การตีความใหม่สู่เฉดสีน้ำเงินเข้ม ทั้งยังผสมผสานไว้ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมวัสดุในฐานะ Master of Materials ของ Rado นั้น ได้นำมาสู่การเปิดตัวนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้มกรมท่าโฉมใหม่ใน 2 ผลงานรุ่นล่าสุด ทั้งจากคอลเลกชั่นระดับตำนานใน Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton R32153209 และนาฬิกาดีไซน์ทันสมัยสไตล์เออร์เบินของ True Square Automatic Skeleton R27178205
5 เรื่องราวเด่นๆ ของนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้มรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Rado
Rado แบรนด์นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์เปิดตัวนาฬิกาไฮเทคเซรามิกครั้งแรกในปี 1986 ด้วยรุ่น Rado Integral ที่นับเป็นนาฬิกาเรือนแรกของ Rado ซึ่งทนทานต่อรอยขีดข่วนได้สูง
หลังการวิจัยและพัฒนาเพื่อมองหาวัสดุชนิดใหม่ที่มีทั้งความทนทานสูง โดยเฉพาะต่อการเกิดรอยขีดข่วนและการเสียดสี นอกจากนี้ ยังให้สัมผัสที่นุ่มนวลและความสะดวกสบายต่อผิวของผู้สวมใส่ จึงได้มาเป็นผลลัพธ์ของนวัตกรรมวัสดุไฮเทคเซรามิกที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวอันโดดเด่น ทั้งการไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหรือแพ้ รวมถึงมีน้ำหนักเบาอย่างน่าทึ่ง จึงช่วยให้สามารถสร้างสรรค์นาฬิกาที่สวมใส่บนข้อมือได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งนับเป็นโจทย์ข้อสำคัญของการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ๆ ของ Rado โดยไฮเทคเซรามิกเหล่านี้จำเป็นต้องผ่านกระบวนการผลิตอันซับซ้อนและด้วยเครื่องจักร รวมถึงเทคโนโลยีอันทันสมัย นับจากการผสมผสานของผงอะลูมิเนียมออกไซด์ เซอร์โคเนียมออกไซด์ และซิลิกอนไนไตรด์บริสุทธิ์ ก่อนจะนำไปคาลิเบรทอย่างละเอียดและมีขนาดเกรนที่สม่ำเสมอเพื่อนำมาขึ้นรูปภายใต้สภาวะที่เข้มงวดสูงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของรูปทรงที่ต้องการ จากนั้นจึงผ่านการอบที่อุณหภูมิสูงเพื่อสร้างสรรค์สัดส่วนและคุณสมบัติตามที่ต้องการ ทั้งยังอาศัยวิธีการใหม่ที่ Rado พัฒนาขึ้นเฉพาะ โดยการใช้สารตัวกลางเพื่อช่วยนำพาให้พลาสติกผสมกับผงแร่และฉีดเข้าสู่แม่พิมพ์ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจึงเป็นการเผาผนึกเพื่อเพิ่มความแข็งและความหนาแน่นอันเป็นผลลัพธ์ของคุณสมบัติด้านความทนทาน ที่ไฮเทคเซรามิกนี้มีความแข็งอยู่ที่ระดับ 1,250 ในสเกล Vickers เลยทีเดียว
Rado นับว่าเป็นผู้บุกเบิกในตลาดนาฬิกาที่คิดค้นนวัตกรรมไฮเทคเซรามิกออกมาหลากหลายเฉดสี
เราอาจคุ้นเคยกับภาพของไฮเทคเซรามิกสีดำหรือสีขาว และโทนสีโมโนโครมต่างๆ กันมากกว่า แต่ด้วยเพราะการเดินหน้าพัฒนาและต่อยอดด้านความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมวัสดุมาอย่างต่อเนื่องของ Rado จึงทำให้เรามีโอกาสได้สัมผัสกับสีสันใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในคอลเลกชั่นนาฬิกาไฮเทคเซรามิกเหล่านี้เสมอ เช่นก่อนหน้านี้กับบรรดาเฉดสีพาสเทล หรือสีสดใสอย่างเทอร์ควอยซ์ และสีเหลืองของนาฬิการุ่น True Square หรือมาดสุขุมในโทนสีเขียวมะกอกตกแต่งแบบด้านของ Captain Cook ทว่า การเดินทางของเฉดสีสำหรับไฮเทคเซรามิกนั้นก็ไม่ได้หยุดนิ่งแต่เพียงเท่านี้ กับการเปิดตัวนาฬิกาเฉดสีใหม่ๆ อย่าง ล่าสุดของการเปิดตัวไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้มกรมท่า ที่นอกจากจะเป็นโทนสีน้ำเงินซึ่งให้อารมณ์แบบฟีลกู้ด อบอุ่น เข้ากับลุคและสไตล์การแต่งตัวได้อย่างหลากหลายแล้ว เทรนด์ของนาฬิกาเฉดสีน้ำเงินเองก็ยังคงเป็นที่นิยมตลอดกาล จึงช่วยให้นาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินใหม่นี้อยู่คู่กับข้อมือผู้สวมใส่ได้อย่างโดดเด่นเสมอ ขณะเดียวกันแบรนด์ก็ยังคงเดินหน้าสู่การสร้างสรรค์ไฮเทคเซรามิกเฉดสีใหม่ๆ อย่าง เฉดสีพาสเทล ตลอดจนสีสันและการตกแต่งอันสวยงามที่มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน วัสดุไฮเทคเซรามิกเหล่านี้มีให้เลือกมากกว่า 20 สีและรูปแบบ รวมไปถึงความล้ำสมัยของพลาสม่าไฮเทคเซรามิก และนวัตกรรมวัสดุ Ceramos™ ในเฉดสีเทา ที่มีคุณสมบัติพิเศษของการเป็นโลหะแข็งซึ่งมีความทนทานสูงแบบเดียวกัน
เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดเอาใจคนรักสีน้ำเงินด้วยรุ่น Captain Cook R32153209 และ True Square R27178205 จุดเด่นคือหน้าปัด Skeleton เผยกลไล R808
ทั้งหน้าปัดเปลือยแบบ Skeleton และการเปิดโชว์ให้เห็นกลไก R808 ที่มีประสิทธิภาพสูงนั้นถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้มกรมท่า 2 รุ่นใหม่ โดยทั้งคู่ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติอันทรงพลัง อย่าง R808 ซึ่งมาพร้อมด้วยแฮร์สปริง Nivachron™ อันทันสมัยสูงสุด ด้วยคุณสมบัติเด่นๆ ด้านความทนทานสูงต่อแรงกระแทก ทนทานต่อความร้อนที่แปรผัน และต้านทานสนามแม่เหล็กได้สูง โดยผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงใน 5 ตำแหน่งทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำและเที่ยงตรง สำหรับนาฬิกาแสดงเวลาแบบ 3 เข็มชี้ของทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังมั่นใจได้ถึงความเที่ยงตรงและความต่อเนื่องของการทำงานแสดงเวลาที่ได้มาจากความสามารถในการสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมงซึ่งมอบให้โดยกลไกประสิทธิภาพสูงนี้ นอกเหนือจากความครบเครื่องเรื่องฟังก์ชันและการใช้งานแล้ว เจ้าของนาฬิกายังสามารถชื่นชมความสวยงามของกลไกได้จากหน้าปัด Skeleton หรือแบบเปลือย ที่โชว์การตกแต่งชิ้นส่วนกลไกด้วยโทนสีน้ำเงินเข้มกรมท่าเดียวกัน รวมถึงฝาหลังของตัวเรือนที่นับเป็นครั้งแรกกับการตกแต่งด้วยการเคลือบ PVD สีกรมท่าเข้มรับไปกับโทนสีของนาฬิกาทั้งเรือนอีกด้วย นับเป็นจุดที่สะท้อนถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดเป็นอย่างดีของ Rado
นาฬิกา Rado เน้นความ Functional สวมใสได้จริง คุณภาพดี สวยงาม ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างรุ่น R32154208 มาพร้อมสายนาฬิกาสแตนเลส และซองหนังสีน้ำเงิน มีสายนาฬิกาสองแบบให้เลือก ได้แก่ สายหนังสีน้ำเงินคลาสสิกหรือสายผ้า NATO
การสร้างสรรค์นาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินกรมท่าใหม่ของ Rado ไม่เพียงให้ความสำคัญกับเสน่ห์ของโทนสีที่รับไปกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคสมัยใหม่ รวมถึงสไตล์แบบเออร์เบินที่ต้องมีทั้งความคล่องแคล่ว สะดวกสบาย และสวยงามในเวลาเดียวกัน แต่การผลิตนวัตกรรมวัสดุไฮเทคเซรามิกของแบรนด์ยังคงเน้นถึงความกลมกลืนระหว่างภาพความสวยงามและคุณสมบัติอันเหนือชั้นของวัสดุ เหมือนกับในนาฬิกา 2 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ที่แบรนด์ได้ใช้ไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินกรมท่าในการผลิตทั้งตัวเรือนและเม็ดมะยมไฮเทคเซรามิก พร้อมทั้งผ่านการตกแต่งพื้นผิวสีน้ำเงินเข้มอย่างสวยงามประณีต โดยเฉพาะเมื่อเล่นกับแสงสะท้อนจากทุกมุมมอง นอกจากนี้ ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้มกรมท่าของนาฬิกา Rado รุ่นใหม่ก็ยังคงถูกออกแบบมาให้มีความโค้งที่รับไปกับทุกขนาดข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย
สำหรับนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้มกรมท่า 2 รุ่นใหม่ อย่าง Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton R32153209 และ True Square Automatic Skeleton R27178205 ยังมาพร้อมกับการจับคู่เป็นครั้งแรกเข้ากับสายยางสีน้ำเงินที่เป็นโทนสีเดียวกันกับตัวเรือนไฮเทคเซรามิก รวมถึงเสริมความมั่นใจและเติมลุคทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยตัวล็อกสายนาฬิกาออกแบบใหม่ซึ่งใช้ฝาปิดไฮเทคเซรามิกสีน้ำเงินเช่นกัน ทั้งยังผ่านการขัดเงา ตลอดจนปุ่มกดสำหรับปลดล็อกสายที่ตกแต่งด้วยการขัดเงาไว้อย่างลงตัว การเลือกใช้ไฮเทคเซรามิกกับหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของนาฬิกานี้ได้ตอกย้ำถึงความเชี่ยวชาญของ Rado ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมวัสดุที่มีประโยชน์การใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของบรรดาผู้สวมใส่นาฬิกาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีส่วนของบานพับล็อกที่สามารถขยายความยาวของสายได้โดยทำจากสเตนเลสสตีล เพื่อช่วยเสริมทั้งประสิทธิภาพ และความสะดวกสบายในการเลือกหยิบนาฬิกาเหล่านี้มาสวมใส่และปรับสายได้อย่างง่ายดายเสมอ
Rado เป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรม High-Tech Ceramic เพื่อนำมาเป็นวัสดุหลักในการผลิตนาฬิกา Swiss Made ที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดดเด่น คือ มีความทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน และมีความสวยงาม
ส่งท้ายกันด้วยคุณสมบัติซิกเนเจอร์และกลายเป็นหัวใจของบรรดานาฬิกาไฮเทคเซรามิกอันโด่งดังของ Rado ที่ครองใจเหล่าคนรักนาฬิกามาอย่างยาวนานเสมอนั้น ย่อมต้องรวมไปถึงความโดดเด่นหลักๆ ของนวัตกรรมวัสดุไฮเทคเซรามิกที่แบรนด์พัฒนาขึ้นเฉพาะ อย่าง ความมีน้ำหนักเบาซึ่งเบากว่าวัสดุประเภทสตีลถึงประมาณ 25% แต่มีความแข็งและทนทานสูงทั้งต่อการเกิดรอยขีดข่วนและการเสียดสี รวมถึงต่อการเสื่อมสภาพ ข้อดีเหล่านี้จึงช่วยให้สวมใส่นาฬิกาได้สบายข้อมือ ทั้งยังมีสัมผัสที่อ่อนโยนต่อผิวโดยไม่ทำให้การระคายเคืองหรือแพ้ นอกจากนี้ ไฮเทคเซรามิกยังสามารถปรับอุณหภูมิได้ดีไปตามผิวสัมผัสของผู้สวมใส่จึงยิ่งเสริมสัมผัสของความอ่อนโยนและสบายราวกับเป็นผิวหนังชั้นที่สอง ยิ่งเมื่อผสมผสานเข้ากับงานดีไซน์ที่ผ่านกระบวนการออกแบบและสร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถันของ Rado ด้วยแล้ว นาฬิกาไฮเทคเซรามิกเหล่านี้ก็ยิ่งมีความโดดเด่นเฉพาะตัวและคงเอกลักษณ์แห่งความสวยงามได้อย่างเหนือกาลเวลา