เรียกว่านอกเจ้าเกมเก้าอี้ดนตรีของเหล่าแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ยังไม่จบลงไปแล้ว ในตอนนี้เหล่าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำกำลังแข่งขันกันกับเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเข้มข้น ซึ่งล่าสุด Burberry ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ต้อนรับศักราชใหม่ เมมเบอร์จากเกิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้ซึ่งเธอก็ ‘Danielle Marsh’ (ดาเนี่ยลล์ มาร์ช) สมาชิกจากวง‘NewJeans’ ที่ได้ขึ้นแท่นฑูตแฟชั่นของแบรนด์สัญชาติอังกฤษแบรนด์นี้ตามรอยรุ่นพี่ในวงการเคป๊อป และเพื่อนร่วมวงที่หลายๆ คนที่ได้รับตำแหน่งเดียวกันในแบรนด์แฟชั่นระดับโลกหลายๆ แบรนด์ไปก่อนหน้าเธอไม่นาน
แต่สำหรับ Danielle เรียกได้ว่าเป็นกรณีพิเศษที่ต่างจากเมมเบอร์คนอื่นๆ ของ NewJeans เพราะเธอกลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ Burberry ภายใต้การกุมบังเหียนของ Daniel Lee ดีไซเนอร์สไตล์มินิมอลมือฉมังที่เพิ่งย้ายมาจากเฮ้าส์อิตาเลียน Bottega Veneta ได้เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งในตอนนี้ถือเป็นช่วงที่แบรนด์ Burberry ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากยุคของ Riccardo Tisci (ริคคาร์โด ทิสซี) เข้าสู่ยุคของ Daniel Lee อย่างแท้จริง
ความเคลื่อนไหวแรกของนักออกแบบหนุ่มสัญชาติอังกฤษคนนี้คือการเปลี่ยนภาพคัฟเวอร์เฟสบุคของแบรนด์ให้กลายเป็นภาพลายตาราง ‘Burberry Check’ ลายพิมพ์อันเก่าแก่ของ Burberry เพื่อบอกใบ้แนวทางการออกแบบแฟชั่นของเขา แต่นอกจากนี้เขาเองก็ยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวหรือปล่อยผลงานออกแบบอะไรออกมา ทว่าคอแฟชั่นหลายๆ คนต่างเริ่มคาดเดาแนวทางการออกแบบกันแล้ว – ในวันนี้ ELLE MEN ขอพาทุกคนไปย้อนดูผลงานการออกแบบอันโดดเด่นของ Daniel Lee ที่พลิกโฉมแบรนด์เครื่องหนังสุดเก่แก่ Bottega Veneta สู่แบรนด์แฟชั่นสุดสเตทเมนต์อีกหนึ่งแบรนด์ของโลกแฟชั่น
เมื่อ Daniel เข้ามากุมบังเหียนแบรนด์อันเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยงานฝีมือเกี่ยวกับเครื่องหนังแบรนด์นี้ สิ่งแรกเลยที่เขาได้เปลี่ยนแปลงนั่นก็คือ ‘Intrecciato’ (อินเทร็ตชาโต) เทคนิคการสานเครื่องหนังอันโด่งดังของแบรนด์ เขาปัดฝุ่นใหม่ให้มีความโดดเด่นและทันสมัยมากขึ้น ด้วยการปรับขนาดของเส้นหนังที่เอามาสานให้มีขนาดใหญ่และหนาขึ้น รวมไปถึงการบุนวมให้กับแผ่นเส้นหนังจนกลายเป็นไอเท็มแฟชั่นยอดฮิตอย่างการเป๋าซีรีย์ The Padded Casstte
สิ่งที่สองเขาได้เสริมความแข่งแกร่งให้กับพาร์ตงานดีไซน์ของ Bottega Veneta ก็คงหนีไม่พ้นไอเท็มรองเท้า เขาได้ปรับปรุงรองเท้าหนังสุดคราฟต์ของแบรนด์นี้ให้มีดีไซน์ที่น่าใส่มากขึ้น รองเท้าของ Bottega Veneta ในยุคของ Daniel Lee เรียกได้ว่าสร้างเสียงฮือฮาให้กับคนแฟชั่นได้เป็นอย่างมาก ประเดิมคอลเลกชั่นแรกกับ The Stetch Sandals ส้นสูงตาข่ายประดับโซ่ เมื่อเรองเท้าคู่นี้วางขายเหล่าแฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์ก็ได้หยิบรองเท้าคู่นี้ไปใส่จนกลายเป็นไอเท็มสุดฮิตประจำซีซั่นเลย หรือ The BV Lido Sandals รองเท้าเปลือยส้นสุดไอคอนิกที่เขานำเอาลาย Intrecciato เข้าไปเสริมความน่าสนใจจนรองเท้าคู่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ แบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากไอเท็มรองเท้าที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า Daniel Lee ก็ยังได้ออกแบบกระเป๋าในดีไซน์ใหม่ๆ จนยกระดับงานกระเป๋าหนังสุดคราฟต์ที่เคยน่าเบื่อให้กลายเป็น It Bag ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมี ขยายลัทธิ ‘New Bottega’ ให้สตรองขึ้นไปอีก เริ่มด้วยกระเป๋ารุ่น The Chain Pouch กระเป๋าที่เปรียบเสมือนไอเท็มพลิกชีวิตให้กับ Bottega Veneta ด้วยซิลูเอ็ตต์กระเป๋าที่แปลกตาและดีเทลสายสะพายที่เป็นโซ่ขนาดใหญ่ทำให้ไอเท็มชิ้นนี้เตะตาเหล่าคนแฟชั่นตั้งแต่มันปรากฎตัวอยู่บนรันเวย์หรือ The Jordie Bag กระเป๋ารุ่นที่สองที่สามารถต่อยอดความฮอตของ Bottega Veneta ให้ฮอตขึ้นไปอีก
นอกจากไอเท็มแฟชั่นสุดเจ๋งที่ Daniel Lee ทิ้งไว้ให้กับแฟชั่นเฮ้าส์หลังนี้มีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาได้ทิ้งไว้ให้กับแบรนด์เครื่องหนังอันเก่าแก่แบรนด์นี้นั่นก็คือ ‘Bottega Veneta Green’ สีเขียวสดที่กระโดดไปอยู่ในทุกๆ ไอเท็มของแบรนด์จนมันกลายเป็นสีประจำของแบรนด์ไปแล้ว แถมยังสร้างการจดจำให้กับคนแฟชั่นทั่วโลกว่าเมื่อนึกถึงแบรนด์ Bottega Veneta ก็จะต้องนึกถึงสีเขียวสดเฉดนี้เท่านั้น!
Courtesy of Imaxtree
Courtesy of Imaxtree
มรดกแฟชั่นชิ้นสุดท้ายที่ Daniel Lee ทิ้งให้กับ Bottega Veneta ตลอด 3 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์หรูอิตาเลียนแบรนด์นี้คือสไตล์การออกแบบเสื้อผ้าแบบ ‘Minimalist’ (มินิมอลลิสต์) ที่ปรากฏเด่นชัดอยู่บนงานของเขาตั้งแต่คอลเล็กชั่นแรกที่เขาก้าวเท้ามาเหยียบแฟชั่นเฮ้าส์หลังนี้ ซึ่งงานออกแบบของเขาดันไปละม้ายคล้ายคลึงกับ Celine ในยุคของ ‘Phoebe Philo’ (ฟีบี้ ไฟโล) ที่สุดแสนจะมินิมอลและครองใจสาวๆ ทั่วโลก สาเหตุคงจะเป็นเพราะว่า Daniel เคยเป็นมือขวาของ Phoebe ในสมัยที่เธอเป็นหัวเรือหลักอยู่ที่ Celine
แต่ในความเหมือนก็มีความแตกต่างซ่อนอยู่ซึ่งนั่นก็คือ ‘ความง่าย’ ของงานออกแบบเสื้อผ้าระหว่างทั้งดีไซเนอร์มือฉมังทั้งสองคนนี้ Phoebe นั้นสร้างสรรค์งานแฟชั่นที่เรียบ เก๋ ซับซ้อน แต่เข้าถึงง่าย และ Fit-In กับผู้หญิงในทุกรูปร่าง ในขณะเดียวกัน Daniel พาไดเร็กชั่นเสื้อผ้าของ Bottega Veneta ไปสู่สไตล์มินิมัลที่แฟชั่นจ๋า! ที่ไม่ใช่ใครก็ใส่ได้ หากใครเคยสวมใส่หรือชื่นชมผลงานของทั้งสองใกล้ๆ ก็พอจะทราบข้อนี้ดี พอมาในยุคของ ‘Matthieu Blazy’ (แมธทิว เบลซี่) เขาได้ล้างกระดานความยากและไฮแฟชั่นของ Daniel ออกไปเกือบหมด คงไว้ซึ่ง DNA มินิมอลแต่เข้าถึงง่ายที่สังเกตได้จากไอเท็มสุดเรียบง่ายในคอลเล็กชั่นของเขาที่ถึงแม้จะง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยเทคนิคและงานฝีมือ
เรามาลุ้นดูกันดีกว่าว่านักออกแบบมือฉมังอย่าง Daniel Lee จะถ่ายทอดและตีความ DNA สุดคลาสซี่บริติชของ Burberry ออกมาในเวอร์ชั่นใด และเขาจะยังคงความไฮแฟชั่นและเข้าถึงยากเช่นเดียวกับตอนที่เขาอยู่ที่ Bottega Veneta ไหมเมื่อสเกลของ Burberry นั้นใหญ่กว่าพอสมควร (เปรียบเทียบจากรายได้ต่อปีของทั้งสอง)ที่สำคัญในแฟชั่นโชว์ที่กำลังจะมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์นี้เราจะเห็นสาว Danielle Marsh นั่งฟรอนต์โรว์ในลุคชนกับนางแบบบนรันเวย์เลยหรือไม่ มารอดูกัน!