Words Miss Cherdchai
Fashion Editor Ratchakrit Chalermsan
Photo Sutthiwat Sangkong
เดินยิ้มกว้างมาแต่ไกล พร้อมหิ้วกาแฟสองถุงใหญ่ ผู้ชายหล่ออย่างกับเทพบุตรในประเทศไทยมีไม่กี่คนหรอก ใช่แล้ว… ‘นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ’ ล้านเปอร์เซ็นต์ “ผมกับแม่เอากาแฟมาฝากพี่ๆ ทีมงาน ELLE MEN Thailand ครับ” ผู้ชายคนนี้น่ารัก ใจกว้าง ถ่อมตัวเสมอต้นเสมอปลายเลยแฮะ
พอปิดห้องนั่งสัมภาษณ์ปุ๊บ นายก็ยิงคำถามใส่เรารัวๆ “พี่ชื่ออะไรครับ พี่ทำงานที่ ELLE MEN Thailand มานานเท่าไรแล้ว แม่ผมบอกเสมอว่าพยายามจำชื่อคนให้ได้” คุณหมู-พิมพ์ผกา ให้เหตุผลกับลูกชายว่า การจำชื่อคนได้เป็นความสัมพันธ์ที่ดีอย่างหนึ่ง และเป็นพลังงานความสุขให้กับคนที่เราพบเจอด้วย ผู้เขียนเลยประกบมือ พร้อมทำท่าว่ายน้ำเหมือนปลา เพราะเคยอ่านเจอในหนังสือจิตวิทยาว่า ยิ่งเราแสดงท่าทางหรือให้คนจินตนาการภาพตามได้ จะทำให้เขาจำชื่อหรือคำศัพท์นั้นๆ ได้แม่นยำ
ตอนที่นายถามเราว่าทำนิตยสารมานานแค่ไหนแล้ว เขาดูสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ ด้วยความที่สมัยเด็กๆ มีความฝันว่าอยากเป็นสถาปนิกและชอบงานกราฟิกดีไซน์ จึงเลือกเรียน Communication Design ที่มหาวิทยาลัยมหิดล “ผมชอบงานดีไซน์มากกว่างานอาร์ต ผมถนัดงานแบรนดิ้ง” เขาไม่ได้ผลักไสศิลปะ แต่แค่ชอบความมีเหตุมีผลและที่มาที่ไปในเนื้องาน เช่น งานดีไซน์สามเหลี่ยม เขาจะตั้งคำถามว่าทำไมต้องเป็นสามเหลี่ยม “ผมต้องหาเหตุผลมาซัพพอร์ตงานดีไซน์สามเหลี่ยมของผม ทำไมมันถึงออกมารูปแบบนี้ คิดลอยๆ ไม่ได้ครับ ต้องมีตรรกะ” ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขาทำโปรเจ็กต์เกี่ยวกับการออกแบบแบรนดิ้ง แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดไปเพราะได้มาเป็นนักแสดง แล้วถ้าวันนี้ไม่ได้เป็นพระเอกคิดว่าตัวเองจะทำอะไรอยู่? “อืม ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกเลยครับ แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ผมจะทำ ต้องเป็นสิ่งที่ไม่เบียดเบียนคนอื่นและไม่ผิดศีลธรรมครับ”
นายเพิ่งถ่ายละครจบไป ชื่อเรื่องว่า ‘แค้น’ ของผู้จัด แอน-ทองประสม ซึ่งเราจะได้ชมกันเร็วๆ นี้ “เรียกได้ว่าเป็นละครดราม่าของผมเรื่องแรกในชีวิตเลยครับ เป็นละครที่รู้สึกสนุกสนานในการถ่ายทำมาก เพราะได้ร่วมงานกับดารามากฝีมือ พี่แต้ว-ณฐพร พี่ปั้นจั่น-ปรมะ และได้เล่นกับพี่แอฟ-ทักษอร เป็นครั้งแรกด้วย รวมไปถึงนักแสดงอีกหลายคนเลย ละครเรื่องนี้ถ่ายทำเร็วที่สุดในชีวิตตั้งแต่ผมเคยเล่นละครมาเลยครับ ทุกคนทำงานกันเร็วมากและโปรเฟสชันนัลมาก ใช้เวลาประมาณแค่ 7-8 เดือนเท่านั้น สนุกสนานมาก บทก็ท้าทาย ตัวละครทุกตัวจะมีมุมตั้งแต่เฉดขาวไปจนถึงดำ จะได้เห็นทุกระดับเลย ไม่ใช่แค่ด้านขาวหรือดำด้านเดียว มีความเป็นมนุษย์สูงมากๆ ในตัวละครนั้นๆ”
แค่ชื่อเรื่องก็รู้แล้วว่าต้องสนุกแน่นอน ขอเดาว่าเป็นการล้างแค้นที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เชือดเฉือน เผยกิเลสที่ชักใยเบื้องหลังการกระทำของมนุษย์ให้คนดูได้วิเคราะห์คิดตาม และคิดว่าน่าจะได้ชมกันช่วงกลางปีนี้ “ผมทำ Youtube ช่องของตัวเองด้วย ชื่อรายการว่า Home Tour เพิ่งปล่อยไปสองอีพีเองครับ เป็นรายการเกี่ยวกับเรื่องบ้านของตัวเอง เพราะกำลังสร้างบ้านอยู่ เลยอยากแชร์เรื่องที่สงสัย เวลาสร้างบ้านแล้วมันจะเจอปัญหาอะไรบ้าง เช่นคำถามที่คนกำลังสร้างบ้านด้วยตัวเองอยากรู้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่ทำบ้านอยู่ ซึ่งล่าสุดผมกำลังจะติดโซลาร์เซลล์ ผมก็มีคำถามว่าทำไมต้องติด ถ้าติดแล้วใช้เวลากี่ปีถึงจะคืนทุน ดูแลรักษาอย่างไร ก่อนที่จะติดมีปัจจัยอะไรบ้าง เป็นการย่อยคำถามที่ไม่ใช่คำถามวิชาการให้คนเข้าใจได้ง่าย คือผมจะเล่าเหมือนเป็นไดอารี่ของตัวเองเลยครับ เพราะบ้านหลังนี้ผมซื้อที่ดินเปล่าแล้วตอกเสาเข็ม เลือกของเอง ตกแต่งเอง” เข้าไปคลิกดูกันได้ใน Youtube ช่อง Naphat Siangsomboon
“ผมกำลังจะมีคอนเสิร์ตของ พี่แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ ในเดือนพฤษภาคมนี้ด้วย ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตนี้เพราะแม่ผมก็ชอบพี่แจ้มาก ๆ เชื่อไหมครับ คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตที่มีคนถามถึงมากที่สุดในชีวิตเท่าที่ผมเคยเป็นแขกรับเชิญขึ้นคอนเสิร์ตมาเลย คนรักพี่แจ้เยอะมากนะครับ ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งต่อไปผมจะได้ร้องเพลงที่ผมชอบมาก ๆ ด้วย แต่ยังบอกไม่ได้ครับว่าเพลงอะไร ขอเก็บเป็นความลับก่อน” นายตอบด้วยความตื่นเต้น
ตอนนี้ให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด…ใบเฟิร์น? พอเรายิงคำจี้หัวใจไปเท่านั้นแหละ นายก็หัวเราะลั่น ยิ้มจนแก้มจะแตก หน้าแดงเป็นลูกตำลึง เก็บทรงไม่อยู่เลยทีเดียว ดูออกเลยว่าเขินจนตัวย้วย “กลับมาเข้าเรื่องดีกว่าครับ (ยิ้มเขิน) สิ่งที่ผมให้ความสำคัญตอนนี้หลัก ๆ เลยก็เรื่องงานครับ แล้วก็เรื่องสุขภาพ เวลาผมเครียดหรือหดหู่ผมจะออกกำลังกาย หรือไปวิ่ง พอมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ก็จะเซ็งมากครับ สุขภาพสำคัญกับผมมาก ๆ ตอนนี้ เพราะร่างกายที่ดีจะพาเราไปมีความสุขได้ และมีแรงไปดูแลคนที่เรารักให้มีความสุขด้วยครับ” คิดว่าเป็นคนร่าเริงไหม? เราถามต่อ “ช่วงนี้ร่าเริงครับ วู้วววว…ทำไมน้า” แหมมม…มีแซวตัวเอง ทำเอาบรรยากาศในสตูดิโอ Spark Joy มาก สดใสกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เราแอบสังเกตว่าข้าวของที่วางอยู่ใกล้ ๆ เขามีกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ และ ‘ขนมบ้าบิ่น’ “ผมชอบขนมบ้าบิ่นมาก มันอร่อยมากเลยครับ ตอนผมเรียนที่มหิดล หน้ามหาวิทยาลัยจะมีคุณป้าคนหนึ่งขายขนมบ้าบิ่นที่เป็นแบบออริจินัลจริง ๆ เป็นเชฟฟรีฟอร์ม ไม่เป็นรูปเป็นร่างสวยงาม เพราะเขาใช้มือปั้นสด แทบจะไม่มีแป้งเลยครับ ใส่มะพร้าวเต็มเหนี่ยว กลิ่นหอมมาก เป็นสแน็กหลังอาหารของผมเลยครับ ผมกับเพื่อนกินทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น” ยอดขายมะพร้าวในประเทศไทยเติบโตรวดเร็วเพราะคุณป้าขนมบ้าบิ่นหน้ามหิดลกับนายและผองเพื่อนนี่เอง #คุณชายขนมบ้าบิ่น
ถ้ามีเวลาว่างหรือมีเวลาส่วนตัวชอบทำอะไร มีงานอดิเรกไหม? “ผมชอบขับรถมาก ไม่ว่าจะเครียดหรือมีปัญหาก็จะอยู่กับรถซะส่วนใหญ่ ผมเป็นคนชอบรถคลาสสิกครับ ชอบซ่อมรถเอง ไขนอตเอง ล้างรถเอง ซึ่งผมจะมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบรถวินเทจเหมือนกัน บางทีก็จะขับรถตอนกลางคืนวนหนึ่งรอบบนทางด่วน คือผมชอบเสียงเครื่องยนต์ ชอบความรู้สึกที่ได้ใส่ถุงมือหนังแล้วสับเกียร์แมนนวล” เขาคลั่งไคล้รถ Porsche Classic ปี 1960 เพราะเวลาขับไปไหนมาไหน เด็กน้อยจะชอบมองรถของเขา ‘รถอะไรอะ หน้าตาเหมือนกบเลย’ นายเลียนแบบเสียงเด็ก ๆ “มันเป็นรถระบายอากาศด้วยลม เสน่ห์อยู่ที่เครื่องยนต์ ไม่มีเทคโนโลยีอะไรทั้งนั้น ควบคุมด้วยตัวเอง ต้องพกพัดลมพกพาไปด้วยตลอด เพราะบางทีแอร์ก็เสีย ยิ่งขับรถเราจะยิ่งรู้จักรถมากขึ้น มันเหมือนได้ใช้ชีวิตกับรถ รู้จักนิสัยใจคอของรถ เหมือนเติบโตมาด้วยกันเลยครับ อ้อ…อีกอย่าง ผมเป็นคนชอบฟังเพลง ถ้าได้ยินเสียงจังหวะเพลงกับเครื่องยนต์ควบคู่กันไป มันฟินมากเลยครับ!” นอกจากจะเป็นคุณชายขนมบ้าบิ่นแล้ว ยังเป็นคุณชายรถคลาสสิกด้วย
มุมมองความรักในปัจจุบัน? ผมได้เรียนรู้มาเยอะมากตั้งแต่เริ่มความสัมพันธ์จากการเป็นเพื่อน และพัฒนามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหนก็แล้วแต่ สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยคือความหวังดีที่มีต่อกัน ซึ่งมันมีอยู่จริงๆ ครับ ผมสัมผัสมาแล้ว สำหรับผม ความรักที่ดีคือการซัพพอร์ตซึ่งกันและกันไม่ว่าจะดีหรือร้ายยังไง การเข้าอกเข้าใจกัน รับฟังปัญหาของแต่ละฝ่าย และไม่ตัดสินเขา เอาใจเขามาใส่ใจเรา อยู่ข้างเขา สิ่งเหล่านี้จำเป็นมากและมีความสำคัญมากต่อชีวิตคู่และคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้มันเป็นกำลังใจที่สำคัญมากสำหรับผม ผมโชคดีครับที่มีคนรอบข้างที่ดี เขาจะคอยยินดีและมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ เอ็นจอยกับทุกโมเมนต์ไปกับเรา มันเป็นพลังงานที่ดีมากๆ ครับ สุดท้ายแล้วเวลาที่คนเราเจอปัญหาหรือความทุกข์ ก็แค่ต้องการคนที่คอยอยู่ข้างเรา ปลอบใจว่า เออ ไม่เป็นไรนะ มันจะดีขึ้นนะ มันมีวิธีแก้นะ บางวันเราล้ม บางวันเขาล้ม หรือบางวันก็ล้มทั้งคู่ ก็ประคองกันไป เท่านี้ก็เป็นแรงขับเคลื่อนในชีวิตให้เรามีแรงต่อสู้และทำสิ่งดีๆ ต่อไปแล้วครับ” นายส่งรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อนมาให้เรา
เราแอบไปสืบมาว่าใกล้วันเกิดนายแล้ว (วันที่ 5 พฤษภาคม) เดือนหน้าอายุก็จะครบ 27 คิดว่าอายุ 17 กับ 27 เติบโตขึ้นแค่ไหน? “จริงด้วย! ใกล้จะวันเกิดผมแล้วนี่นา ถ้าถามว่าโตขึ้นแค่ไหนผมจำตอนอายุ 17 ไม่ค่อยได้แล้วครับ น่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อตอนเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย วุ่นอยู่แต่กับเรื่องการศึกษาของตัวเอง เท่าที่จำได้ในตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราไปยึดติดอยู่กับการคาดหวังและค่านิยมของคนอื่น ว่าเราต้องเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ติดคณะเด่นๆ ให้ได้ แต่พอเราทำได้จริงๆ ก็รู้สึกว่ามีความสุขมากๆ ที่ทำให้ครอบครัวภูมิใจ แต่พออายุ 27 มาโฟกัสอยู่กับความรับผิดชอบแทน เรามีคุณแม่ มีหน้าที่การงาน มีแฟนคลับ มีคนที่เรารักต้องดูแลเอาใจใส่” นายเล่าต่อว่า มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน 27 ของเขา กับ 27 ของคนอื่นๆ ก็แตกต่างกันไปตามวิถีชีวิตและผู้คนที่ได้พบเจอ ทั้งในการสนับสนุนเชิงอารมณ์และทางความคิดมีผลกับเราหมด แล้วตอนอายุ 47 ล่ะ อยากโตไปเป็นผู้ใหญ่แบบไหน? เราจินตนาการต่อถึงนาย-ณภัทร ในวัยผู้ใหญ่ “อยากมีลูกครับ เมื่อก่อนไม่เคยคิดถึงการมีลูกเลย พอเราเติบโตขึ้นเราได้เห็นรุ่นพี่ทำกิจกรรมด้วยกันกับลูก พาลูกไปขับรถ ไปตั้งแคมป์ เลยรู้สึกว่าอยากมีครอบครัว อยากมีหลานให้คุณแม่ อยากเป็นคุณพ่อเท่ๆ ครับ และให้คนที่เรารักได้กินของอร่อยๆ ชอบเห็นพวกเขามีความสุขครับ” คุณชายขนมบ้าบิ่นคนนี้ชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจเสียจริง
Words of Wisdom? “การกระทำสำคัญกว่าคำพูด ประโยคเด็ดเลย คุณแม่เป็นคนสอนผมมาตลอด” นี่เป็นสิ่งที่คุณแม่สอนแล้วจำไม่ลืมหรือเปล่า? เราถามแทรก “แต่บางอย่างก็อยากลืมนะครับ” เขาแหย่คุณแม่ เหลือบมองไปที่ท่าน แล้วหัวเราะลั่น “มีคนเคยถามผมว่า อยากย้อนเวลาไปแก้ไขอะไรไหม น้อยมากครับที่จะกลับไปแก้ไข ผมเลือกที่จะยอมรับการกระทำของผมมากกว่า เมื่อก่อนมีหลายโมเมนต์ ‘รู้งี้’ มากเลยครับ แต่พอช่วงหลังๆ รู้สึกว่า ไม่รู้จะคิด ‘รู้งี้’ ทำไม เพราะมันผ่านมาแล้ว ตัดสินใจแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ล่าสุดผมเห็นทะเบียนรถที่รู้สึกถูกใจมากๆ ซึ่งพอเช็กราคาแล้ว โอ้ แพงจัง! ไม่มี ไม่ซื้อ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร” นายเป็นคนไม่ยึดติดกับวัตถุ เขาเข้าใจในธรรมชาติของชีวิตและมนุษย์อย่างลึกซึ้ง “สิ่งของต่างๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่กับผมไปตลอด อย่างนาฬิกาผมซื้อมา พอเบื่อเราก็ปล่อยออกไป ผมจะไม่หวงของและเก็บไว้ทุกอย่างครับ”
รู้สึกอย่างไรที่เป็นผู้ชายที่ทำให้สาวๆ หัวใจเต้น? ผมรู้สึกดีนะครับ ผมเชื่อว่าไม่ว่าใครก็รู้สึกดีที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน แต่ผมจะไม่หลงตัวเองเด็ดขาด เพราะเราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความผิดพลาดในชีวิต มีผิดมีถูก ดีบ้างไม่ดีบ้าง ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมเป็นนักแสดงดังใหญ่โตอะไร คืองานทุกงานจะมี Pros and Cons ซึ่งในสายงานนักแสดงมันจะมีเรื่อง Privacy Life อันนี้เป็นเรื่องปกติ ถามว่าเรารู้สึกแย่ไหมที่เราเป็นคนสาธารณะที่ไม่มีชีวิตส่วนตัว ผมไม่มีปัญหากับเรื่องนี้นะครับ ในเมื่อเราเข้ามาทำงานตรงนี้ เราก็ต้องยอมรับในข้อจำกัดของงานตรงนี้อยู่แล้ว คือไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเรายอมรับใน Pros and Cons ของงานนั้นๆ ได้ มันก็จะไม่มีข้อเสียที่เราไม่ชอบครับ” คุณได้เลือกสิ่งนั้นแล้ว
มนุษย์เรามีวิธีจัดการความทุกข์ที่ต่างกัน สำหรับนาย-ณภัทร เวลาไม่พอใจหรือเจอกับปัญหามาหนักๆ เขาเลือกที่จะทิ้งมันไปก่อน ไม่ขลุกหรือจมอยู่กับความรู้สึกนั้น “คือบางทีถ้ามันทุกข์มากๆ จัดการไม่ไหวแล้ว ผมจะหนีจากตรงนั้นออกมาก่อนเลย ขอหนีปัญหาแล้วหยุดพักแป๊บนึง เปลี่ยนอารมณ์ไปทำโน่นทำนี่ ทำในสิ่งที่ชอบและรู้สึกดี เช่น ไปกินของอร่อยๆ ไปขับรถ ไปออกกำลังกาย ไปวิ่ง ไปคุยกับคนที่เขาซัพพอร์ตเรา ให้คำปรึกษาเราได้ หรือไปอยู่กับธรรมชาติ เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อม แล้วค่อยกลับมานั่งพิจารณากับปัญหา คือตอนเด็กๆ เวลามีปัญหาผมสามารถปล่อยวางได้เร็วมาก แต่เมื่อโตขึ้นพอเกิดเรื่องหรือเครียดขึ้นมา มันสลัดออกยากมากๆ เลยครับ ผมเลยเข้าใจคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วว่าทำไมเขาเครียดกัน ซึ่งผมโชคดีที่มีเพื่อนและคนรอบข้างที่ดีคอยแนะนำและช่วยเหลือเราตลอด ถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจและเป็นฝ่ายผิด ผมจะขอโทษเลย และจะเคลียร์ปัญหาให้จบเร็วที่สุด ให้อีกฝ่ายสบายใจ ผมอยากให้คนรอบข้างมีความสุข เราแค่ยอมรับความจริงครับว่ามันเกิดขึ้นไปแล้ว ทุกอย่างมีเกิด แล้วก็มีดับ บังคับไม่ได้”
ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ลึกซึ้ง อ่อนโยน เติบโตมาได้ดีจริงๆ