หากพูดถึง New York Fashion Week หลายคนคงคิดว่าสัปดาห์แฟชั่นของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลนี้อาจจะไม่น่าสนใจเหมือนเมื่อก่อน เพราะมีแบรนด์แฟชั่นหลายๆ แบรนด์นั้นได้ไปจัดแฟชั่นวีกนอกตาราง บางแบรนด์ก็ย้ายไปจัดที่เมืองอื่นๆ เช่น ปารีส ทำให้ความซบเซาได้มาเยือนแฟชั่นวีกของเมืองนี้ แต่ในฤดูกาล Fall/Winter 2024 ที่ผ่านมาเรียกว่าเมืองนี้นั้นกลับมาได้แสงสปอร์ตไลต์มากขึ้น
เพราะในฤดูกาลมีหลายๆ แบรนด์ได้กลับมาจัดโชว์ในช่วงตารางแฟชั่นวีก รวมไปถึงเหล่าเซเลบริตี้ที่มาร่วมชมโชว์ก็แน่นขึ้น ซึ่งมีเซเลบริตี้หนุ่มจากไทยด้วยที่ไปสร้างมูลค่าสื่อให้แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกันแบบมหาศาล แต่นอกจากสองประเด็นนี้จะมีอะไรอีกบ้างที่ทำให้นิวยอร์กกลับมามีสีสันอีกครั้ง วันนี้ ELLE MEN Thailand รวมมาให้แล้ว!
1. แก๊งนักแสดงชาวไทยบุก NYFW
สำหรับไฮไลต์แรกเราไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับการเยือนมหานครนิวยอร์กของเหล่าเซเลบริตี้ไทย เพราะพวกเขานั้นได้สร้างมูลค่าทางสื่อให้กับแบรนด์ของหัวเมืองแฟชั่นนี้อย่างมหาศาล และคนแรกที่เราจะต้องพูดถึงเลยก็คือ วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่คว้าอันดับ 3 ในการสร้างมูลค่าสื่อทางออนไลน์ (EMV) จากการเข้าร่วมชมโชว์ Tommy Hilfiger Fall/Winter 2024 พร้อมกับ ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ และ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน
ยังไม่จบเพราะยังมีเซเลบริตี้ชาวไทยอีกกลุ่มที่เข้าร่วม New York Fashion Week ประจำฤดูกาลนี้นั่นก็คือ บลู-พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ ที่บินลัดฟ้าจากไทยไปเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ Coach สำหรับนักแสดงคนนี้เรียกว่าใส่อะไรก็ดูดีไปหมดไม่แปลกใจเลยว่าเป็นอีกหนึ่งครั้งที่เขาได้เข้าร่วมโชว์ในสัปดาห์แฟชั่นฤดูกาลนี้ และปิดท้ายด้วยหนุ่ม มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ และ ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย ที่เดินทางไปชมโชว์ของ Michael Kors ประจำฤดูกาลนี้ด้วยเช่นกัน
2. การกลับมาของตัวตึงประจำมหานครนิวยอร์ก
สาเหตุหนึ่งที่ช่วงหนึ่ง New York Fashion Week นั้นซบเซาลงก็อาจจะเป็นเพราะว่าเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดังผู้เปรียบเสมือนแม่เหล็กของนิวยอร์กได้ย้ายไปจัดโชว์ที่เมืองแฟชั่นเมืองอื่นๆ กันหมด รวมไปถึงการจัดโชว์นอกตารางแฟชั่นวีกของเหล่าซูเปอร์แบรนด์ อาทิ Ralph Lauren แต่ในฤดูกาลนี้ทั้ง Tommy Hilfiger , Thom Browne และ Theophilo
3. Thom Browne ผู้ครองรางวัล Best Performance
ถ้าเราเอ่ยชื่อ Thom Browne ออกมาแล้วจะไม่พูดถึงภาพรวมของโชว์เลยก็ไม่ได้เพราะว่าฤดูกาลนี้คอลเล็กชั่นของ Thom ได้แรงบันดาลใจจากบทกวีอเมริกันที่ชื่อว่า The Raven ของนักกวี Edgar Allen Poe เรื่องราวของบทประพันธ์นี้เกี่ยวกับอีกาตัวหนึ่งที่มาเยี่ยมเยือนชายคนนึงที่กำลังไว้ทุก การผสมผสานของงานเทเลอร์สุดอวองการ์ดกับเพอร์ฟอร์มแมนซ์สุดปังของนักแสดง ทำให้โชว์คอลเล็กชั่นนี้กินใจผู้ชมและคว้ารางวัล Best Performance ไปครอง
4. ดาวเด่นประจำฤดูกาล Fall/Winter 2024
ขอพักแบรนด์ตัวตึงมาโฟกัสที่ดาวเด่นประจำฤดูกาลกันบ้างซึ่งเราลิสต์มาให้ชาวแอลเมนได้ชมกัน 3 แบรนด์ด้วยกัน เริ่มกันที่แบรนด์แรกอย่าง Willy Chavarria เจ้าของรางวัล American Menswear Designer of the Year จากงาน CFDA Awards 2023 ที่คราวนี้ขอจัดเต็มผสานงานเทเลอร์กับงานสตรีตแวร์เข้าได้อย่างลงตัว ส่วนแบรนด์สุดแซ่บ Laquan Smith นั้นนำเสนอเสื้อผ้าสไตล์ดิสโก้ยุค ’80s ให้ดูร่วมสมัยและน่าใส่มากขึ้น ปิดจ๊อบกันที่ Theophilo ก็ผสานแรงบันดาลในกรันจ์และร็อกแอนด์โรว์เข้าไว้ในคอลเล็กชั่นนี้ โดยสร้างไดนามิกด้วยสีสันและดีเทลต่างๆ เชื่อว่าเหมาะมากกับสายแฟชาวแอลเมน
5. Ludovic De Saint Sernin เยือนรันเวย์นิวยอร์กครั้งแรก
สำหรับในฤดูกาลนี้อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจของฤดูกาลคงเป็นการมาเยือนของแบรนด์แฟชั่นสุดเซ็กซี่ Ludovic De Saint Sernin ที่คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2024 นี้ขอโบ๊กมือลาปารีสบินลัดฟ้ามายังนิวยอร์กเพื่อโชว์คอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลนี้ เพราะอเมริกาเหนือเป็นตลาดใหญ่ของแบรนด์นี้ โดยคอลเล็กชั่นนี้เขาได้แรงบันดาลใจจากผลงานของ Robert Mapplethorpe ช่างภาพผู้ล่วงลับ