Pride Month และชื่อ Jean Paul Gaultier กลายเป็นของคู่กัน … นักออกแบบชาวฝรั่งเศสผู้นี้ไม่เพียงสนับสนุนสนุนเรื่องความเท่าเทียมมาตลอดระยะกว่า 5 ทศวรรษที่โลดแล่นบนถนนสายแฟชั่น นำเสนอผลงานก้าวข้ามเส้นแบ่งเรื่องเพศโดยใช้เครื่องแต่งกายภายนอกเป็นตัวกำหนด แต่ยังสนับสนุนหลายองค์กรและหน่วยงานที่สนับสนุนเรื่องสิทธิความเท่าเทียมและเคารพในความแตกต่างที่กระจายอยู่ทั่วโลก อย่างล่าสุดกับการเป็นผู้สนับสนุนงาน Hong Kong Gay Games 2022 ที่จะย้ายมาจัดในช่วงปลายปี 2023 นี้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19

และเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของน้ำหอม Classique และ Le Male ขวดพิเศษที่ออกมาเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจจากปีที่ผ่านๆ มา ปี 2023 นี้น้ำหอม Pride Edition ของ Jean Paul Gaultier ได้กลับมาให้สะสมกันอีกครั้ง เขาและเธอสวมเสื้อถักแขนกุดดีไซน์เดียวกัน มีแถบสีรุ้งบริเวณขอบเอว และลายสไตล์ศิลปะกราฟฟิตี้เป็นเวิร์ดดิ้ง ‘Get Used To It’ หรือเทียบเคียงเป็นไทยได้ว่า ‘ชินกับมันเสียที’ เพราะการแสดงออกถึงตัวตนที่สะท้อนความหลากหลายของผู้คนในสังคมได้กลายเป็นบรรทัดฐานของโลกทศวรรษที่ 2020s เป็นที่เรียบร้อย ทุกคนบนโลกควรยอมรับ เคารพ และ ‘ชิน’ กับเรื่องเหล่านี้ได้เสียที




Jean Paul Gaultier ยังเน้นย้ำว่าน้ำหอมกลิ่นนี้มีไว้สำหรับทุกคน แม้ถูกแยกออกเป็นสองขวดเลื่องชื่อในรูปร่างของหญิงและชายแต่กลิ่นภายในคือกลิ่นเดียวกัน มอบสัมผัสที่ทำให้สดชื่นและรู้สึกมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นบลัดออเร้นจ์จับคู่กับส้มยูสุ รองมาด้วยกลิ่นที่เย้ายวนของดอกส้มและดอกเนโรลี และตามมาด้วยเบสโน๊ตด้วยความเป็นมัสกี้และวู้ดดี้ เรียกว่าเป็นกลิ่นที่น่าหลงใหลและเย้ายวนสำหรับทุกเพศ

จากที่เคยสร้างความฮือฮาให้โลกแฟชั่นบุรุษโดยจับนายแบบสวมกระโปรงขึ้นรันเวย์ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 สู่การเป็นผู้ขับเคลื่อนและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้สังคม วันนี้ชื่อของ Jean Paul Gaultier เป็นมากกว่าเพียงแค่แบรนด์แฟชั่นและเครื่องหอมสุดโด่งดัง เพราะได้กลายเป็นชื่อแห่งความภาคภูมิใจที่ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตกหลุมรัก อยากจะครอบครองและสัมผัสความภาคภูมิใจที่ว่าซึ่งมาในรูปแบบของน้ำหอมระดับตำนาน … ทั้งเธอ เขา และพวกเราขอร่วมเฉลิมฉลอง Pride Month ไปด้วยกัน