Words: Suriya Na RCAPhoto: Thanut Treamchanchuchai
ชื่อเต็มของบาร์แห่งนี้คือ ‘Kilik Social Club’ ส่วนใหญ่ก็จะเรียกว่า “Kilik” คำนี้นั้นหุ้นส่วนท่านหนึ่งอธิบายว่าเป็นภาษาตากาล็อก หมายถึง ‘Butterflies in Your Stomach’ หรือความรู้สึกปั่นป่วนรัญจวนใจราวกับมีผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในท้อง เมื่อพบเรื่องน่าตื่นเต้นหรือเจอคนที่ถูกใจ จะว่าไป Kilik ก็เป็นชื่อซึ่งเหมาะกับบาร์ สถานที่แห่งความบันเทิงเริงรมย์ ในบรรยากาศของการสังสรรค์ ทั้งในหมู่เพื่อนฝูงหรือเพื่อนใหม่ ที่ซึ่งคนที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อนมีสิทธิหรือสามารถเสกผีเสื้อมาบินในท้องเราได้ เพียงสบตากันในบางจังหวะ บางโอกาส
Kilik ตั้งอยู่ในอาคารด้านในของ Warehouse 26 สุขุมวิท 26 ด้านถนนพระราม 4 (มีที่จอดรถชนิดไม่ต้องลุ้น) เป็นบาร์ขนาดใหญ่ ผ่านประตูหน้า เดินเข้ามาแล้วก้าวลงสเต็ปสู่พื้นที่หลัก ด้านหนึ่งเป็นบาร์ขนาดยาว ผนังแน่นด้วยชั้นเครื่องดื่ม อีกด้านตกแต่งอย่างสวยด้วยภาพเขียนขนาดยักษ์ (“คนวาดต้องขึงผ้าใบในบาร์แล้ววาดในนี้ เพราะไม่รู้จะขนเข้ามายังไงถ้ายกมาจากข้างนอก” คือคำอธิบายของคุณแอร์-เบญจวรรณ ขำเปรื่องเดช Head Bartender ของที่นี่) ในภาพคือป่าแห่งเวทมนตร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง มีภูตต่างๆ เอนกายระทวย ดอกไม้ป่าผลิบาน (วาดสวยจนได้กลิ่นหอม) ผีเสื้อกระพือปีกอยู่ตรงโน้นตรงนี้ ภาพใหญ่เต็มตาแทบจะเต็มพื้นที่ผนัง
ถ้าไม่นับเก้าอี้สตูลสูงหน้าบาร์ เราว่า Kilik น่าจะเป็นหนึ่งในบาร์ซึ่งมีเก้าอี้น่านั่งและนั่งสบายที่สุด หย่อนกายลงแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน คือว่าที่บ้านคงไม่มีบรรยากาศ เสียงเพลง เครื่องดื่ม อาหาร และความสนุกแบบนี้ นอกเหนือจากการตกแต่งในรายละเอียดซึ่งสร้างบรรยากาศอย่างอุทยานเวทมนตร์ ยังมีเพดานสูงลิ่วให้ความรู้สึกเป็นอิสระ ที่นี่ให้ความสำคัญกับเสียงดนตรี ทั้งคุณภาพของลำโพงและวงดนตรีแนวแจ๊ซซึ่งผลัดเวียนกันมาบรรเลง ในบางโอกาสยังมีคอนเสิร์ตเล็กๆ ของนักร้องนักดนตรีชื่อดังอีกด้วย
เมนูดริงก์สุดครีเอทีฟของ Kilik
เนื่องจากผีเสื้อเป็นคอนเซปต์หลักของ Kilik เราจะเริ่มด้วยเมนูหลักบางตัว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผีเสื้อของโลก ‘Kaiser-I-Hind’ มาจากชื่อของผีเสื้อซึ่งพบได้ในรัฐภาคตะวันออกของอินเดีย อย่างเบงกอล อัสสัม และสิขิม เป็นผีเสื้อสวยงามที่ชอบเล่นใหญ่ด้วยการบินอยู่ตามยอดไม้ในป่า พบเฉพาะในภูเขาสูง ค็อกเทลนี้จึงผ่านการตีความให้มีกลิ่นอายของอินเดีย อย่างชาอินเดีย มะม่วง เครื่องเทศ ส่วนสุรานั้นใช้จินและอีสานรัม (เพิ่มมิติของรสชาติ) ใช้วิธี Throw ในการชงเพื่อเรียกกลิ่นกำจายของส่วนผสมอินเดียต่างๆ ท็อปด้วยโฟมโยเกิร์ตมะม่วง หวานหอมนุ่มริมฝีปากดีนัก
‘St. Francis’ Satyr’ ผีเสื้อพันธุ์หายากนี้พบในพื้นที่ราบในรัฐนอร์ทแคโรไลนาของอเมริกา ไม่พบในบริเวณอื่นนอกจากในพื้นที่ของฟอร์ตแบรกก์ซึ่งเป็นค่ายฝึกทหาร เครื่องดื่มนี้อวลด้วยกลิ่นหอมของดิน (จากความอูมามิของเห็ดในส่วนผสม) ผักกะโสม (เขาว่ากลิ่นคล้ายโหระพา) สุราหลักคือเบอร์เบินแช่อาร์ติโชก สุรารองคือเวอร์มุธ “จริงๆ แล้วมันก็คือทวิสต์ของ Manhattan แต่จัดสูตรให้นัวและละมุนขึ้น” คุณแอร์บอก เราชอบอาฟเตอร์เทสต์ติดฝาดซึ่งค้างอยู่ในลำคอหลังจิบมาก ชวนให้จิบต่อจริงไรจริง
นอกจากเมนูผีเสื้อแล้ว เขายังมีเครื่องดื่มในเมนูทวิสต์ อย่าง ‘Violet Evergarden’ (ชื่อจากมังงะ) มีวอดก้าเป็นสุราหลัก สุรารองคือทริปเปิลเซก แครมเดอไวโอเลต เมสคาล น้ำเชื่อมดอกกุหลาบ น้ำชมพู่ (ซึ่งวันนั้นทางบาร์ใช้น้ำมังคุดสร้างรสหวานละมุนอมฝาดแทนชมพู่ (ซึ่งขาดตลาดในช่วงนี้) ได้อย่างลงตัว) ‘Nothing Pimp’ เครื่องดื่มลื่นคอมีสปาร์กลิงสาเกเป็นสุราหลัก มีเวอร์มุธมาร์ตินีบิอังโก หอมกลิ่นใบทำมัง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘ใบแมงดา’ อันเป็นที่มาของชื่อเครื่องดื่มนี่เอง ยังมี ‘Rasta Cubre’ ซึ่งเป็นทวิสต์อันอ่อนโยนของ Cuban Libre หรือรัมกับโค้ก เครื่องดื่มยอดฮิตที่เรียกความสดชื่นได้อย่างไม่พลาด ทว่าเขาใช้โคล่าโฮมเมดหอมกรุ่นใสแจ๋วแทนที่โค้ก
เรายังมีโอกาสชิมเครื่องดื่มในเมนูใหม่ซึ่งพัฒนาจนใกล้จะได้บทสรุป และน่าจะวางขายเร็วๆ นี้ ‘Wasabi Gimletta’ ใช้จินและรัมพื้นบ้านชื่อดังแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย คอร์เดียลแตงกวา มะพร้าว แตงไทยมากันอย่างสนุกสนาน Wasabi Gimletta เป็นทวิสต์ของกิมเล็ต (ค็อกเทลคลาสสิกที่มีส่วนผสมไม่กี่อย่างซึ่งนักดื่มรู้จักมานาน) เก๋ตรงอาฟเตอร์เทสต์ของวาซาบิ ส่วน ‘Shiso Genmai’ เป็นค็อกเทลสายดอกไม้ที่ลงตัว นอกจากใบชิโสะแล้ว ยังยกมาทั้งสวน ทั้งมะลิ กุหลาบ ชมนาด ใบเตย วางพื้นฐานไว้ด้วยจิน ใครชอบความหอมละมุนของดอกไม้ไทยๆ น่าจะชอบตัวนี้ เป็นค็อกเทลกลิ่นหอมร่ำซึ่งรักษาสมดุลกลิ่นดอกไม้หลากชนิดได้ดี
นอกเหนือจากค็อกเทล บาร์ยังมีเครื่องดื่มอื่นไว้ให้บริการ คืนที่เราไปนั้นเห็นหลายโต๊ะสั่งซิงเกิลมอลต์มาเปิดจิบกันที่โต๊ะ Kilik ยังมี Selection ของสุราอย่างอาร์มาญัก (ญาติผู้พี่ของคอนญัก และสุขุมกว่า) จากผู้ผลิตรายย่อยของฝรั่งเศสไว้นำเสนออีกด้วย
บาร์นี้ยังครบเครื่องในเรื่องอาหาร ซึ่งเป็นเมนูกะทัดรัดเหมาะกับการรองท้อง เรียกว่าอิ่มกันทันใจด้วยอร่อยด้วยก็ว่าได้ ถ้ามักอาหารรสแซ่บควรลอง ‘Isan Styled Beef Tartre’ ส่วนสายยุโรปน่าจะโปรด ‘Truffle Salami Truffle Pecorino Cheese’ ชิ้นเล็กๆ หยิบกันหนุบหนับ ถ้าหิวเพราะลืมกินมื้อเที่ยงที่ทำงาน สั่ง ‘American Fried Rice’ ครบเครื่อง มาในรูปแบบดงบุริใส่ชาม ตักรับประทานง่าย ท้ายสุดคือ ‘Spaghetti Truffle Alfredo with Basa Mushroom’ คือเนื้อสัมผัสของเห็ดเผาะก็ไปกันได้ดีกับกลิ่นทรัฟเฟิล
หากคุณห่างเหินจากความสำราญยามราตรี อย่าปล่อยให้ความรู้สึกตื่นเต้นแบบนั้นกบดานเป็นดักแด้อยู่ในใจนานนัก ลองหาเวลาแวะไปแล้วให้โอกาส Kilik ด้วยบรรยากาศสบายๆ เครื่องดื่มและอาหารรสดี เสียงดนตรีไพเราะ คุณอาจพบว่าอาจถึงเวลาแล้วที่ดักแด้ในใจจะคลี่กายสยายปีก แล้วกระพือความรู้สึกตื่นเต้นรัญจวนใจขึ้นมาก็ได้… ใครจะไปรู้