ย้อนประวัติศาสตร์เสื้อผ้าบุรุษสุดเนี้ยบจาก Chanel มุมมองสุดเฉียบของ Karl Lagerfeld

ประวัติศาสตร์เสื้อผ้าชายของ Chanel ถูกพูดถึงอีกครั้งในปีนี้ ปักหมุดการเดินทาง 2 ทศวรรษนับตั้งแต่เปิดตัวผลงานสำหรับบุรุษอย่างเป็นทางการ สอดคล้องข่าวการโบกมือลาของ Virginie Viard หลังร่วมงานกับเฮาส์มานานกว่า 3 ทศวรรษและรับไม้ต่อจาก Karl Lagerfeld ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์มา 5 ปี โดยเรื่องที่ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ยังจุดประเด็นข่าวลือเกี่ยวกับว่าที่หัวเรือคนใหม่ มีรายชื่อ Hedi Slimane ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ Karl ออกแบบเสื้อผ้าชายสำหรับ Chanel ติดอยู่ในลำดับต้นๆ บนโผ ต่างก็คาดการณ์กันว่าหากเขาเข้ามารับตำแหน่งอันทรงเกียรติต่อจาก Virginie จริง เราอาจจะได้เห็นในส่วนของคอลเล็กชั่นบุรุษเต็มรูปแบบจาก Chanel เป็นการต่อยอดมรดกที่ Karl ทิ้งไว้ ส่วนจะออกมาตามที่คาดเดากันหรือไม่นั้นต้องรอติดตามตอนต่อไป

Chanel Spring-Summer 2005

จุดเริ่มเกี่ยวกับเสื้อผ้าชายของ Chanel ต้องย้อนกลับไปในปี 2001 คอลเล็กชั่นฤดูหนาวประจำปีนั้นถือเป็นโชว์เซอร์ไพรส์ที่ทำให้หนุ่มๆ ผู้เสพแฟชั่นแบบเข้าเส้นตาลุกวาว เมื่อปรากฏภาพนายแบบเดินเคียงข้างนางแบบสาวคนดังบนรันเวย์ ทั้งคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ และนาฬิการุ่นเก๋ J12 บนข้อมือที่ถูกออกแบบมาให้สวมใส่และใช้งานได้แบบยูนิเซ็กซ์คือการโยนหินถามทาง เช็คกระแสตอบรับว่าหากกูตูร์เฮาส์ที่ในประวัติศาสตร์รังสรรค์เพียงแค่ผลงานสำหรับสตรีจะมีสินค้าสำหรับเหล่าบุรุษผู้หลงใหลในความโก้หรูแบบฉบับ Chanel กับเขาบ้างจะเป็นเช่นไร? … แน่นอนว่าโชว์ที่ว่านั้นได้ผลตอบรับดีเกินคาด!

Chanel Tokyo Store Opening 2004

แต่หากจะว่าไป การแทรกผลงานที่ผู้ชายสามารถใส่ได้บนรันเวย์เมื่อ 23 ปีที่แล้วไม่ทำให้ผู้ชมฮือฮาได้เท่ากับ ‘ฟินาเล่ตัวจริง’ Karl ลุคใหม่กับหุ่นที่ดูเพรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นการสลัดภาพดีไซเนอร์ตุ๊ต๊ะที่ชินตามาตลอดช่วงยุค ’90s กลับไปเป็น Karl เวอร์ชั่นหุ่นเพรียวบาง อย่างที่เห็นในซีรีส์ ‘Becoming Karl Lagerfeld’ … “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?” …

เขาที่ว่าก็คือ Karl คนใหม่ กับบทบรรณาธิการในนิตยสารชั้นนำที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ชวนถกว่าอะไรที่ทำให้อยู่ดีๆ นักออกแบบรายนี้ลุกขึ้นมาลดน้ำหนักมากถึง 42 กิโลกรัม! ในระยะเวลาเพียงปีเศษ “ผมต้องการลดน้ำหนักเพื่อจะได้ใส่ชุดของ Dior Homme ออกมาดูดีที่สุด” เจ้าตัวให้สัมภาษณ์สยบข่าวลือว่าเขากำลังป่วย พร้อมเน้นย้ำ “ผมเป็นแฟนคลับ Hedi Slimane และตอนนี้ถ้าจะต้องใส่สูทผมไว้ใจให้ Hedi เป็นคนตัดเย็บ”

Chanel Pre-Fall 2010 และ G-Dragon ในงาน Privé Exhibition in Seoul 2017

Karl และ Hedi ที่เวลานั้นเป็นผู้คุมบังเหียนเสื้อผ้าชายของ Dior ในชื่อ Dior Homme (ระหว่างปี 2000 – 2007) สนิทสนมเนื่องจากชื่นชมผลงานของกันและกัน เรามักเห็นภาพผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แห่ง Chanel ไปปรากฏตัวในฐานะ ‘แขกแถวหน้า’ เกือบทุกโชว์ของ Dior Homme และใส่ผลงานของแบรนด์นี้ชนิดที่รันเวย์จบได้ไม่นาน Karl ก็จะรีบคว้ามาใส่ก่อนใครทันที

ที่สำคัญเป็นที่ทราบกันดีว่า Hedi Slimane นักออกแบบที่ขึ้นชื่อในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าชายลุคสกินนี่ Ano-Rock-Xia (คำล้อโรคคลั่งผอม Anorexia และคนที่คลั่งดนตรีร็อก) ยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักออกแบบที่คนในวงการส่วนใหญ่มักให้เกียรติโดยเรียกว่า “ไกเซอร์” ตัดสินใจปฎิวัติวงการ เปิดประวัติหน้าใหม่ให้กูตูร์เฮาส์เก่าแก่อายุหลักร้อยปี แม้ไม่มีป้ายลาเบลเป็นทางการ แต่คอแฟชั่นต่างก็เรียกขานว่า “Chanel Homme” ตามสไตล์แบรนด์หรูจากนครแห่งแสงไฟ

Chanel Cruise 2016 และ Spring-Summer 2011

หลังโยนหินถามทางด้วยการแทรกลุคผู้ชายไม่กี่ลุคในปี 2001 โดยยังดูคลุมเครือว่าแท้จริงแล้วชุดที่เหล่านายแบบสวมขึ้นรันเวย์นั้นเป็นเสื้อผ้าชายหรือหญิง อีกเพียงสามปีถัดมาก็ถึงเวลาให้ผู้ชายที่อยากใส่ Chanel ได้เฮกันถ้วนหน้าจริงๆ สักที เมื่อไกเซอร์ Karl ยกทัพไปจัดโชว์คอลเล็กชั่น Pre Fall 2004 อย่างยิ่งใหญ่ในกรุงโตเกียว โชว์ครั้งนั้นสร้างความฮือฮาและเปิดบทสนทนาให้คอแฟชั่นได้พูดถึงกันบน ‘เว็บบอร์ด’ ของเว็บไซต์ต่างๆ ด้วย “Chanel Homme”

โดยสาเหตุที่ทางแบรนด์เลือกให้แดนอาทิตย์อุทัยเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสื้อผ้าชายของ Chanel วางจำหน่าย ไม่เพียงเพราะญี่ปุ่นคือหนึ่งในลูกค้าหลักของแบรนด์ แต่สรีระของผู้ชายประเทศนี้ยังเหมาะกับเสื้อผ้าชายของเมซงโลโก้ C ไขว้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปแบบของผลงานเป็นไปในทิศทางเดียวกับเสื้อผ้าชายของ Dior Homme (อีกแบรนด์โปรดของผู้ชายญี่ปุ่นในเวลานั้น) เป็นเสื้อผ้าที่เหมาะกับผู้ชายร่างบางเช่นเดียวกัน ไม่สกินนี่เท่า แต่ดูหรูหรากว่าหลายเท่า

Pharrell Williams ศิลปินชายคนแรกบนแคมเปญ Chanel’s Gabrielle 2017

ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา Chanel ภายใต้การนำทัพของไกเซอร์ Karl จึงให้ความสำคัญกับฝั่งเสื้อผ้าชายมากขึ้น เกือบทุกโชว์ต้องมีลุคสำหรับบุรุษแทรกไว้ โดยออกแบบให้สอดคล้องกับคอลเล็กชั่นฝั่งสตรี ไม่เพียงเท่านั้น ยังให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ใหม่ของแคมเปญโฆษณา มีนายแบบสวม ‘Chanel Homme’ ทั้งคู่กับนางแบบและแบบฉายเดี่ยว และยังรวมถึงการให้ความสำคัญกับ Friend of House ที่เป็นผู้ชาย

นอกจาก Pharrell Williams ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือสไตล์ไอคอนจากเกาหลีใต้ G-Dragon แห่งวง BIGBANG ผู้เปรียบเป็นลูกรักอีกคนของ Karl เขาไม่เพียงเป็นดาวเด่นของโชว์ Chanel ทั้งในฐานะแขกไปร่วมชมและนายแบบ (GD ร่วมแสดงแบบในโชว์โอต์กูตูร์ฤดูหนาว 2015) แต่ยังทำให้คนทั่วโลกเห็นว่า ผู้ชายฉบับ Chanel นั้นเท่ขนาดไหน โดยใส่ออกสื่อบ่อยครั้งทั้งไปงานสำคัญและในชีวิตประจำวัน

Brad Kroenig และลูกชาย Hudson Kroenig นายแบบและมิวส์ของ Karl Lagerfeld บนรันเวย์​ Chanel Pre-Fall 2018

ผมเชื่อว่าไม่ว่าใครจะมาสานต่อประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของกูตูร์เฮาส์หลังนี้ หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชาว ELLE MEN คงอยากให้เกิดขึ้นคือการที่ผู้นำทัพคนใหม่จะได้สานต่อ “Chanel Homme” มรดกที่ไกเซอร์ Karl ทิ้งไว้ให้ เพราะเชื่อเถอะครับว่าบนโลกใบนี้มีผู้ชายที่หลงรักและอยากใส่ผลงานของ Chanel มากไม่แพ้สาวๆ และคราวนี้ละ บนตารางงานสัปดาห์แฟชั่นชายจะได้มีอีก ‘ไฮไลต์’ ให้ชาวแอลเมนต้องติดตามทุกฤดูกาล ส่วนความหวังจะเป็นจริงหรือไม่ เมื่อมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวเราจะรีบอัปเดตให้คุณทราบก่อนใครแน่นอน

Baptiste Giabiconi นายแบบและมิวส์ของ Karl Lagerfeld บนรันเวย์​ Chanel Haute Couture Spring 2016 และ Spring-Summer 2016

Similar Articles

More