หยุดพักเรื่องแฟชั่นสักครู่ แล้วมาแวะพูดคุยกับหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อทำความรู้จัก ‘กวิน ลีนุตพงษ์’ ที่นัดหมายกับแอลเมนมาพูดคุยถึงบทบาทการทำงาน ที่อาจเน้นไปยังไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รสนิยม แง่มุมความคิด พื้นหลังความสำเร็จ (มากกว่า) ถึงการเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถของไทยปัจจุบัน
แนะนำตัวเองให้ชาวแอลเมนรู้จักคร่าวๆ
ผม ‘กวิน ลีนุตพงษ์’ ดำรงตำแหน่ง Sale and Marketing Director ของ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด (BMW Barcelona) ธุรกิจครอบครัวที่ผมดูแลหลักๆ มาประมาณสัก 10 ปี ซึ่งจริง ๆ ธุรกิจครอบครัวนี้ดำเนินมาประมาณ 70 ปี และผมก็เข้ามาดูแลอย่างจริงจังในปี 2016
ตั้งแต่ Day 1 จนถึงตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ด้วยส่วนตัวผมเองก็เป็นคนจริงใจ ชอบอะไรง่ายๆ ชิลๆ แต่พอเป็นเรื่องงานมันก็ต้องลดความชิลลง แล้วโฟกัสไปที่ความเป็น Professional ให้มากที่สุด และก็ไม่สามารถทำอะไรให้มันง่ายๆ หรือการ Compromise ให้กับทุกอุปสรรคได้ ผมต้องเข้มงวดกับตัวเอง พร้อมมุ่งไปยังเป้าหมายให้ชัดเจน ตลอดการบริหารคนในองค์กรที่ผมต้องปรับให้ตัวเองมีวินัยมากขึ้น พร้อมสร้างและดูแลคนที่มีสเกลใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผม
หากเปรียบ BMW เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เสน่ห์ของเค้าคนนี้เป็นยังไง?
แรกเริ่มบีเอ็มดับเบิลยูวาง Brand Positioning เป็นผู้ชายที่อยู่ในวัยกําลังสร้างตัวไปจนถึงวัยที่ประสบความสำเร็จแล้ว โดยไม่คำนึงถึงเพศใดเพศหนึ่ง แล้วมุ่งไปที่ช่วงวัยที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ ความเป็นมืออาชีพ ดูดีมีสไตล์แบบคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของมนุษย์ BMW กลุ่มเป้าหมายที่ทางแบรนด์เล็งไว้ และอีกนัยหนึ่งผมก็ทำหน้าที่ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ของบีเอ็มดับเบิลยูให้ชัดขึ้นผ่านบุคลากรในองค์กรที่ทางเราจะกรูมมิ่งลุค โดยมีการเทรนนิ่งตั้งแต่เรื่องของการเสื้อผ้า เฉดสีที่ควรใส่ บุคลิกภาพ การวางตัว ที่จะมีการโค้ชให้ดูดี หรือว่าการเข้าหาลูกค้าที่มาใช้บริการกับเรา อย่างนี้เป็นต้นครับ
มีจุดแข็งจุดอ่อนเป็นอย่างไร?
เริ่มจากจุดแข็งของผมเป็นคนง่ายๆ เข้าอกเข้าใจคนอื่น เรียกได้ว่าเป็นคนใส่ใจทุกรายละเอียดอ่อนกับเรื่องต่างๆ รอบๆ ตัวค่อนข้างเยอะ แล้วจุดแข็งนี้ก็อาจเปลี่ยนเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผมไม่ค่อยมีวินัยแบบไม่ค่อยเป๊ะ อาทิ ตั้งใจนอนสี่ทุ่ม แต่หลับตีห้าตื่นหกโมง แล้วก็จะมีเรื่อกิจวัตรส่วนตัวที่ผมชอบประนีประนอมไปเรื่อยจนบางครั้งทำให้ผมเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์
4 ไอเท็มโปรดที่ขาดไม่ได้
อย่างแรกต้องแว่นตาเลยครับ ผมใส่แว่นตามาตั้งแต่เด็กเพราะค่าสายตาด้วย ชิ้นนี้จึงเป็นแอ็กเซสเซอรี่ส์ที่ขาดไม่ได้ อย่างที่สองคงเป็นกระเป๋าสตางค์ครับอันนี้ต้องพกไปทุกที่เพื่อความมั่นใจ ชิ้นต่อไปก็คงเป็นโทรศัพท์ครับเป็นไอเท็มที่เชื่อว่าทุกคนก็ต้องมีไว้ข้างกาย สุดท้ายคงเป็นนาฬิกาข้อมือ Audemars Piguet Royal Oak ก็ Rolex ใส่เวลาออกงานสำคัญ หรือถ้าตอนออกกำลังกายก็คงเป็น Apple Watch
วิธีชาร์จพลังในวันที่หมดแรง หรือความเครียดสะสมจากงาน
ปกติช่วงเวลาพักผ่อนผมชอบไปยิมเป็นประจำ ซึ่งมันเป็นการชาร์จพลังได้ดีจริงๆ แต่วันไหนไม่มีแรงเหลือ ผมก็จะนั่งดูทีวีเจอซีรีส์พวกแนวแฟนตาซีอย่าง Game of throne และ House of the Dragon ซึ่งตอนนี้ผมอินอยู่กับทีมเขียว
การดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอของคุณเป็นอย่างไร
ผมดูแลผิวเป็นรูทีนแบบเบสิกเลยครับ ไม่ว่าจะสกินแคร์เช้า-เย็น ทากันแดด แล้วทานพวกอาหารเสริม วิตามินหลายตัวไม่ว่าจะเป็นพวก B C D น้ํามันตับปลา เพื่อรับมือกับการทำงานหนักทั้งอินและเอาต์ดอร์เลยครับ
เคล็ดลับความสุขและความสำเร็จในชีวิตของคุณ
ส่วนตัวเวลาทํางานผมไม่ได้เน้นเรื่องความสุขมากนัก แต่โฟกัสไปที่เป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จในทุกๆ วัน สิ่งนั้นจึงเรียกได้ว่าคือความสุข ซึ่งผมเองเซตถึงเป้าหมายไว้เสมอ ไปพร้อมขับเคลื่อนจากความภูมิใจในตัวเอง และส่งกำลังใจให้ทีมงาน เพื่อก้าวสู่ความสําเร็จที่เป็นภาพใหญ่ แล้วเมื่อพวกเราประสบความสําเร็จ ผมก็จะรู้สึกภูมิใจและมั่นใจ ก่อเกิดเป็นมีความสุขแท้จริงไปด้วยครับ