ฤดูกาลนี้ Dolce&Gabbana กลับมาตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นหนึ่งในผู้นำของห้องเสื้อที่เหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเลือกใช้ กลายเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นเฮาส์คู่บุญของเหล่าคนดัง ตั้งแต่ราชินีเพลงป๊อป Madonna (มาดอนนา) จนถึงป๊อปสตาร์ขวัญใจคน Gen-Z อย่าง Justin Bieber (จัสติน บีเบอร์) โดยหยิบเอาคำ ‘Paparazzi’ ซึ่งหมายถึง นักข่าวสายบันเทิงและช่างภาพแอบถ่ายคนดังในอิริยาบถต่างๆ มาใช้เป็นชื่อเรียกของคอลเล็กชั่น Fall-Winter 2025 รวมทั้งรันเวย์ที่ถูกเซตติ้งด้วยพรมแดงราวกับงานสำคัญระดับโลก และกองทัพช่างภาพคอยสาดแสงแฟลซพร้อมตะโกนเรียกนายแบบแต่ละลุคให้หันมาเพื่อจับภาพในมุมที่ตัวเองต้องการ

ความน่าสนใจในคอลเล็กชั่นนี้คือการที่สองคู่หู Domenico Dolce (โดเมนิโก โดลเช่) และ Stefano Gabbana (สเตฟาโน กาบบานา) นำเสนอความงามร่วมสมัยผ่านลุคของเหล่าคนดังแบบฉบับโลกฮอลลีวูดในช่วงกลาง จนถึงค่อยปลายศตวรรษที่ 20 โดยอิงแนวคิด La Dolce Vita หรือ ‘ชีวิตอันแสนหวาน’ ว่าด้วยการใช้ชีวิตให้มีความสุขตามแบบฉบับชาวอิตาเลียน มองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นด้านดี ใช้ชีวิตให้ช้าลงเพื่อหันมาเสพความงามของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น โดยแนวคิด La Dolce Vita ที่ว่านี้มีความสัมพันธ์กับ ‘เวลา’ ซึ่งถือเป็นความหรูหราของการใช้ชีวิตรูปแบบหนึ่ง เพราะผู้ที่สามารถละเมียดละไมไปกับสิ่งต่างๆ ได้นั้น ถูกนิยามว่าเป็นผู้ที่ ‘มีพร้อม’ ไม่ต้องรีบเร่งไปกับโลกที่หมุนไวในแต่ละปี




คอลเล็กชั่นรับลมหนาวประจำปี 2025 ซึ่งเป็นปีที่แบรนด์ Dolce&Gabbana ก่อตั้งมาครบ 40 ปี จึงนำทั้งเรื่องการแต่งกายของเหล่าคนดังซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของเฮาส์ และแนวคิดการใช้ชีวิตแบบอิตาเลียนขนานแท้ La Dolce Vita มาผนวกร่วมเป็นแรงบันดาลใจ นำมาสู่ผลลัพธ์ที่ได้คือเสื้อผ้าสุดคลาสสิกซึ่งสองคู่หูมองว่าความคลาสสิกเหนือกาลเวลาคือความหรูหราอันร่วมสมัย เมื่อผนวกเข้ากับการเลือกใช้วัสดุเป็นเลิศและการตัดเย็บด้วยอย่างประณีต (สอดคล้องกับนิทรรศการใหญ่ Dolce&Gabbana – Du cœur à la main หรือ ‘จากใจสู่มือ’ ที่กำลังจัดแสดงผลงานในกรุงปารีสเวลานี้) ด้วยแล้ว คอลเล็กชั่น Fall-Winter 2025 จึงถือเป็นความหรูหราที่เชื่อมโยงคนต่างยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกัน












คอลเล็กชั่นเครื่องแต่งกายคราวนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน ชิ้นเด่นของชุดกลางวันประกอบด้วยเสื้อโปโลถักลวดลายสามมิติ เสื้อคาร์ดิแกนตัวยาว เสื้อพูลโอเวอร์ และแจ็กเกตบอมเบอร์ตกแต่งขนเฟอร์เทียม ทั้งหมดถูกจับคู่กับยีนส์และกางเกงคาร์โก้ตัวโคร่งตามสมัยนิยม ในส่วนของชุดกลางคืนคราวนี้เน้นความหรูหราขั้นสุดของชุด Black Tie สำหรับสวมออกงานสำคัญ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความถนัดของห้องเสื้อ Dolce&Gabbana ที่ขึ้นชื่อว่าสันทัดในการตัดเย็บเทเลอริ่ง โดยเฉพาะกับทักซิโด้ที่คราวนี้มีให้เลือกทั้งแบบคลาสสิกและดูหวือหวาด้วยดีไซน์ปกที่แปลกตา ฟินิชชิ่งลุคด้วยเครื่องประดับเลอค่าทั้งสร้อยและเข็มกลัดระยิบระยับสะกดทุกคู่สายตา … และเชิญชวนให้เหล่าปาปารัซซี่หันมาโฟกัสเพียงแค่คุณ
Celebrities






















Dolce&Gabbana Men’s Fall-Winter 2025





































































Photo: Dolce&Gabbana, Launch Metrics