‘Stephane’ ครีเอเตอร์สายอาหารผู้เข้าสู่วงการ TikTok ระหว่างกักตัวช่วงโควิด

ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่สร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการเชื่อมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศและสรรค์สร้างความคิดสร้างสรรค์ในช่วงเวลาที่เศร้าหมองที่ผู้คนต้องเผชิญกันทั่วโลก แอลเมนพามาทำความรู้จักกับหนึ่งในคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่แจ้งเกิดช่วงโควิด นั่นก็คือ Stephane หนุ่มตี๋ชาวจีนที่ใช้ชื่อผู้เล่นว่า @talentpastry หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pastry & Food ผู้ครีเอตคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำอาหาร แชร์สูตรอาหารหลากหลายประเภท ตั้งแต่ขนมหวานอย่างเค้ก Black Forest ทาร์ตแอปเปิ้ล ไปจนถึงอาหารนานาชาติอย่างพาสต้า กิมจิ แฮมเบอร์เกอร์ หรือกระทั่งผัดไท จุดเด่นของคลิปคือขั้นตอนการทำที่ละเอียด ดึงดูดผู้ชมทั่วโลกด้วยการผสมผสานระหว่างสูตรอาหารดั้งเดิมและสูตรใหม่ๆ รวมถึงสไตล์การนำเสนอที่น่าสนใจ ทำให้เขามีผู้ติดตามถึงกว่าสองแสนคน

คุณเริ่มต้นทำคลิปใน TikTok ได้อย่างไร

ผมเริ่มทำคลิปในช่วงโควิด เป็นช่วงที่งานหายากมาก ก่อนหน้านั้นผมเคยเป็นเชฟขนมหวานมาก่อน เลยคิดหาวิธีการทำงานให้ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน แล้วก็คิดว่าทำไมไม่ลองทำคลิปทำอาหารให้คนที่อยู่บ้านได้ดูล่ะ ผมถ่ายและฝึกตัดต่อคลิปด้วยตัวเอง และก็รู้สึกว่า นี่แหละคือสิ่งที่อยากทำ เพราะผมได้ทำงานที่บ้านและแชร์ความหลงใหลในเวลาเดียวกัน พอหลังโควิดผมก็เริ่มสร้างชุมชนของตัวเอง มีคอร์สให้เรียนฟรีในช่วงแรกด้วยครับ ชุมชนนี้ทำให้ผมไม่ต้องไปหางานอย่างอื่นทำแล้ว ผมยึดอาชีพนี้เป็นหลักและเอนจอยไปกับมัน ตอนนี้ผมอยู่ที่ไทย ได้ค้นพบอาหารรสชาติใหม่ๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อน ผมทำคลิปชวนคนมาเที่ยวที่นี่ด้วยเพราะผมว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีที่สุดในเอเชีย ทั้งในเรื่องอาหาร การท่องเที่ยว คนไทยก็น่ารัก และยังมีวัฒนธรรมที่น่าทึ่งอีกมากมาย

คุณเรียนรู้การตัดต่อคลิปด้วยตัวเองใช่ไหม แล้วคิดคอนเทนต์ที่จะสื่อสารกับผู้ชมอย่างไร

ที่จริงผมเป็นคนที่ชอบการตัดต่อคลิปมานานแล้ว เพราะผมว่ามันเจ๋งดี ตอนแรกผมก็ทำได้ไม่ดีหรอกครับ ก็เลยไปหาความรู้จาก YouTube และโซเชียลมีเดียจนกระทั่งสามารถทำได้ดีขึ้น จะบอกว่าผมเรียนรู้ด้วยตัวเองก็คงได้ ยิ่งทำบ่อยๆ ก็ยิ่งเก่งขึ้น 

แต่เท่าที่รู้มาคุณเป็นคนขี้อายใช่ไหม

ใช่ครับ ผมเป็น introvert ตอนที่เริ่มทำ TikTok และไลฟ์สตรีม ผมประหม่าและเครียดมาก แต่ยิ่งทำไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งดีขึ้นและง่ายขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมแค่ต้องฝึกบ่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ เป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุด

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จใน TikTok คืออะไร

เคล็ดลับของผมง่ายมากๆ คือคุณต้องมีความหลงใหล แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทำอย่างต่อเนื่อง ถ้าคุณไม่ทำอย่างสม่ำเสมอ การเติบโตใน TikTok จะเป็นเรื่องยาก ผมว่ามันก็เหมือนกับในทุกๆ ธุรกิจครับ ผมจะทำงานทุกวันโดยไม่มีวันหยุด ผมจะหยุดพักก็ต่อเมื่อป่วยเท่านั้น จริงๆ นะครับ ผมจะไลฟ์สตรีมขั้นต่ำ 4 ชั่วโมงต่อวัน และบางครั้งก็มากสุดถึง 13 ชั่วโมง แต่มันเหนื่อยสุดๆ เลยผมจะไม่โกหกคุณหรอก มันไม่ง่าย เพียงแต่คุณต้องมีแพสชั่นและความต่อเนื่อง แค่นั้นครับ 

คุณเติบโตและเรียนจากที่ไหนมา

ผมเกิดและเติบโตในปารีส ตอนนี้อายุ 32 ปี ตอนเด็กผมก็ไม่รู้จะเรียนอะไรเหมือนกับหลายๆ คนแหละครับ ผมไม่ชอบเรียนหนังสือเพราะมันน่าเบื่อและมองไม่เห็นอนาคตตัวเองเป็นมนุษย์เงินเดือนในออฟฟิศ ก็เลยรู้ตัวว่าคงต้องทำงานอะไรที่ใช้ร่างกายที่จะทำได้ทุกวัน ผมคิดถึงอาหารเป็นอันดับแรกเพราะเป็นสายกิน และด้วยความที่ครอบครัวเป็นคนจีน วัฒนธรรมชาวจีนก็คืออาหาร เราทำอาหารดีๆ ทานกันที่บ้าน ผมเลยตัดสินใจเรียนทำอาหารคาว 3 ปี ขนมหวาน 2 ปี แล้วก็ทำงานเป็นเชฟขนมหวานและได้เดินทางไปทั่ว แต่ตอนโควิดผมต้องกลับปารีสและคิดว่าต้องเปลี่ยนอาชีพแน่เลย และผมเห็นคนทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียกันเยอะมาก ก็เลยคิดกับตัวเองว่าทำไมไม่ลองดูล่ะ

คุณทำงานเป็นนายแบบด้วยใช่ไหม

ผมไปทำงานที่ฟิลิปปินส์ 2 – 3 ปี มีอยู่ตอนนึงที่ผมหางานเชฟ แต่ไม่สามารถหางานที่เหมาะสมได้เพราะเงินเดือนน้อยเกินไป ในช่วงที่พักอยู่ก็ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ หลายคน เขาก็บอกให้ผมลองไปทำงานนายแบบดูสิ เพราะตัวเขาเองก็เป็นนายแบบ แล้วเขาก็พาผมไปรู้จักกับเอเจนซี่ หลังจากนั้นผมก็ได้เรียนรู้หลายอย่างในวงการนี้ ผมเป็นคนขี้อายและ introvert แต่งานนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผมได้มากๆ ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าผมก็ทำได้ 

ตอนนี้คุณทำอะไรบ้างในกรุงเทพฯ

ผมมีเพื่อนเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในกรุงเทพฯ หลายคนเลยครับ ตั้งแต่ที่ทำคอนเทนต์เยอะๆ ใน TikTok ผมก็เริ่มคิดว่าจะอัปเกรดคอนเทนต์และมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นได้ยังไง ผมมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในประเทศไทย หรือมาทำงานคอลแลบกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์คนอื่นๆ ได้  

คุณมีแพลนในอนาคตอย่างไรบ้าง

ผมวางแผนจะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าที่ไหน แต่ที่รู้แน่ๆ คือต้องกลับมาประเทศไทยอีก เพราะเป็นประเทศที่มีอะไรหลายอย่างให้ทำเยอะมาก มีโอกาสมากมาย ถ้าคุณอยากเริ่มทำโซเชียลมีเดีย ประเทศไทยนี่แหละเหมาะที่สุดแล้วครับ 

Words: Sarita Utsahapanich

Similar Articles

More