปญและลุคบุ๊กมาตั้งแต่ปี 2019 ไม่ต่างจากการแสดงผลงานของเหล่าอาภรณ์ชั้นสูง (โอตกูตูร์) ของแฟชั่นเฮาส์หลังดังในอดีต เพราะรายละเอียดการตัดเย็บนั้นเหมาะแก่การชมอย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้เห็นความพิเศษสุด แถมวีดีโอแคมเปญและลุคบุ๊กยังถ่ายทอดแรงบันดาลใจและธีมต่างๆ ได้ชัดเจนกว่ารันเวย์ อีกทั้งเมื่อต้นปียังเปิดตัวไลน์พิเศษในชื่อ ‘Y-3 Atelier’ เน้นงานหัตถศิลป์ สร้างสรรค์ผลงานที่มีความประณีตของวัสดุและการตัดเย็บเปรียบได้กับงานระดับ Sport-Couture

ฤดูกาลล่าสุด Spring/Summer 2023 ทั้งโยจิและสเตฟาโนยังส่งสารเน้นย้ำวิสัยทัศน์ว่าพวกเขากำลังมองไปยังอนาคต ผ่านลุคบุ๊กและวีดีโอแคมเปญที่ได้แรงบันดาลใจจากแก่นของโลกสปอร์ตแวร์ ถอดรหัสตัวตนของ Yohji Yamamoto และ Adidas นำเสนอบุคลิกอันโดดเด่นของโลกแฟชั่นสปอร์ตแวร์ที่ดูล้ำด้วยรูปแบบ วัสดุ และเทคโนโลยีการผลิต บางส่วนในคอลเล็กชั่นยังเป็นการนำผลงานชิ้นเลื่องชื่อในรอบ 2 ทศวรรษมาปัดฝุ่นใหม่ให้ดูร่วมสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้น

Adidas Y-3 Spring/Summer 2023

ลุคบุ๊กและวีดีโอแคมเปญคอลเล็กชั่นฤดูร้อนนี้แบ่งเป็น 2 แชปเตอร์ แชปเตอร์แรกปล่อยออกมาให้ชมกันตั้งแต่เดือนมกราคม ส่วนแชปเตอร์ 2 ที่เพิ่งปล่อยออกมาก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ Adidas มาผสานกับการตัดเย็บเพื่อให้ได้รูปทรงแปลกใหม่ และสนองความต้องการด้านฟังก์ชันการใช้งานของผู้คนในทศวรรษที่ 2020s โดดเด่นด้วยการผสมผสานการออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งและง่ายต่อการใช้งาน เน้นย้ำความเฉียบแหลมและความเป็นอัจฉริยะของโยจิ และแนวคิดเชิงนวัตกรรมของแบรนด์กีฬาโลโก้ 3 แถบอันโด่งดัง ถ่ายทอดผ่านองค์ประกอบสามารถทำให้ชิ้นงานปรับเปลี่ยนได้ด้วยสายผ้า กระดุมแป๊ก สายรัด และการตัดเย็บแบบอสมมาตร

องค์ประกอบสำคัญและนวัตกรรมที่ว่ายังรวมถึงกลุ่มสนีกเกอร์ที่ผ่านการทดลองทั้งรูปแบบและฟังก์ชันอย่าง ‘Y-3 Terrex Swift R3 GTX’ โดยมีให้เลือกทั้งแบบทรงสูงและทรงต่ำ รองเท้าไดนามิกนี้ออกแบบมาสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ผสมผสานวัสดุนีโอพรีน สิ่งทอ และยางเข้ากับเมมเบรนกันน้ำ Gore-Tex เพื่อประสิทธิภาพและความทนทานสูงสุด เรียกว่าไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่ดีไซน์แต่รายละเอียดและฟังก์ชันการใช้งานนั้นโดนใจสายสตรีท คนรักสปอร์ตแวร์ และคอแฟชั่นผู้ชื่นชอบผลงานแนว Avant-Garde สุดๆ

Photo: Courtesy of the Brand

เดรสไนลอนที่สามารถปรับซิลลูเอตได้ด้วยเครื่องเป่าลม Adidas Y-3 Spring/Summer 2017

ผ่านมา 20 ปี วันนี้ Y-3 ภายใต้การนำทัพโดย โยจิ ยามาโมโตะ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถยืนหยัดอยู่บนเส้นทางสายนี้และเป็นที่ยอมรับได้ด้วยฝีมือและการปรับตัวให้สอดรับไปกับทิศทางการหมุนของโลก ดังบทสัมภาษณ์อีกฤดูกาล S/S 2017 ที่เขากล่าวไว้ “ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่ก็จะพยายามทำออกมาให้ดี” ซึ่งสำหรับผมถือเป็นการให้สัมภาษณ์ที่ออกจะดูถ่อมตัวไปหน่อย หากเทียบกับผลงานสุดล้ำราวกับหลุดออกมาจากโลก Sci-Fi ทั้งรูปทรง การผสมผสานวัสดุ และเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดชุดเปลี่ยนซิลลูเอทได้ด้วยการเป่าลมเข้าไปด้วยเครื่องเป่าลมในช่วงฟินาเล่ ซึ่งผมไม่ได้ “ว้าว!” กับการโคจรมาพบกันของแฟชั่นและเทคโนโลยีแบบนี้มาพักใหญ่

และที่สำคัญคือวิสัยทัศน์ของ Adidas ที่กล้าเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ เปิดพื้นที่ให้คนสร้างสรรค์ และเล็งเห็นถึงโลกในวันที่แฟชั่นและเทคโนโลยีจะแนบชิดกันยิ่งขึ้น การ ‘Say Yes!’ ผ่านโทรศัพท์กับโยจิในวันนั้น นำมาซึ่งประวัติศาสตร์บทใหม่ของโลกแฟชั่นในวันนี้ Y-3 มรดกชิ้นสำคัญที่เกิดขึ้นจากการเปิดใจและให้โอกาสของ Adidas เบอร์ต้นด้านกีฬาของโลกที่มีน้ำใจนักกีฬามากพอจะหยิบยื่นไมตรีให้นักออกแบบที่อยู่คนละวงการ แต่ได้รับการยอมรับไม่แพ้กัน … Yohji Yamamoto

Similar Articles

More