บทสนทนาที่จะเผยพลังงานสดใหม่ในตัวตนของ ‘ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน’

เวลาสิบปีสำหรับชีวิตคนคนหนึ่งอาจฟังดูยาวนาน แต่กับภูวินทร์นั่นคือเส้นทางที่ค่อยๆ หล่อหลอมสู่การเป็นนักแสดงที่คนทั้งประเทศจดจำชื่อ เขาเริ่มจากบทเล็กๆ ในละครโทรทัศน์ จนกระทั่งก้าวขึ้นมายืนเป็นตัวหลักในฐานะพระเอกซีรีส์ที่แฟนๆ ทั่วเอเชียรอชมผลงาน 

ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาวงการในฐานะดาราเด็ก ภูวินทร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือนักแสดงที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับบทบาทใหม่ๆ เสมอ 

ในวันนี้ภูวินทร์ยังคงเป็นคนหนุ่มที่มีประกายแห่งความกระตือรือร้นเหมือนตอนแรกที่เข้ามาโลดแล่นบนเส้นทางบันเทิง ทำให้ทุกครั้งที่มีโอกาสได้พูดคุยกัน เราอดรู้สึกไม่ได้ว่าเรื่องราวของภูวินทร์เหมือนเพิ่งจะเริ่มต้น

ในฐานะนักแสดง คุณตีความเรื่อง TASTE เด็กเจนแซ่บ อย่างไร

คำว่า Taste ถ้าแปลตรงๆ ก็คือรสนิยม แต่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมากำหนดตายตัวว่าอะไรคือเทสต์ดี สิ่งไหนคือเทสต์แย่ ผมว่าคอนเซ็ปต์นี้มันสะท้อนความเป็นเจเนอเรชันของพวกเรา ใครอยากทำอะไรก็ทำไป 

ถ้ามันคือสิ่งที่ชอบและแสดงตัวตนของเราได้ดี ก็ไม่ต้องสนใจว่าทำแล้วจะแมสหรือเปล่า

ตอนอ่านบทครั้งแรก รู้สึกอย่างไรกับตัวละครดีเซล

พอได้อ่านบทเลยทราบถึงที่มาที่ไปของดีเซล ส่วนตัวมองว่าในสังคมเรามีคนกลุ่มนี้อยู่จริง ถึงแม้ผมจะเข้าใจบริบททุกอย่าง แต่กลับไม่ชอบความเป็นดีเซลเลยสักอย่าง ผมไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่ตัวละครดีเซลทำนะครับ มันเลยยากสำหรับผมในการสวมบทตัวละครที่เรารู้สึกไม่ชอบ แต่ตัวละครนี้ก็ทำให้ผมเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น สามารถดีลกับผู้คนได้ดีขึ้น เพราะเราได้รับรู้สถานการณ์และบริบทที่คนแบบเขากำลังเผชิญอยู่ 

ถ้าคำว่า TASTE หมายถึงรสชาติ มองว่าชีวิตของคุณมีรสชาติแบบไหน

ด้วยความที่ผมชอบทำทุกอย่าง อาจไม่ใช่คนที่โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ ชีวิตของผมเลยน่าจะเป็นรสกลมกล่อม

แล้วการแสดงชักพาคุณไปสู่รสชาติไหนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ลิ้มลองบ้างไหม

เคยครับ ผมรู้สึกว่าการแสดงเป็นอะไรที่มันแปลก ต้องไปสวมบทบาทของชีวิตใครคนหนึ่ง ทั้งที่เราไม่เคยลองใช้ชีวิตแบบนั้นมาก่อน อย่างตัวละครดีเซลก็ทำให้ผมเปิดมุมมองมากเหมือนกัน เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสด้วยตัวเองแน่นอน 

ซีรีส์เรื่อง มีสติหน่อยคุณที ภูวินทร์รับบทเป็นช่างภาพที่มีมุมมองเฉพาะตัวต่อโลกและความสัมพันธ์ คาแร็กเตอร์นี้มีอะไรที่รู้สึกว่าใกล้เคียงกับชีวิตจริงบ้าง 

ตัวละครนี้อยู่ในวัยที่ผ่านอะไรมาค่อนข้างเยอะ เลยค่อนข้างจะเข้าใจความเป็นไปของชีวิต บุคลิกก็ดูนิ่งๆ นี่คือมุมที่คล้ายกับผม 

นิยามชีวิตของตัวเองตอนนี้ด้วย 3 คำ 

แพสชั่น นอนน้อย สนุก – – อย่างที่เห็นว่า TASTE เด็กเจนแซ่บ เพิ่งจบไป ตอนนี้เข้าสู่ช่วงเปิดกล้องซีรีส์เรื่อง มีสติหน่อยคุณธีร์ ตามด้วยเรื่อง Scarlet Heart นอกจากนี้ยังต้องเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ต ต้องทำเพลง แล้วก็มีอีกหลายโปรเจ็กต์ที่ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการ ชีวิตช่วงนี้ก็เลยค่อนข้างเหนื่อยหน่อยครับ 

จัดสมดุลระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัวอย่างไร 

คำถามนี้แอลเมนเคยถามผมเมื่อสองปีก่อน แต่ครั้งนี้คำตอบของผมเปลี่ยนไปจากเดิม ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ เลยให้ความสำคัญทั้งสองอย่างเท่ากัน แต่ตอนนี้ชีวิตได้เปลี่ยนไปแล้ว ผมเข้าสู่โหมดของคนทำงานเต็มตัว เลยทุ่มเวลาให้การทำงานแบบเต็มร้อย เวลาที่เหลือก็เอามาพัฒนาตัวเองต่อ จากนั้นค่อยเป็นเวลาส่วนตัวที่นัดแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ ซึ่งเพื่อนเราก็ว่างไม่ค่อยตรงกันเเล้ว เพราะต่างคนต่างโฟกัสกับการทำงานของตัวเองเหมือนกัน

ในหนึ่งวัน ช่วงเวลาไหนที่สำคัญสำหรับคุณที่สุด

ก่อนนอนครับ ด้วยความที่ผมเป็นมนุษย์กลางคืน พอต้องออกกอง การตื่นเช้าจึงกลายเป็นสิ่งที่ยากมากๆ เพราะผมเองก็ไม่สามารถนอนให้เร็วขึ้นได้ เลยเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง

ถ้าเปรียบชีวิตของภูวินทร์เป็นนาฬิกาเรือนหนึ่งจะมีหน้าตาแบบไหน

อย่างแรกคือเน้นความเป็นตัวเอง รูปทรงต้องเรียบหรูและเรียบง่าย แต่มีกลไกและฟังก์ชันเยอะภายใต้ความธรรมดา

เคยมีช่วงเวลาไหนในชีวิตที่อยากหยุดเวลาไว้บ้างไหม

อยากหยุดเวลาช่วงอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 รู้สึกว่าตอนนั้นมันสนุกไปหมดทุกอย่างทั้งเรื่องเรียนและเรื่องทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิตในสังคมด้วย เหมือนเป็นการเปิดโลกเพราะผมได้ลองทำอะไรหลายอย่าง

คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ ‘การรอคอยโอกาส’ โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานอยู่ในวงการนี้

โอกาสก็เหมือนประตู ผมคงรอให้ประตูเปิดเองไม่ได้ เราต้องเป็นฝ่ายเดินไปเคาะประตูบานนั้นเอง ซึ่งการรอให้ประตูเปิดเองก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะครับ สำคัญคือเราต้องทำตัวให้พร้อมอยู่เสมอ 

ถ้านาฬิกาของ Frank Muller สามารถเตือนใจเรื่องสำคัญในชีวิตได้ อยากให้นาฬิกาเรือนนั้นช่วยเตือนเรื่องอะไร 

อยากให้เตือนว่า ‘สายแล้ว’ เพราะผมนอนน้อย เลยอาจจะไม่ตื่น (หัวเราะ)

ผลงานที่แฟนๆ กำลังจะได้เห็นต่อไป

นอกจากซีรีส์เรื่อง TASTE เด็กเจนแซ่บ ที่จบไปแล้ว ผมอยากฝากผลงานเพลงจาก Riser Music ซิงเกิ้ลที่เพิ่งปล่อยออกมาชื่อว่า เทหมดหน้าตัก All in ครับ

Credit Team
Editor in Chief: Nichakul Kitayanubhongse
Photographer: Wasu Sukatocharoenkul 
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Makeup: Chanajit Dechasatidwong, Saran Anaphon
Hair: Roangritz Apisitvachiramatee, Sirasit sirikarin

Similar Articles

More