ย้อนรำลึก ‘เลดี้ไดอานา’ เจ้าหญิงแฟชั่นผู้ครองตำแหน่งผู้หญิงที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก

หากเราย้อนกลับไปราว 3 ทศวรรษก่อนโลกใบนี้จะเข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดียที่ทุกคนสามารถถ่ายรูปตัวเองแล้วเผยแพร่ลง ‘สื่อในมือ’ ไม่ว่าจะเป็น facebook, instagram และ twitter เพื่ออวดไลฟ์สไตล์ของตนให้ผู้คนได้รับรู้ จนเกิด ‘ผู้นำทางด้านสไตล์’ นับแสนนับล้านรายกระจายอยู่ทั่วโลกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ตำแหน่งที่ว่านั้นถูกมอบให้สุภาพสตรีเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือ ‘ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์’ (Diana, Princess of Wales) ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูเก๋ไก๋จนสาวๆ ทุกทวีปอย่างลุกขึ้นมาทำตาม

ไดอาน่าคือเจ้าหญิงผู้ถูกกล่าวขานว่ามีเสน่ห์และยัง ‘ชิค’ ในแบบฉบับของตัวเอง เธอผู้ไม่เหมือนใครและไม่มีผู้ใดจะเสมอเหมือน มีพระวรกายสูงโปร่งถึง 178 เซนติเมตร ซึ่งเท่ากับนางแบบชั้นนำแห่งยุค และมีใบหน้างดงามเปื้อนรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอ เมื่อประกอบกับการแต่งกายโดดเด่นเป็นสง่าด้วยแล้ว พระองค์จึงได้รับสถานะเป็นเจ้าหญิงขวัญใจช่างภาพและครองตำแหน่ง ‘สุภาพสตรีที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก’ ในช่วงเวลานั้น

หน้าปกนิตยสาร ELLE ฝรั่งเศส 3 สิงหาคม 1981

ในปี 1995 พระองค์เผยความในใจเรื่องถูกถ่ายภาพและเสด็จออกงานบ่อยครั้งกับ Donatella Versace (โดนาเทลลา เวอร์ซาเช่) น้องสาวสุดที่รักของดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับ Gianni Versace (เจียนนี่ เวอร์ซาเช่) พระสหายอีกคนของพระองค์ที่เสียชีวิตก่อนหน้าเจ้าหญิงไปเพียงเดือนกว่าๆ “ฉันรู้สึกไม่ต่างจากการเป็นนางแบบดังเพราะได้รับเชิญไปงานเลี้ยงทุกๆ ค่ำคืน ได้เดินทางรอบโลก ไม่ต่างจาก Claudia Schiffer (คลอเดีย ชิฟเฟอร์) และ Cindy Crawford (ซินดี ครอว์ฟอร์ด)” ส่วนช่างภาพแฟชั่นคนดัง Mario Testino (มาริโอ เทสติโน) ก็เคยให้สัมภาษณ์หลังถ่ายรูปพระองค์ลงนิตยสาร Vanity Fair อเมริกาว่า “พระองค์สามารถจับมุมตกกระทบของแสงได้ไม่แพ้นางแบบมืออาชีพเลยทีเดียว” เป็นการตอกย้ำถึงพระปรีชาสามารถในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

ยิ่งหลังแยกทางกับพระสวามีและหันมาฉลองพระองค์ด้วยผลงานสุดเซ็กซี่ ไม่ก็ให้ลุคหญิงแกร่งผู้มาดมั่นและสามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เป็นการสลัดฉลองพระองค์ตามแบบฉบับเจ้าหญิงในขนบที่คนส่วนใหญ่พากันนึกถึงด้วยแล้ว บรรดาปาปารัสซีต่างก็ยิ่งอยากได้ภาพของเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักในลุคต่างๆ มากยิ่งขึ้นไปอีกเท่าทวี

(ขวา) เจ้าหญิงไดอานาในชุดสเวตเตอร์ไหมพรมจาก Warm & Wonderful ปี 1981
(ซ้าย) แฮร์รี สไตลส์สวมชุดจาก Lanvin
Spring/Summer 2020

ไม่ว่าจะเป็นสลิปเดรสของ John Galliano (จอนห์ กัลลิอาโน) ผลงานแรกของนักออกแบบสุดซ่ารายนี้สำหรับเมซง Christian Dior ในปี 1996 สารพัดเดรสสั้นและยาวเผยผิวและเน้นส่วนสัดของ เจียนนี เวอร์ซาเช หนึ่งในนักออกแบบที่พระองค์ชื่นชมและนิยมใช้ผลงานในช่วงท้ายของชีวิต และชุดสีแดงเพลิงของ Christian Lacroix เมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ Cézanne (เซซาน) จัดขึ้นในกรองด์ปาเลส์ ณ กรุงปารีส 24 กันยายนปี 1995

ในกรณีลุคเซ็กซี่กับชุดของ Christian Lacroix ที่ว่านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้สื่ออังกฤษหัวอนุรักษ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขามองว่าดูเซ็กซี่จนเกินงาม ซึ่งเมอซิเออร์ลาครัวซ์ได้เขียนเล่าเรื่องนี้ผ่าน ‘จดหมายถึงนางฟ้า’ หลังการสิ้นพระชนม์ โดยมีเนื้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า “ฉลองพระองค์สีแดงเพลิงทั้งชุดทำให้นักข่าวอังกฤษรู้สึกหัวเสีย และขนานนามพระองค์ในข่าววันรุ่งขึ้นว่า Scarlet Lady ซึ่งคงทำให้พระองค์อดขันไม่ได้”

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงไดอานาจาก Gianni Versace, Christina Stambolian, Christian Lacroix และ Christian Dior (ตามลำดับ)

ภาพถ่ายหลายภาพของเจ้าหญิงล้วนสร้างแรงบันดาลใจ นักออกแบบแฟชั่นทั้งหน้าเก่าและใหม่ต่างตกหลุมรัก อย่างชุดราตรีสีม่วงสุดไอคอนิกที่เจียนนีออกแบบไว้ และสร้างแรงบันดาลใจให้โดนาเทลล่านำมาปัดฝุ่นใหม่ให้เปรี้ยวปรี้ดสำหรับสาวๆ ในศตวรรษที่ 21 ผลงานแรกของเธอสำหรับอาณาจักร Versace ที่อยู่บนสมุดภาพไว้อาลัยการจากไป 25 ปีบนฐานคบไฟแห่งเสรีภาพตรงอุโมงค์ทางลอดสะพาน Pont de l’Alma ในกรุงปารีส ที่ผมเห็นขณะเดินผ่านสถานที่เกิดเหตุช็อกโลกเมื่อปีที่ผ่านมาก็ทำให้ความทรงจำในวัยเด็กเกี่ยวกับพระองค์ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

หรืออย่างคอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 2018 ของ Off-White ที่ Virgil Abloh (เวอร์จิล แอบโลห์) ขออุทิศให้สไตล์ไอคอนแห่งยุค ’80s และ ’90s โดยมีเจ้าหญิงเป็นหนึ่งในนั้น เวอร์จิลแปลงภาพถ่ายลุคไอคอนิกของเจ้าหญิงหลากหลายภาพด้วยกันให้กลายเป็นลุคสำหรับสาว Off-White ในทศวรรษที่ ‘2010s ทั้งเท่ เปรี้ยว หรูหรา เหนือกาลเวลา ซึ่งเราต้องขอชื่นชมรสนิยมของเจ้าหญิงไดอานา

เจ้าหญิงไดอานาทรงสวมฉลองพระองค์ลายจุดในงาน Polo Match ปี 1983 และ Off-White Spring/Summer 2018

31 สิงหาคม 2023 – เป็นเวลาถึง 26 ปีแล้วที่โลกนี้ไม่มีเจ้าหญิงผู้เป็นที่รัก แต่พระองค์จากไปเพียงกาย เพราะความทรงจำมากมายที่ถูกบันทึกไว้ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์สารคดี ภาพยนตร์อัตชีวประวัติ เนื้อหาส่วนหนึ่งในซีรีส์เรื่องดัง และแรงบันดาลใจสำคัญให้โลกแฟชั่นจะยังคงอยู่กับเราไปอีกนานเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ทุกๆ วันนี้ก็จะมีคนค่อนโลกที่ลุกมาไว้อาลัยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพราะเธออยู่ในดวงใจพวกเราเสมอ

Similar Articles

More