พูดคุยรีแคปชีวิตกับ ‘ภีมวสุ BUS’ ช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปีที่เปลี่ยนชีวิตเขาอย่างรวดเร็ว

รีแคปความรู้สึกของ ‘ภีมวสุ BUS’ กับช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปีที่เปลี่ยนชีวิตเขาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นความเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับเป้าหมายใหม่ในฐานะศิลปิน รวมถึงความพยายามที่จะทำให้ภาพในอนาคตเป็นจริงโดยไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง

เสื้อโอเวอร์ไซส์คล้องคอผ้าไหมมัสลินทรง Lavallière กางเกงเอวสูงผ้าวูลสักหลาดลายทาง เข็มขัดหนังเงาเส้นบางรุ่น LA 66 และแว่นตากันแดดรุ่น SL 690 จาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO

“ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกอยู่เลยว่าทุกอย่างผ่านไปเร็วมากกับการที่ได้เป็นศิลปิน ผมเข้ามาเทรนเมื่อปลายปี 2022 จนตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึง 2 ปีเลย จากที่เริ่มต้นจากศูนย์ ก็ยังตกใจที่ตัวเองทำได้” ภีม-วสุพล พรพนานุรักษ์ หรือ ‘ภีมวสุ BUS’ หนึ่งในสมาชิกของบอยกรุ๊ปจากค่ายซันเรย์ เล่าให้แอลเมนฟังเกี่ยวกับความรู้สึกที่เขามีต่อช่วงเวลาที่ผ่านมา

จากเด็กมัธยมที่เคยมองตัวเองว่าใช้ชีวิตแบบเรื่อย ๆ ไม่เคยมีภาพอนาคตในหัวแบบจริง ๆ จัง ๆ คิดแค่ว่า “ถ้าสักวันมีอะไรให้ทำ เดี๋ยวมันก็มีให้ทำเอง” ผ่านการกดปุ่ม fast forward ในชีวิตครั้งสำคัญ นั่นคือการเข้าร่วมรายการ 789SURVIVAL ที่ทำให้เริ่มมีเป้าหมายว่าอยากเป็นศิลปิน และกดปุ่มเดิมอีกครั้งเมื่อได้เดบิวต์เป็นศิลปินซึ่งทำให้เขาเริ่มเจอเป้าหมายในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมีคอนเสิร์ตระดับเวิลด์ทัวร์ หรือเรื่องที่อยากทำเพื่อครอบครัวให้สำเร็จ

“เวิลด์ทัวร์สำหรับผมมันเป็นเหมือนจุดที่อยู่สูงมาก ๆ ของศิลปิน เป็นความฝันที่อยากทำให้ได้ เราเคยเห็นตั้งแต่เด็กว่าศิลปินหรือไอดอลเขาจะมีแอร์พอร์ตลุค ได้บินไปทัวร์ที่นั่นที่นี่ มันเท่มาก พอเป็นศิลปินเองเลยอยากไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อมกับเพื่อน ๆ 11 คน เรื่องนี้จึงถือเป็นไมล์สโตนของพวกเรา” ภีมเล่าถึงเป้าหมายที่มาพร้อมกับการเป็นสมาชิกวง BUS

เสื้อคล้องคอลายเสือดาวผ้าไหม Georgette เสื้อแจ็กเก็ตผ้าวูลทรงโอเวอร์ไซส์ กางเกงเอวสูงผ้าวูล และกำไลข้อมือทรงเกลียว จาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO

“แต่ผมไม่กดดันตัวเองนะ ผมมองว่าเป้าหมายมันเป็นเรื่องที่เราอยากทำให้ได้ แล้วก็คิดว่าอาจจะทำได้ แต่เวลาทำงาน ผมจะโฟกัสที่ปัจจุบัน แค่มีภาพในอนาคตที่อยากเห็น” ศิลปินวัย 17 ปีขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายของเขา

ตรงกันข้ามกับเป้าหมายในการทำงานที่ยิ่งใหญ่ เป้าหมายในชีวิตส่วนตัวของเขากลับเรียบง่ายกว่านั้น เพราะสำหรับภีม การได้ซื้อบ้านให้แม่ ได้อยู่กับครอบครัว และอาจจะเลี้ยงโกลเดนรีทรีฟเวอร์สักตัว คือภาพของอนาคตที่เขาอยากให้เป็นจริง

ถึงแม้อายุการเดบิวต์ของวง BUS จะยังไม่ถึงครึ่งปี แต่ภีมมีโอกาสผ่านงานมาแล้วหลากหลาย ทั้งการเป็นศิลปิน เดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา และถ่ายรายการวาไรตี้ ซึ่งภีมบอกว่า “ผมได้ใช้ความเป็นตัวผมในทุกงานเลย ถามว่าจริงจังไหม… ก็จริงจังนะ แต่เรียกว่าจริงใจละกัน ผมจริงใจกับงานทุกพาร์ตที่ทำ มีความสุขตอนทำ เพราะเราเอาหัวใจ เอาความเป็นตัวเองเข้าไปทำ ผมคิดว่าถ้าเป็นตัวของตัวเอง งานที่ออกมาก็จะดี แล้วก็ดูเป็นตัวผม”

เทรนช์โค้ตผ้าไหมทาฟตาลายเสือดาว กางเกงทักซิโดเอวสูงผ้า Grain de Poudre ผ้าพันคอจับจีบผ้าไหมมัสลิน แว่นตากันแดดรุ่น SL 690 และรองเท้าบูตหนังแก้วรุ่น Rainer จาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO

ตลอดเวลาที่คุยกัน ‘ความเป็นตัวเอง’ คือคีย์เวิร์ดที่ภีมพูดถึงหลายครั้ง จนทำให้อยากรู้เพิ่มว่า สำหรับ ‘ภีมวสุ BUS’ แล้ว สิ่งนี้สำคัญและมีผลต่อการทำงานของเขามากขนาดไหน

“พอมาเป็นศิลปิน ถ้าเราไม่เป็นตัวเอง งั้นใครก็มาทำงานตรงนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรา ถ้าพูดถึง ‘ภีมวสุ’ ผมอยากให้คนจำอะไรที่เป็นผม มันสำคัญอันดับต้น ๆ เลยนะ ผมคิดว่าทุกคนมีเสน่ห์ในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องพยายามเหมือนใคร”

“เราอาจจะมีไอดอลได้ เราอาจจะอยากเหมือนเขาได้ แต่เราไม่ต้องทำแบบเขา เพราะเขาก็คือเขา เราก็คือเรา”

ความเป็นตัวเองที่ภีมคิดว่าแฟนคลับน่าจะจดจำเขาได้คือความเป็นธรรมชาติ ความจริงใจ ความเป็นคนตรง ๆ และความสดใส แต่ยังมีอีกมุมที่คนอาจไม่ค่อยเห็น นั่นคือมุมคิดมากและไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง

เสื้อผ้าไหมมัสลินทรง Lavallière สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตผ้ากาบาร์ดีนทรงโอเวอร์ไซส์ และกางเกงเอวสูงผ้าไหม จาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO

“บางครั้งเวลาเจอคอมเมนต์ในแง่ลบ ผมก็เอามา doubt ตัวเองบ้าง มันทำให้เสียกำลังใจ แม้ว่าจะเห็นผมสดใส จริงใจ ขี้ร้องไห้ แต่บางทีก็แอบเป็นคนคิดมากหนักอยู่นะ เวลาที่เป็นแบบนี้จะพยายามหาข้อดีจากเรื่องที่เราเก็บมาคิดมาก สมมติมันเป็นเรื่องแย่ ๆ เราก็ลองคิดให้มันเป็นเรื่องสนุก เรื่องตลกของชีวิต” 

“ตอนในรายการมันมีช่วงที่ผมท้อ ถ้าแพ้ก็ไม่อยากทำแล้ว เพราะรู้สึกไม่เป็นตัวเองเหมือนเมื่อก่อน เราก็พยายามคิดว่าที่มาถึงตรงนี้ได้เพราะเราเป็นตัวของตัวเอง กลับไปดูวันแรก ๆ ที่ร้องเพลง ‘ทิ้งแต่เก็บ’ ก็ใจฟูขึ้นมา มีกำลังใจที่จะทำต่อไปได้”

นอกจากเส้นทางศิลปินในฐานะเมมเบอร์วง BUS Because of You, I Shine ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของภีมที่ได้ร่วมงานอีกครั้งกับแบรนด์ Saint Laurent หลังจากเคยปรากฏตัวแบบโททัลลุคไปแล้วครั้งหนึ่งในงาน Siam Paragon Spring/Summer World Fashion Trend โดยครั้งนี้เป็นการขึ้นปกเพียงคนเดียวกับแอลเมน “รู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นมากครับสำหรับการร่วมงานกับแอลเมนในฐานะฟรอนต์แมน อย่างแรกเลยต้องขอขอบคุณแบรนด์ Saint Laurent และแอลเมนที่ให้โอกาส ผมตื่นเต้นมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นปกเดี่ยวครับ”

“ จริง ๆ วันนี้ผมชอบทุกลุคเลยนะ แต่ถ้าให้เลือกลุคที่ถูกใจเป็นพิเศษจะมีอยู่สองลุค นั่นคือลุคเทรนช์โค้ตลายเสือดาว ใส่แล้วรู้สึกเท่และแอบเซ็กซี่เบา ๆ แมตช์กับแว่นกันแดดยิ่งมีสไตล์ อีกลุคหนึ่งคงหนีไม่พ้นเสื้อกล้ามซีทรูสวมทับด้วยแจ็กเก็ตกำมะหยี่ ปกติผมเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง พอใส่แจ็กเก็ตที่ดีไซน์ช่วงไหล่กว้างยิ่งเสริมให้ผมดูดี ดูสมาร์ต แล้วก็รู้สึกมั่นใจขึ้นด้วย ส่วนตัวมีความชื่นชอบในดีเอ็นเอของแบรนด์ Saint Laurent อยู่แล้ว พอมีโอกาสได้ร่วมงานกันจริง ๆ จัง ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ผมคิดว่า Saint Laurent ก็เหมือนกับ ‘ภีมวสุ’ ที่กล้าเป็นตัวของตัวเอง หวังว่าทุกคนจะชอบภาพแฟชั่นเซ็ตนี้เหมือนที่ผมชอบนะครับ”

เทรนช์โค้ตผ้าไหมทาฟตาลายเสือดาว กางเกงทักซิโดเอวสูงผ้า Grain de Poudre ผ้าพันคอจับจีบผ้าไหมมัสลิน แว่นตากันแดดรุ่น SL 690 และรองเท้าบูตหนังแก้วรุ่น Rainer จาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO

วันที่ภีมเจอกับแอลเมนนั้นเป็นช่วงที่เขามีงานติดกันเกือบทุกวัน นอกเหนือไปจากตารางการซ้อมปกติ ทั้งงานอีเวนต์ งานถ่ายแบบ งานคอลแลบกับศิลปินอื่น ๆ งานโชว์บนเวทีประกาศรางวัลใหญ่ ไปจนถึงการเตรียมตัวเพื่อถ่ายรายการวาไรตี้ท่องเที่ยวที่กินเวลาครึ่งเดือน คงเป็นเรื่องแปลกถ้าภีมจะบอกว่า เขาไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยกับสิ่งที่ต้องทำทั้งหมด

“มันมีวันที่เหนื่อย วันที่ง่วง วันที่นอนน้อย แต่เวลาผมออกไปเจอแฟน ๆ หรือออกไปทำงาน ถ้ามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไร ผมเกินร้อยทุกครั้ง ยิ่งเวลาเจอแฟน ๆ ผมให้เขาทั้งหมดที่ผมมีเลย ผมว่าส่วนตัวผมเป็นคนโพสิทีฟด้วย เวลาอยู่กับใครก็ตลก เข้ากับคนง่าย เวลามองมาที่ตัวเองแล้วมันไม่ใช่ความรู้สึกว่า ทำไมมองเด็กคนนี้แล้วเนกาทีฟจัง”

เสื้อยืดผ้าไหมซาติน กางเกงทักซิโดเอวสูงผ้า Grain de Poudre เข็มขัดหัวโลหะหนังเงา รองเท้าบูตหนังแก้วรุ่น Rainer และกระเป๋าสานสะพายไหล่เส้นใยต้นปาล์มราฟเฟียรุ่น Cassandre ทั้งหมดจาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO

เพราะเหตุการณ์ในชีวิตการเป็นศิลปินของภีมเหมือนกับการกดปุ่มเร่งความเร็ว ในแง่หนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ก็ทำให้เขาได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยทำ แต่ในอีกมุม ความเร็วก็ทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน

“การที่เราได้อะไรมาเร็วมาก ๆ อย่างเช่นการที่มีคนรักเราเยอะมาก มันอาจทำให้เราเหลิงได้ อาจทำให้ลืมตัวได้ว่าตัวตนเราตอนแรกเป็นอย่างไร ผมไม่อยากให้ตัวเองเหลิงหรือมีอีโก้สูง เลย คิดตลอดว่าต้องไม่ลืมวันที่เราเริ่มต้น และไม่ลืมคนที่อยู่ข้างหลังหรือเคยซัปพอร์ตเราตั้งแต่วันแรก”

“เตือนผมได้นะครับ อย่างถ้าผมเผลอพูดแบบไม่มี ‘ครับ’ ก็เตือนได้เหมือนกัน” ภีมตบท้ายเรื่องจริงจังที่กำลังคุยอยู่ด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่หมายความตามที่เขาพูดมาจริง ๆ”

เราลองชวนภีมมากดปุ่ม fast forward ในชีวิตอีกครั้ง แต่คราวนี้ข้ามไปดูอนาคตข้างหน้าที่เขาอยากเห็นว่าเป็นแบบไหน ภีมนิ่งคิดและเลือกที่จะเห็นตัวเองในวัย 25 ปี

“ถึงตอนนั้นผมคงเป็นผู้ใหญ่ คงเป็นพี่ในวงการแล้ว เลยอยากรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อไป จะมีบ้านให้แม่ได้นอนสบาย หรือจะได้เดินเล่นจูงหมาหรือยังนะ” เขาทิ้งท้ายไว้ให้พวกเราคิดตาม

Credit:

Interviewer: Panicha Imsomboon
Photographer: John Tods
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Makeup: Thotsapol Wongbanchang, Somrak Saelee
Hair: Pongsura Pharnsuksamornchai, Neng Piphattarawat
Style Assistant: Dulyadej Sangfueng
Photo Assistant: Wanlop Banchuen, Udomsak Aemausin, Jeerakorn Khomsanoi

Similar Articles

More