พูดคุยกับ ‘เจมีไนน์’ นักแสดงหนุ่มที่จริงใจกับทุกความรู้สึกของตัวเอง

Words: PANICHA IMSOMBOON

เดือนมิถุนายนปีนี้เป็นเดือนที่ เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ อายุครบ 20 ปี “บางทีก็ลืมไปว่า เฮ้ย! เราเพิ่งจะอายุเท่านี้เอง เพราะได้ทำอะไรหลายอย่างมาก ภูมิใจนะที่ตัวเองมาถึงตรงนี้ได้” คำว่า ‘หลายอย่าง’ สำหรับนักแสดงและศิลปินที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้รวมถึงการมีคอนเสิร์ตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกอย่าง My School President Prom Night Live On Stage ซึ่งจัดขึ้นที่ยูเนี่ยนมอลล์ หรือคอนเสิร์ตใหญ่ Gemini Fourth My Turn Concert ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

“ตอนขึ้นคอนเสิร์ตที่ยูเนี่ยนมอลล์ ผมร้องไห้เลย ทั้งที่ปกติผมเป็นคนร้องไห้ยากมาก คนที่รู้จักผมดีที่สุดอย่างแม่กับพ่อก็ยังไม่มีใครคิดว่าผมจะร้องไห้ ร้องตอนรอบแรกแค่รอบเดียว ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วร้องด้วยความรู้สึกไหน อาจจะดีใจมากๆ ก็ได้ ส่วนตอนที่อิมแพ็คนี่ไม่ได้ร้อง แต่ก็รู้สึกว่าเรามาถึงตรงนี้ได้ไง” เจมีไนน์เล่าย้อนถึงเรื่องสำคัญในชีวิตการทำงานของเขา

เครื่องประดับ Tiffany Lock จาก TIFFANY & CO. เสื้อกล้ามลายตารางสวมทับด้วยเสื้อสูทผ้าบาง จาก HERMÈS 

แต่ไม่ใช่แค่งานคอนเสิร์ตเท่านั้นที่เป็นเรื่องที่ทำให้เขาภูมิใจกับการทำงานของตัวเอง เพราะทุกก้าวในวงการบันเทิงก็มีเรื่องที่ทำให้เขาภูมิใจได้ในทุกๆ วัน “เวลาที่มีผลงานออกมา มีเพลงออกมา ได้เล่นซีรีส์ หรือได้เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลกก็รู้สึกว่าภูมิใจทุกวัน เพราะเราทำงานทุกวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี”

การถ่ายแบบก็เป็นอีกงานที่เขาสนุกเพราะได้เจอกับความหลากหลาย อย่างในแฟชั่นเซ็ตนี้ที่ได้แมตช์หลายลุคเข้ากับเครื่องประดับจาก Tiffany & Co. โดยเฉพาะไอเท็มที่เป็นกำไล ซึ่งเจมีไนน์บอกว่า “ผมชอบอะไรที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ชอบที่มันเข้ากับทุกลุค สวมใส่ง่าย และดูมีสไตล์”

เครื่องประดับ Tiffany Lock, Tiffany HardWear และ Tiffany T จาก TIFFANY & CO. แจ็กเก็ตเดนิม กางเกงยีนส์ และรองเท้าหนัง จาก FENDI 

ถ้ามองจากงานที่ผ่านมาของเจมีไนน์ ดูเหมือนว่าบ่อยครั้งเขามักจะเจอกับ ‘งานยาก’ ทั้งในฐานะนักแสดงและศิลปิน อย่างเช่นบทของผู้พิการทางการได้ยินที่ต้องใช้ภาษามือสื่อสารใน ‘พระจันทร์มันไก่’ งานแสดงเรื่องแรกของเขา และการขึ้นโชว์เปียโนในคอนเสิร์ตทั้งที่ไม่ได้ถนัด แต่ต้องฝึกซ้อมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่สำหรับเจมีไนน์เอง เขากลับมองว่าทั้งหมดที่ผ่านมานั้นยังไม่นับเป็นเรื่องยาก “ผมตั้งใจทำทุกงานนะ แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนเรียนรู้อะไรได้ไว เลยยังไม่เคยเจออะไรที่รู้สึกว่าอันนี้ทำไม่ได้ อันนี้ยาก ยังคงพยายามมองหาว่าอะไรที่เป็นความท้าทายสำหรับเราได้บ้าง” เจมีไนน์พูดถึงตัวเองในแบบที่ทำให้คนฟังสัมผัสได้ว่าเขารู้จักจุดแข็งในการทำงานของตัวเองและมองทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งความตรงไปตรงมานี้เป็นนิสัยเด่นอีกอย่างหนึ่งของตัวเขา 

เครื่องประดับ Tiffany Lock และ Tiffany T จาก TIFFANY & CO. เสื้อเชิ้ตสวมทับด้วยสเวตเตอร์ จาก GIVENCHY 

“ผมเป็นคนที่จริงใจกับความรู้สึกตัวเอง คิดอะไรก็พูดแบบนั้น อย่างถ้าตัวเองรู้สึกอะไรอยู่แล้วมีใครมาถาม ก็น่าจะพูดตรงๆ” ด้วยลักษณะนิสัยนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เจมีไนน์จะบอกว่า ความสัมพันธ์แบบที่ทำให้เขาสบายใจเป็นความสัมพันธ์แบบที่พูดคุยกันได้อย่างเปิดเผย “ผมคิดอย่างนี้กับทุกความสัมพันธ์เลยครับ ทั้งความสัมพันธ์ในการทำงานและความสัมพันธ์กับเพื่อน ถ้าเราดูออกว่าเขาเป็นอะไรไหม ก็อยากให้เขาบอก เพราะถ้าเป็นอะไรจริงๆ ก็จะได้รู้ว่ามีอะไรผิดพลาดตรงไหนและแก้ได้ เพราะการเปิดใจคุยกันมันทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้น แล้วผมเป็นคนคุยด้วยเหตุผลมากกว่า ไม่ค่อยใช้อารมณ์เท่าไหร่ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ผมไม่โอเค ก็ไม่ต้องง้อด้วยคำพูดหรือง้อด้วยสิ่งของ มาพูดตรงๆ แล้วปรับให้เข้ากันดีกว่า”

โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล นักแสดงที่น่าจะเป็นคนที่ทำงานกับเจมีไนน์มากที่สุด เคยพูดถึงเขาว่า “เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขเพราะเจมีไนน์มักจะมีพลังงานบวกมาให้ ทำให้มีพลังในการทำงานเพิ่มขึ้น” ซึ่งสอดคล้องกับที่เจมีไนน์กล่าวไว้เช่นกันว่า “ผมเป็นคนสบายๆ ชิลๆ อยากทำอะไรก็ทำ เฟรนด์ลี่ อยากทำให้คนรอบข้างมีพลังงานบวกเยอะๆ เราเลยชอบแผ่พลังงานบวกออกไปให้ผู้อื่น”

เครื่องประดับ Tiffany HardWear จาก TIFFANY & CO. เสื้อเชิ้ตพร้อมสายผูกเอว จาก DOLCE & GABBANA 

แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องการพลังงานเอง วิธีชาร์จพลังงานของเขาคือการให้เวลากับตัวเอง หรืออยู่ในโหมดที่เจมีไนน์เรียกว่าโหมดประหยัดพลังาน “เวลาเหนื่อยๆ ผมว่ามันไม่มีอะไรฮีลเราได้เท่ากับการนอนแล้ว เพราะถ้าจะออกไปทำอะไรเวลาที่เราเหนื่อย มันน่าจะยิ่งเหนื่อยเพิ่มไปอีก เพราะเราต้องออกไปทำงานอยู่แล้ว ถ้าออกไปทำอะไร เราก็คอยคิดว่า เดี๋ยวต้องกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านี่ การออกไปเที่ยวผมว่าเหนื่อยกว่าการทำงานอีก เพราะฉะนั้นการนอนน่าจะดีที่สุด เป็นการประหยัดพลังงานตัวเองด้วย”

เมื่อถามถึงเรื่องงานที่อยากทำ เจมีไนน์บอกว่า “อยากเล่นเป็นคนเจ้าชู้ อยากลองใช้เสน่ห์แพรวพราว (หัวเราะ) เพราะปกติผมไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ แต่ผมเป็นนักแสดงครับ เข้าถึงทุกบทบาทได้ ส่วนงานเพลง ก็อยากมีอัลบั้ม อยากมีเพลงที่ผมแต่งเองอยู่ในนั้น ซึ่งก็น่าจะใช้เวลาค่อนข้างนาน รอกันหน่อยนะครับ”

เครื่องประดับ Tiffany Lock จาก TIFFANY & CO. เสื้อกล้ามสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตหนังแขนสั้นประดับลายฉลุเลเซอร์คัต จาก HERMÈS 

สลับจากเรื่องงานมาที่เรื่องส่วนตัว เป้าหมายของเจมีไนน์ในวัย 20 ปี ก็คือซื้อบ้านให้ครอบครัว ซึ่งเขาบอกว่าน่าจะเป็นจริงในอีกไม่นาน เราจึงชวนเขามองอนาคตในอีก 20 ปีข้างหน้าว่า เจมีไนน์ในวัย 40 ปี น่าจะมีชีวิตแบบไหน “ผมว่าตอนนั้นผมคงออกจากวงการบันเทิงแล้ว คงมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อาจจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์เพราะสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แล้วก็น่าจะมีครอบครัวแล้วนะ เป็นครอบครัวที่มีพ่อ แม่ และลูกคนเดียว ผมเคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของพ่อแม่ ทำให้เคยคิดว่าไม่อยากมีลูกแล้ว แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกแบบนั้น แล้วก็คิดว่า ถ้ามีลูกแล้วเลี้ยงมาให้เป็นแบบนี้ เป็นเจมีไนน์จูเนียร์ก็น่าจะดี (หัวเราะ) คิดว่าก็คงเป็นพ่อที่ดี เลี้ยงลูกได้สบาย ให้ลูกได้มีความสุขก็พอแล้ว” คำตอบของเจมีไนน์อดทำให้เรายิ้มตามไม่ได้และเชื่อว่าคงไม่ใช่แค่เราที่อยากเห็นภาพในวันนั้นของเขา

Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Makeup: Sutipat Pinchum
Hair: Kongkiat Krissakree 
Producer: Patharapapa Komvorn 
Style Assistants: Dulyadej Sangfueng, Wannisa Suwanasathien 
Photo Assistants: Watchara Panthong, Annop Dawwaset

Similar Articles

More