ถอดสูตรมิตรภาพ ความสำเร็จ และเบื้องลึกของ ‘มาย-อาโป’ ผ่านบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ

มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ สองหนุ่มที่มีผลงานแสดงร่วมกันนับตั้งแต่ คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ สู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แมนสรวง และกำลังจะมีโปรเจ็กต์ใหม่ด้วยกันอีกครั้งเร็วๆ นี้ในชื่อ ชาย (Shine)

การทำงานร่วมกันในฐานะพาร์ตเนอร์ที่มีเคมีกลมกล่อม พร้อมสรรพด้วยประสบการณ์ที่ถูกหล่อหลอมและได้รับการขัดเกลามาอย่างดี บวกกับจังหวะและเวลา สุดท้ายแล้วความพยายามก็เป็นผล ทั้งคู่สามารถจุดกระแสนิยมให้ตีแผ่ขยายวงกว้างไปไกลถึงระดับโกลบอล แอลเมนจึงถือโอกาสชวนมายและอาโปมาพูดคุยทบทวนแง่มุมต่างๆ ในขวบปีที่พวกเขารู้จักตัวเองมากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อถอดสูตรมิตรภาพและความสำเร็จเป็นการทิ้งทวนก่อนจะเริ่มต้นรับความสดใหม่ในปี 2025

มาย: แจ็กเกตผ้าการ์บาร์ดีนลายตาราง ใส่ทับเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้า และกางเกงผ้าวูลผสมออตโตมาน จาก Dior / อาโป: ใส่เสื้อเชิ้ตลายทาง สวมทับด้วยแจ็กเกตสีน้ำเงิน จาก Dior

ซีรีส์เรื่อง Shine ตอนนี้ดำเนินมาถึงขั้นตอนไหน

มาย: ตอนนี้อยู่ในกระบวนการหานักแสดงที่เหมาะกับบทจริงๆ เนื่องจากมีการปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เป็นแนวโรแมนติก-คอเมดี้ น่าจะเริ่มถ่ายกันในช่วงต้นปี 2025 

บอมเบอร์แจ็กเกตแต่งปกผ้าลูกฟูก ใส่ทับเสื้อเชิ้ตลายตาราง กางเกงผ้าวูล และชักก้าบู๊ตหนังสีน้ำตาล จาก Dior

ความท้าทายในการเล่นเรื่องนี้

อาโป: การได้กลับมาแสดงกับพี่มายอีกครั้ง โปว่าพวกเราต้องปรับจูนกันใหม่ เพราะต่างคนต่างโตขึ้น ต่างคนต่างมีประสบการณ์และมีมุมมองของตัวเอง 

มาย: คงเป็นเรื่องของคาแร็กเตอร์ที่ได้รับ เพราะค่อนข้างต่างจากตอนเล่นคินน์พอร์ช ไม่ว่าจะเป็นวิธีคิดหรือไลฟ์สไตล์ของตัวละคร ไม่มีอะไรคล้ายเดิมเลย

เสื้อโปโลสีชมพู สวมทับด้วยแจ็กเกต กางเกงลูกฟูกสีน้ำตาลเข้าชุด และสนีกเกอร์รุ่น B33 จาก Dior 

ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเป็น House Ambassador ของ Dior

อาโป: สำหรับโปถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ดิออร์ทรีตผมเหมือนคนในครอบครัว หลังจากมีโอกาสร่วมงานกันหลายครั้ง ทางแบรนด์ดูแลทั้งเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า รวมถึงการจัดการเรื่องอื่นๆ ทำให้ผมเข้าใจว่าการเป็น House Ambassador นั้นครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ

มาย: ชื่นชมกับการให้เกียรติซึ่งกันและกันทุกครั้งเวลาทำงานด้วยกัน ผมเห็นคุณค่าของโอกาสตรงนี้ พยายามสร้างโมเม้นต์และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งกับแบรนด์หรือกับแฟนคลับ อยากให้พวกเขาได้รับเมสเสจที่แบรนด์อยากจะส่งต่อผ่านตัวเราในฐานะ House Ambassador 

เสื้อนิตคอเต่า ใส่ทับเสื้อเชิ้ตสีเทาลายเช็ก คลุมด้วยเสื้อปาร์ก้าแต่งฮู้ดสีเบจ จาก Dior

คิดว่าเอลิเมนต์ของดิออร์ที่ตรงกับคาแร็กเตอร์หรือนิสัยของตัวเอง

อาโป: เชื่อว่าทั้งแบรนด์และตัวโป เราต่างก็ใส่ใจในรายละเอียดเหมือนกันทั้งคู่ เพราะตลอดการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทย ฝั่งฮ่องกง รวมถึงฝั่งปารีส ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับทุกดีเทลและมีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนเพื่อให้ผลลัพธ์ทุกอย่างออกมาสวยงาม ซึ่งโปก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในความงดงามเช่นกัน

เสื้อและกางเกงสีเบจเข้าชุดผ้าซิลก์แคนวาส ใส่กับสนีกเกอร์รุ่น B33 จาก Dior

จากวันแรกจนถึงตอนนี้ นิยามเรื่องแฟชั่นของมายเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน

มาย: แฟชั่นมันสนุกกว่าที่เราเคยรู้สึก ทั้งกับตัวเราเองและกับคนที่เห็นเรา บางทีแค่เล่นกับโทนสีก็ให้มู้ดที่เปลี่ยนไป ต้องขอบคุณดิออร์ที่ทำให้ผมกล้าแต่งตัวมากขึ้น ทำให้มีบุคลิกภาพแตกต่างไปจากเดิมเยอะเลย นิยามเรื่องแฟชั่นสำหรับผมคือการนับถือตัวเองผ่านสไตล์การแต่งตัว และไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเสื้อผ้าหน้าผม แต่เป็นไลฟ์สไตล์ เวลาสวมใส่เสื้อผ้ามันเหมือนเรากำลังเพอร์ฟอร์ม 

แจ็กเกตผ้าการ์บาร์ดีนลายตาราง ใส่ทับเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้า และกางเกงผ้าวูลผสมออตโตมาน จาก Dior

ภาพชีวิตในฝันของมายและอาโปเป็นยังไง ชีวิตตอนนี้เป็นไปตามที่คิดไว้ไหม

อาโป: เป็นมากกว่าฝัน โปว่าการที่เราได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวเองก็รู้สึกดีแล้ว แต่สิ่งที่เราทำมันส่งผลต่อจิตใจคนอื่นในแง่ของความสุข โปรู้สึกว่าสิ่งนี้ยิ่งใหญ่มาก 

มาย: ชีวิตตอนนี้ถือว่าเข้ารูปเข้ารอยและอยู่ในเส้นทางที่เป็นความฝันของผม คนอื่นอาจมองว่าการได้ยืนอยู่ท่ามกลางคอนเสิร์ตที่มีคนดูนับแสนก็เหมือนได้บรรลุเป้าหมายแล้ว แต่ผมไม่ได้โฟกัสจุดนั้น งานของผมคือการมอบความสุขให้ผู้อื่น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีอิสระในการให้และได้รับ เมื่อนั้นแหละคือจุดที่พอดีกับตัวตนของเรา จะพยายามบาลานซ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

เสื้อเชิ้ตลายทาง สวมทับด้วยแจ็กเกตสีน้ำเงิน และกางเกงลูกฟูกสีน้ำตาล จาก Dior

หลังจากลองทำมาแล้วทุกอย่าง ชอบทำอะไรในวงการนี้มากที่สุด

อาโป: โปชอบการแสดง โปว่ามนุษย์ทุกคนสามารถแสดงได้ เราแค่รู้สึกและสื่อสารมันออกมา เมื่อมีกล้องมาแคปเจอร์โมเม้นต์นั้นไว้ก็เกิดเป็นเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่จะส่งผ่านจากยุคสู่ยุคไปถึงเจเนอเรชั่นถัดไป ถ้าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการเล่าเรื่องที่ทำให้คนสามารถเข้าใจหรือตกตะกอนอะไรบางอย่างก็คงจะดี อย่างเรื่อง แมนสรวง โปว่าน่าจะมีคนเคยเห็นท่ารำเหล่านี้น้อยลงแล้ว ในอนาคตอีกสิบปีหรือยี่สิบปีข้างหน้า ถ้าเด็กรุ่นหลังหรือคนต่างชาติต่างภาษามีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะได้เห็นงานภาพและงานศิลป์ที่สวยงามแทรกซึมอยู่ในตัวหนัง

มาย: มีคนเคยถามว่าจริงๆ ผมชอบเป็นนักแสดงไหม ผมตอบกลับไปว่าเคยเห็นภาพตัวเองเป็นศิลปิน แต่สำหรับตอนนี้ผมมองเห็นภาพของการให้และการรับมากกว่า ผมอาจเป็นศิลปินหรือเป็นแค่ใครสักคนในสังคมที่มีบทบาททั้งเป็นผู้ให้และผู้รับ เราทุกคนต่างเป็นผู้มอบความสุขให้กันและกัน ผมไม่ใช้คำว่า ‘สร้างความสุข’ เลยด้วยซ้ำ และจะไม่หลอกตัวเองว่า ‘ฉันมาเพื่อสร้าง’ สิ่งที่ผมชอบระหว่างการทำงานในวงการนี้คือโมเม้นต์ที่เราสามารถแชร์ความสุขถึงกันได้ ทำให้ผู้คนเปิดใจกับเรามากขึ้น 

มาย: สวมแฮริงตันแจ็กเกตสีดำผ้าวูลผสม ใส่ทับเแจ็กเกตสีเทาแต่งซิป และเสื้อเชิ้ตลายทางผ้าป๊อปลิน จาก Dior / อาโป: บอมเบอร์แจ็กเกตสีน้ำเงิน ใส่ทับเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลผ้าคอตตอนผสม จาก Dior 

คิดว่า ‘มิตรภาพ’ จำเป็นกับชีวิตขนาดไหน

อาโป: โปว่าจำเป็นนะ เพราะมนุษย์คือสัตว์สังคม ดังนั้น มิตรภาพจากคนที่อยู่รายล้อมมันสามารถสะท้อนและบ่งบอกได้ว่าตัวเราเป็นคนยังไง ใช้ชีวิตแบบไหน การมีมิตรภาพที่ดีก็ส่งอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตเช่นกัน มันจะดึงดูดคนที่มีมุมมองคล้ายกันและช่วยส่งเสริมกัน

มาย: สำคัญแน่นอน คำว่า ‘มิตรภาพ’ ในมุมของผมคือการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน มันคือการเปิดใจต่อกัน ส่วนตัวเลเยอร์คำว่ามิตรภาพมากกว่าแค่เพื่อน แต่รวมไปถึงครอบครัว พี่น้อง และแฟนๆ ที่มาเจอกัน มิตรภาพสามารถเกิดขึ้นได้แล้วก็จบลงได้ ซึ่งผมมองว่าไม่แปลก มิตรภาพกับตัวเองก็สำคัญ ผมพยายามทำความเข้าใจตัวเองมากที่สุด ชอบหรือไม่ชอบตัวเองยังไง รับตัวเองได้ไหม แล้วจะทำยังไงต่อ มันเหมือนการได้ทบทวนตัวเอง

มาย: สวมแฮริงตันแจ็กเกตสีดำผ้าวูลผสม ใส่ทับเแจ็กเกตสีเทาแต่งซิป และเสื้อเชิ้ตลายทางผ้าป๊อปลิน จาก Dior / อาโป: สวมสเวตเชิ้ตสีน้ำตาล เสื้อยืดสีขาว แจ็กเกตสีเทาแต่งปกลูกฟูก และจ็อกแพนต์สีเบจ จาก Dior 

อยากบอกอะไรกับแฟนคลับผ่านบทสัมภาษณ์นี้

อาโป: ผมดีใจที่แฟนๆ ยังส่งพลังซัปพอร์ตให้โปกับมายอยู่เสมอ ช่วงที่ผ่านมาเราสองคนไม่ได้รับงานเยอะแต่ยังรอติดตามกันอยู่ ยังเชื่อมั่นในเส้นทางที่พวกเราเลือก ขอบคุณที่ยังเดินด้วยกัน 

มาย: แม้แฟนๆ จะไม่เห็นพวกเราผ่านสื่อบ่อยๆ แต่พวกเขายังรอคอยและให้การต้อนรับอยู่เสมอ ที่ผ่านมาเราพยายามเป็นตัวเองให้มากที่สุด แล้วแฟนคลับก็พร้อมจะเข้าใจและสนับสนุน สิ่งเหล่านี้ผมถือว่าเป็นพรจากสวรรค์ เป็นมิตรภาพที่ไม่หนีหายจากกัน ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ

มาย: บอมเบอร์แจ็กเกตสีเบจ สเวตเตอร์ทอลาย Cannage กางเกงเดนิม และกระเป๋าหนังลาย Oblique จาก Dior / อาโป: ฮู้ดดี้ใส่ทับเสื้อโปโล กางเกงขายาวสีดำเข้าชุด และรองเท้าหนังลูกวัว จาก Dior

ELLE MEN Talk

Credit Team 
Editor-in-Chief: Nichakul Kitayanubhongse
Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Videographer: Ketsara Leecharoen
Digital Editor: Khanakon Phettrakul
Digital Content Editor: Patsaraporn Chanamueng
Digital Content Creator: Poohchiss Kuanpiputkul
Makeup: Atimate Ariyakornanun
Hair: Sarayut Pengsomya
Producer: Patharapapa Komvorn
Video Editor: Amree Hayilateh
Style Assistant: Walailak Wongman
Photo Assistants: Annop Dawwaset, Similan Prangprasert, Watchara Panthong