นี่มันปี 2023 แล้ว มาทำให้การแต่งหน้าของผู้ชายเป็นเรื่องปกติกันดีไหม? แรกๆ อาจจะเคอะเขินหน่อย แต่รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ต่อไปนี้เป็นไอเท็มชิ้นพื้นฐานสำหรับการแต่งหน้าเบื้องต้น ที่เราถอดกระบวนท่านานาเมกอัพของคุณผู้หญิงให้ทอนลงมาเหลือแค่ 4 ขั้นตอนจำเป็น เริ่มตั้งแต่การปกปิดรอยตำหนิ ไปจนถึงทำให้ผิวสุขภาพดีมีแสงออกมา แม้ไม่เชี่ยวฯ ด้านความงามก็สามารถลงมือสะบัดแปรงเองได้ (จริงๆ นะ)
1. EYEBROWS: คิ้วคือมงกุฎของใบหน้า
ถ้าคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า ราชาอย่างเราก็ต้องจัดการมงกุฎให้เนี้ยบสมตำแหน่ง แม้ว่าตั้งแต่เล็กยันโต โอ้คิ้วไม่เคยรกรุงรังก็จริง แต่เมื่ออายุเริ่มเยอะขึ้น ขนคิ้วเองก็เริ่มเกเรตาม เพราะคิ้วอาจจะเริ่มขึ้นในตำแหน่งที่แปลกๆ ไปบ้าง อย่างเช่น ตรงกลางระหว่างคิ้ว หรือจะเป็นบริเวณรอบๆ คิ้วที่เริ่มขึ้นมาแล้วทำให้รูปทรงของคิ้วเราแปลกไปจากเดิม และเป็นเรื่องปกติที่คิ้วซ้าย-ขวาจะไม่เท่ากันอีกด้วย แต่ไม่ต้องห่วง เรามีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะมาช่วยแก้ไขตำหนิของมงกุฎบนใบหน้า
Tips: ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คิ้วของเรานั้นมีลักษณะอย่างไร เช่น หนา บาง ยาว หรือสั้น ที่สำคัญคือต้องรู้ว่าคิ้วของเรานั้นเริ่มและจบที่จุดไหนบนใบหน้า โดยให้เราสังเกตที่รากขนคิ้วซึ่งจะชัดเจนกว่าวัดที่ปลายขนคิ้ว เพราะบางคนที่คิ้วดกหนา เส้นขนคิ้วจะยาวจนอาจทำให้การหาปลายคิ้วคลาดเคลื่อนก็ได้
How to แต่งคิ้วให้หล่อ
เมื่อรู้ลักษณะของคิ้วแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือ อุปกรณ์ แม้ว่าสมัยนี้จะมีที่กันคิ้วแบบไฟฟ้าออกมามากมายก็จริง แต่ถ้าประสบการณ์กันคิ้วยังไม่ถึง เราแนะนำว่าใช้ “แหนบ” นี่แหละดีที่สุดแล้ว เพราะเราสามารถถอนทีละเส้น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป อัตราผิดพลาดน้อยกว่า เน้นถอนเฉพาะคิ้วเส้นที่ยาวเกินออกมา อย่าถอนคิ้วด้านในเพียงเพราะคิ้วดูหนา จริงๆ ความหนาของคิ้วเองก็เป็นเสน่ห์เหมือนกันนะ เพียงแค่ดูแลให้เรียบร้อยเท่านั้นเอง
Tips จัดคิ้วให้ดูดี
สุดท้ายคือเริ่มดึงขนคิ้วไล่จากล่างขึ้นบน ไม่ควรเล็มจากบนลงล่าง เพราะถ้าถอนมันมือเกินไปหน่อยอาจทำให้คิ้วเราแหว่งและกลายเป็นคิ้วที่โค้งลงมาก็ได้ ส่วนเรื่องความยาวของคิ้ว ถ้าไม่ยาวมากจนเกินไปก็ไม่ต้องตัดหรอก แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ แนะนำให้นำหวีมารองก่อน แล้วค่อยใช้กรรไกรปลายแหลมเล็มทีละนิดๆ ถึงแม้ว่าคิ้วจะงอกใหม่ได้ แต่ดีกว่าออกไปข้างนอกแบบคิ้วแหว่งประมาณสองสามวันอยู่ดี
Clear Brow Gel (ราคา 1,100 บาท) จาก ANASTASIA BEVERLY HILLS
ถ้าอยากให้เส้นคิ้วชัดและอยู่ทรง Clear Brow Gelจาก Anastasia Beverly Hills ช่วยได้ ท็อปโค้ตเนื้อเจลใสไม่มีสี ขนแปรงนุ่ม ปัดให้ขนคิ้วเรียงเส้น เนื้อสัมผัสบางเบา ช่วยเคลือบเส้นขนคิ้วและจัดทรงให้ได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นขุยระหว่างวัน ให้คิ้วอยู่ทรงยาวนานตลอดวัน
Norelco Nose Trimmer 3000 (สอบถามราคาที่ร้าน) จาก PHILIPS
เครื่องตัดแต่งและกำจัดขนบนใบหน้า หรือจมูก คิ้ว หู ได้อย่างนุ่มนวล มีระบบ Protective Guard ช่วยปกป้องผิวบอบบางด้วยการกั้นระหว่างผิวหนังและใบมีด และล้างทำความสะอาดใบมีดได้ด้วย
2. CONTOURING: คอนทัวร์หน้าให้มีมิติ
ขั้นตอนต่อมา คือการดึงมิติกลับมาสู่ใบหน้า อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ารองพื้นทำให้หน้าแบนเรียบเหมือนแคนวาส การคอนทัวร์หน้าหรือเฉดดิ้งจะเรียกแสงและเงากลับมา มันทำหน้าที่สร้างเงาให้หน้าดูเรียว พุ่ง ชัด เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า ว่ากันง่ายๆ คือการใช้สีน้ำตาลเข้มให้เกิดเงาเพื่อบีบกรอบหน้าหรือสันจมูกให้แคบลงไว้หลอกสายตาผู้อื่นให้เห็นว่าหน้าเราเรียวเล็ก การทำคอนทัวร์มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ในโอกาสไหน แต่สำหรับการเริ่มต้นและรูปหน้าเอเชียแบบเราๆ นั้นเหมาะกับคอนทัวร์แบบพระจันทร์เสี้ยวมากกว่า เพราะสิ่งที่ได้มาคือความเป็นธรรมชาติ การคอนทัวร์ใบหน้าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ แต่ถ้าเราพอรู้ทริกและจับทางได้ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับชายชาตรี หลังจากลงรองพื้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการใช้คอนทัวร์ที่มอบสีโทนเย็นออกน้ำตาลเทา (เพราะสีโทนนี้เป็นสีสำหรับใช้สร้างเงายังไงละ) ตำแหน่งของการลงคอนทัวร์สำหรับผู้ชายมักลงใต้โหนกแก้มเป็นอันดับแรก โดยการใช้แปรงลากเป็นแนวเส้นตรงใต้โหนกแก้ม
คอนทัวร์หน้าเป็นรูปตัวแอล
ใบหน้าผู้ชายมีกรามที่แข็งแรง ดังนั้นควรใช้คอนทัวร์เพื่อสร้างมิติบริเวณนี้ เริ่มจากใต้ใบหูแล้วลากเป็นแนวเส้นตามกรอบหน้า (นึกภาพตัว L) จากนั้นเคลื่อนไปตามแนวนอนตามแนวสันกรามธรรมชาติ เพื่อเน้นการสร้างโครงหน้าและเน้นส่วนของใบหน้าให้โดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติ
Tips คอนทัวร์หน้า
ระวังอย่าสับสน คอนทัวร์กับบรอนเซอร์ไม่เหมือนกันนะจ๊ะ บรอนเซอร์เอาไว้สร้างความอบอุ่นให้ใบหน้า สร้างลุคดูบ่มแดด ทำให้การแต่งหน้าดูเป็นธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ชายไม่ควรทำอะไรหวานเจี๊ยบเกินไป แค่สร้างเงาด้วยวิธีการคอนทัวร์ให้กับใบหน้าก็พอ
Match Stix Contour Skinstick (ราคา 1,160 บาท) จาก FENTY BEAUTY
อำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นที่สุด ด้วยแพ็กเกจจิ้งแบบแท่งพกง่าย คอนทัวร์แบบจัดเต็มไปเลยเพราะ Fenty ทำออกมาถึง 9 เฉดสี ให้ฟินิชชิ่งแนบเนียนที่เอื้อต่อการเลเยอร์บนผิว น้ำหนักเบา เนื้อสัมผัสครีมมี่ เกลี่ยง่าย ติดทน ไม่ตกร่องหรือลบเลือน
แปรง 103 Detail Foundation Brush (ราคา 860 บาท) จาก Zoeva
แนะนำให้ใช้แปรงลงคอนทัวร์จะดีกว่าเพราะแปรงจะมอบเส้นฟุ้งๆ ไม่แข็งให้ดูเป็นธรรมชาติ ลองแปรง 103 Detail Foundation Brush (ราคา 860 บาท) จาก Zoeva ดู ด้วยขนแปรงวีแกนที่แน่น รูปทรงหัวตัดและขนนุ่ม สร้างความปกปิดปานกลาง เหมาะกับใช้งานทั้งผลิตภัณฑ์เนื้อลิควิด ครีมและเจล ขนแปรงสังเคราะห์ทำให้แปรงอยู่ทรงและควบคุมการใช้งานได้ง่ายจึงไม่กักเก็บปริมาณผลิตภัณฑ์มากเกินไป ผลลัพธ์คือ สามารถเกลี่ยเนื้อง่ายและเป็นธรรมชาติ
3# LIPS: ลิปสติกที่เหมาะกับผู้ชาย
การทาริมฝีปากได้ครอบงำอาณาจักรของผู้หญิงมานานหลายศตวรรษ แต่รู้ไหมลิปสติกสำหรับผู้ชายไม่ใช่แนวคิดสมัยใหม่ จุดประสงค์ของลิปสติกต่างหากที่เปลี่ยนไป ในสมัยโบราณชายและหญิงมักแต่งหน้าเพื่อแสดงถึงสถานะและความมั่งคั่งของพวกเขา ซึ่งสีลิปสติกที่ใช้ในสมัยอียิปต์มักทำมาจากพืชบดและน้ำผลไม้ (ลองนึกภาพคุณยายเคี้ยวหมากแล้วปากแดง) น่าเสียดายที่ความหมายของลิปสติกเปลี่ยนจากสัญลักษณ์แห่งอำนาจเป็นการแสดงออกถึงความงามสำหรับตอนนี้ไปเสียแล้ว
ผู้ชายก็ทาลิปให้ดูคูลได้
หนึ่งในตัวอย่างของการทาลิปสติกสำหรับสุภาพบุรุษคนดังคือ เดวิด โบวี และบอย จอร์จ พวกเขาใช้ลิปสติกเป็นตัวแทนที่แสดงถึงความรู้สึก และทาลิปสติกเพื่อการแสดงโชว์ อิทธิพลของสิ่งนี้ได้แผ่ขยายไปสู่นายแบบบนรันเวย์และบรรดาดีไซเนอร์ รวมไปถึงบุคคลสำคัญทางสังคมในยุค 90 และต้นทศวรรษ 2000 ด้วย
สีไหนบ้างที่ผู้ชายทาได้
แนะนำให้ใช้ลิปมันสีสดใส เช่น ชมพู หรือส้มปะการัง ซึ่งช่วยขับให้ใบหน้าสดใสยิ่งขึ้น ผู้ชายอย่างเราแต่งหน้าไม่เยอะ ถ้าใช้ลิปสีโทนนู้ดหน้าจะดูหมองคล้ำ แถมลิปสมัยนี้เขามีนวัตกรรมเพิ่มส่วนผสมที่บำรุงริมฝีปากลงไปด้วย ยิ่งใช้ลิปเท่าไร ปากเราก็ยิ่งดูชุ่มชื้นสุขภาพดีขึ้นไปอีก
เคล็ดลับการดูแลริมฝีปากสำหรับผู้ชาย
ทำการสครับเบาๆ บนริมฝีปากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (การสครับริมฝีปากขณะอาบน้ำมักเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเนื่องจากตัวเปียกอยู่แล้ว) การทำเช่นนี้จะช่วยขจัดสิ่งตกค้างสะสมที่ตายแล้วบนผิวหนังออก ทำให้ริมฝีปากของคุณน่าจุ๊บและดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น หลังจากขจัดเซลล์ผิวที่คั่งค้างบนริมฝีปากแล้ว แนะนำให้ทาลิปบาล์มก่อนนอนเพื่อบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก และดูอิ่มฟู
Les Beiges Lip Balm (ราคา 1,500 บาท) จาก CHANEL
ลิปบาล์มสีจางอ่อนๆ ดูไม่ประเจิดประเจ้อ มอบความชุ่มชื้นที่เจือสีอ่อนๆ และเพิ่มระดับความเข้มได้ตามต้องการ มอบความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติด้วยอนุพันธ์จากวิตามินอีและมอริงก้า รวมถึงบัตเตอร์ที่ช่วยปกป้องริมฝีปากจากปัจจัยแวดล้อมภายนอก
Lip Repair (15ml. ราคา 1,090 บาท ซื้อได้ที่ร้าน FIRSTER) จาก WOODS COPENHAGEN
ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากที่แฝงประโยชน์ล้ำเลิศ ด้วยสูตรและส่วนผสมที่มีศักยภาพอันทรงพลังจากรากฐานทางธรรมชาติของชาวนอร์ดิก ไม่ว่าจะเป็นน้ำบริสุทธิ์ปราศจากมลพิษที่มาจากน้ำพุอาร์กติกในภาคเหนือของกรีนแลนด์ ผสานกรดไฮยาลูโรนิกและน้ำมันบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นเข้มข้นและยาวนาน ช่วยบรรเทาริมฝีปากแห้งแตก ฟื้นฟูให้ริมฝีปากนุ่ม แถมยังปรับริ้วรอยให้เรียบเนียนและคงความชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ
4# FOUNDATION: Cover-up King
ส่วนใหญ่เวลาผู้หญิงแต่งหน้า หลังลงกันแดดพวกหล่อนจะนิยมลงไพรเมอร์หรือเบสเพื่อปรับสีผิวให้สว่างในขั้นตอนแรก สองสิ่งนี้เป็นฮีโร่สำหรับคนที่หวังผลให้เมกอัพติดทน แก้ไขสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผลลัพธ์คือหน้าดูไม่โทรม เพราะไพร์เมอร์ทำการปกปิดสิ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยไปแล้วหนึ่งชั้นและไม่ต้องลงรองพื้นหนาเตอะด้วย ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการแต่งหน้าของชาวเกาหลีที่ช่วยให้ใบหน้าเราขาวสะอาด สีแลดูสม่ำเสมอเสมือนผ้าใบ ทีนี้จะละเลงอะไรก็อีซี้อีซี่ แต่คุณครับ… ถ้าลงทั้งไพรเมอร์ เบส และรองพื้นก็จะดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนไป แค่แต่งหน้าเองก็เหงื่อท่วมพอแล้ว เอาละ หลังลงกันแดดก็จัดรองพื้นอย่างเดียวก่อนก็แล้วกัน เพียงใช้เบอร์รองพื้นที่เข้มกว่าผิวประมาณครึ่งหรือหนึ่งเฉด แล้วแต่ความชอบของคุณว่าอยากให้ผิวเข้มมากหรือน้อย
เตรียมผิวก่อนเมกอัพ
สำหรับใครที่กลัวหน้าโทรม ให้หยิบคอนซีลเลอร์เฉดสีผิวตัวเองมาป้ายรอยคล้ำใต้ตาดูสักหน่อย (ลงหลังรองพื้นนะ) ซึ่งขั้นตอนการแต่งหน้าไม่มีผิดถูก จะลงก่อนหรือหลังรองพื้นนั่นแล้วแต่สะดวก แต่ขั้นตอนที่เรามาแนะนำคือคนส่วนใหญ่นิยมทำกัน เพราะปฏิบัติได้จริงและง่ายที่สุด หากลงคอนซีลเลอร์ก่อนรองพื้นจะควบคุมยาก เพราะคุณจะเติมและกลบรอยคล้ำไปเรื่อยๆ ปริมาณก็จะหนาขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะต้องตบด้วยรองพื้นอีกชั้น แต่ถ้าลงรองพื้นแล้วหน้าเนียนกริบเลยก็ถือว่าโชคดีหน่อย จะได้ไม่พึ่งคอนซีลเลอร์เพื่อกลบรอยแล้ว
Tip: การเมกอัพแบบNo Make-up
แล้วลงอย่างไร? ทาอย่างไร? แนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำ (ฟองน้ำที่ว่ามีรูปทรงคล้ายหยดน้ำ เรียกให้ดูโปรหน่อยก็ Beauty Blender) จากนั้นรีดน้ำออกให้ฟองน้ำหมาดๆ ปั๊มรองพื้นนิดหน่อยลงบนหลังมือ แล้วนำฟองน้ำมาแตะเนื้อรองพื้น ไล่เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า แต่คำถามคือ… ทำไมถึงต้องเอาฟองน้ำชุบน้ำล่ะ? ก็เพราะว่าเกลี่ยง่าย ไหลลื่น ปริมาณเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เกลี่ยลงไปจะไม่หนา คืองี ฟองน้ำที่ชุบน้ำแล้วจะทำให้การลงรองพื้นบางเบาขึ้นและติดผิวมากที่สุด ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อความเมกชัวร์ไม่โดนสาวจับโป๊ะได้ว่าแต่งหน้ามาหรือโดนหาว่าเป็นผู้ชายจริงปะเนี่ย! วิธีแก้ปัญหาคือ ควรฟินิชชิ่งเพื่อให้รองพื้นไม่ติดแมสก์ด้วยการเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วหน้า จากนั้นพลิกฟองน้ำอีกด้านที่ไม่โดนรองพื้นแล้วซับให้ทั่วหน้าอีกรอบเพื่อเกลี่ยรองพื้นที่เป็นส่วนเกินออก ทีนี้ก็ตีเนียนไปได้เลยว่า No Make-up เท่านี้ก็จบกระบวนการ
Eaze Drop’Lit All-Over Glow Enhancer สี Honey Citrine (ราคา 1,350 บาท) จาก FENTY BEAUTY
เหมาะกับผิวผู้ชายสุดๆ เพราะตัวนี้เหมาะใช้เป็นงานผิว สร้างความเป็นธรรมชาติ เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบาที่มาพร้อมกับผลลัพธ์ของผิวที่ดูเปล่งปลั่ง ด้วยเทคโนโลยี Prismatic Pearl ซึ่งช่วยในการสะท้อน หักเห และกระจายแสงได้อย่างดี Eaze Drop’Lit ช่วยเบลอจุดบกพร่องบนใบหน้าในทุกมุมมองและทุกประเภทของแสง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมน่าสนใจหลายอย่าง เช่น Milk Thistle Extract ที่ช่วยกระชับรูขุมขน, Pomegranate Peel Extract และ Vitamin E ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส แนะนำให้เทเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาในขนาดเท่าเมล็ดถั่วก่อน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและปรับความกระจ่างใสให้ผิวหน้า
Neo Cushion Matte (ราคา 1,350 บาท) จาก LANEIGE
ใช้ง่าย ติดทน เราชอบที่มีอุปกรณ์ครบจบทุกอย่างในตลับ ไม่ต้องซื้อแปรงแยก ใช้แป้งพัฟฟ์ตบๆ ไปเลย ซึ่งทางแบรนด์ดีไซน์แป้งพัฟฟ์ให้สามารถดูดซับ กักเก็บ ควบคุม และปล่อยให้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างสม่ำเสมอ เป็นคุชชั่นเนื้อแมตต์ที่มีสูตรควบคุมความมันและผลิตน้ำมันส่วนเกิน กันน้ำ กันเหงื่อโดยที่ไม่ไหลเยิ้มหรือเหนอะหนะแม้อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนชื้น ไร้คราบติดแมสก์หรือโทรศัพท์อีกด้วย