กระแสฟีเวอร์ของภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า เพิ่งผ่านพ้นไปไม่เท่าไหร่ พานให้เราย้อนนึกถึงบรรรยากาศการสังสรรค์บนโต๊ะอาหารของครอบครัวชาวจีนที่เต็มไปด้วยบทนสนทนาอันอบอุ่น และไม่ใช่แค่นั้น เรายังนึกถึงเมนูอาหารที่คุ้นเคยอย่างเป็ดปักกิ่ง เสี่ยวหลงเปา ฮะเก๋า เป๋าฮื้อ รวมถึงรังนกแท้ชั้นดีจนน้ำลายสออีกด้วย
วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี เราจึงชวนผู้อ่านแอลเมนเปลี่ยนโหมดมาลองเมนูอาหารจีนแบบ Fine Dining โดยใช้วัตถุดิบหลักอย่าง รังนกแท้ เป็นตัวชูโรงกันบ้าง เพื่อเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่จะเปลี่ยนภาพจำของซุปรังนกแบบเดิมๆ มาสู่เมนูรังนกสไตล์โมเดิร์น ผ่านการรังสรรค์โดยเชฟ ไอซ์-ศิวพล ปลื้มธีรวงศ์ ทายาทรุ่นที่สามของภัตตาคารอาหารจีนแต้จิ๋วเก่าแก่ ‘รื่นรส’ ที่ปลุกปั้นร้านอาหารฟิวชั่นจีน-ฝรั่งเศส ภายใต้ชื่อ CROSS BKK จนกระทั่งกลายเป็นกระแสปากต่อปาก จองคิวยากถึงขั้นต้องต่อคิวยาวข้ามปีเลยทีเดียว
สำหรับคอร์สพิเศษที่เรากำลังลิ้มลอง เป็นมื้ออาหารที่ครีเอตขึ้นเพื่อแคมเปญ Fine Dining Experience with Scotch Real Bird’ Nest Royale Supreme ‘SCOTCH x Cross’ ใช้รังนกแท้สีเหลืองทองเต็มรังจากถ้ำธรรมชาติ 100% คุณภาพระดับพรีเมียม นำมาปรุงเป็นเมนูใหม่ที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ทำให้ได้รสชาติถูกปากที่เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายกินที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ หน้าตาของแต่ละเมนูจะเป็นยังไง ลองมาดูกัน!
เปิดด้วยเวลคัมดริงก์ Snow Chrysanthemum From Kunlun Mountains ชาเก๊กฮวยเย็นที่ใช้ดอกตูมจากคุนหลุน มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน นำมาแช่รังนกไว้ข้ามคืน ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี จากนั้นสตาร์ทเมนูแรกกับไข่ตุ๋นรสนุ่มสุดละมุน ท็อปด้วยรังนกแท้สีเหลืองทองที่ผ่านการตุ๋นมาในน้ำซุปจากหอยเชลล์แห้ง (กังป๋วย) และแฮมยูนนาน ใช้เวลานึ่งนาน 12 ชั่วโมง เพิ่มมิติของเท็กซ์เจอร์ด้วยคาเวียร์ ถัดมาเป็นหอยเชลล์โอตาเตะจากญี่ปุ่นที่มีรสหวานเบลนด์ไปกับซอสบัตเตอร์นัท สควอช ให้รสสัมผัสเผ็ดหวานกำลังดี เพิ่มความพรีเมียมด้วยบาฟุน อูนิและรังนกแท้เส้นยาวที่นำไปหมักกับน้ำมัน XO ให้กลิ่นหอมและรสชาติแปลกใหม่ในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตามด้วยสลัดไข่เยี่ยวม้าสีเหลืองทองที่ทำจากไข่นกกระทา คลุกเคล้ากับน้ำยำจากบัลซามิก แมงกะพรุน และรังนกแท้ เพิ่มความเผ็ดชาด้วยน้ำมันพริกหมาล่า
แล้วก็มาถึงเมนูไฮไลท์สุดพรีเมียม นั่นคือซุปไก่รสกลมกล่อมที่เสิร์ฟมาในฟักทั้งลูก เมื่อตักลงไปจะพบกับรังนกแท้สีเหลืองทองเต็มรัง จากนั้นตัดเลี่ยนด้วย Pink Guava Sorbet รสชาติเผ็ดๆ เค็มๆ ของซอร์เบต์พริกเกลือฝรั่งสีชมพูสุดเฟรช ถูกนำมาผสมผสานกับรังนกแท้ไว้ได้อย่างลงตัว ถัดมาเป็นการนำรังนกมาทำเป็นไส้พายฝรั่งเศสร่วมกับฟัวกราส์ เสริมรสชาติด้วยซอสเบอร์รี่ และเกี่ยมฉ่ายเบอร์รี่ ต่อด้วยข้าวราดหน้าเป๋าฮื้อรังนก ตัวข้าวญี่ปุ่นผัดกับไข่ปูให้ความรู้สึกหนึบหนับ ก่อนจะเข้าโค้งสุดท้ายด้วยเต้าฮวยรังนกที่เบลนด์ระหว่างชาอู่หลงสองชนิด จนได้เป็นพุดดิ้งชานม เพิ่มลูกเล่นด้วยรังนกแท้เส้นยาวที่นำไปตุ๋นกับน้ำใบเตย แล้วปิดจบด้วยของหวานและชา Petit Four with Aged Pu-Erh Tea In Tangertine Peel เป็นการฟินิชคอร์สแบบพอดิบพอดี เป็นการย้ำชัดอีกครั้ง..ไม่ว่าวัยไหนก็เอ็นจอยไปกับวัตถุดิบแสนคุ้นเคยอย่างรังนก สามารถประยุกต์ไอเดียผสานกับการปรุงแบบร่วมสมัยให้เกิดเมนูใหม่ๆ ได้ไม่รู้จบ