ปีที่ผ่านมาชีวิตของ ‘บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล‘ เกิดอะไรขึ้นมากมายเหลือเกิน นอกจากความท้าทายในหนังฟีลกู้ดสูตรเรียกน้ำตาเรื่อง หลานม่า กับบทของเอ็มที่ต้องคอยดูแลปรนนิบัติญาติผู้ใหญ่วัยชราโดยมีพฤติกรรมหว่านพืชหวังผล กะรวยทางลัดด้วยเงินจากการขายห้องแถวหลังเก่าสมบัติชิ้นสุดท้ายของอาม่า แม้เนื้อหาธรรมดาสามัญทว่ามีความสากลจนเข้าถึงมหาชนแทบทุกชายคาบ้าน ขึ้นแท่นเป็นผลงานที่สามารถเก็บรางวัลระดับนานาชาติได้หลายเวที

ตามมาติดๆ ด้วยการขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่คู่กับพีพี-กฤษฏ์ แต่ทิ้งช่วงเพียงไม่นานบิวกิ้นก็ประกาศว่าจะไปศึกษาต่อที่อังกฤษ เตรียมขับเคลื่อนชีวิตมุ่งสู่อนาคตเพื่อนำความรู้มาปรับใช้ในธุรกิจของตัวเองทั้งการเป็นเจ้าของค่าย Billkin Entertainment และโปรดักต์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอีกแบรนด์

อย่างไรก็ตามบิวกิ้นไม่ได้ปล่อยให้แฟนๆ คิดถึงนาน ทุกคนรู้ว่าภาพยนตร์เรื่อง ซองแดงแต่งผี เตรียมจะลงโรงในวันที่ 20 มีนาคม และกำลังตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรับชมหนังผีฉบับรีเมคที่ว่าด้วยเรื่องราวการแต่งงานสุดพิลึกพิลั่นระหว่างคนกับผี

เห็นชัดเลยว่าบิวกิ้นสร้างไดนามิคให้ตัวเองอย่างต่อเนื่องทั้งงานแสดงและงานเพลง รวมถึงแวดวงแฟชั่นก็อ้าแขนต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ใครเห็นก็ต้องรักต้องเอ็นดู เมื่อแบรนด์ชั้นนำอย่าง Gucci ประกาศแต่งตั้งบิวกิ้นขึ้นสู่ตัวแทนภาพลักษณ์ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ได้ปักหมุดลงบนทำเนียบแฟชั่นระดับโลก และมีความหมายยิ่งใหญ่มากสำหรับอาชีพศิลปิน
การปรากฏตัวร่วมชมโชว์ Gucci Fall-Winter 2025 ครั้งล่าสุดที่มิลานแฟชั่นวีค จึงนำมาสู่การถ่ายภาพแฟชั่นเซตแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับนิตยสารแอลเมน ประเทศไทย ซึ่งคราวนี้บิวกิ้นแบ่งเวลาปลีกตัวมาพูดคุยถึงความสำเร็จในวัย 25 พร้อมทั้งอัปเดตก้าวถัดไปของชีวิตที่เจ้าตัวรับปากว่าจะยังโลดแล่นบนเส้นทางนี้ต่อไป

แรงบันดาลใจในการไปเรียนต่อที่อังกฤษ
เป็นความฝันที่อยากจะลองใช้ชีวิตต่างแดนดูสักครั้ง ผมอยู่เมืองไทยมาตลอดตั้งแต่ประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย คิดว่าถ้าไม่มาตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว
ปรับตัวช่วงแรก มีอุปสรรคอะไรไหม
ใช้เวลาปรับตัวประมาณช่วง 1-2 เดือนแรก ต้องจัดการชีวิตหลายอย่างทั้งเรื่องอาหารการกิน การทำความสะอาดบ้าน การยื่นเอกสาร รวมถึงเรื่องวัฒนธรรมด้วย

จัดการความเครียดอย่างไร
พอมาเรียนจริงๆ พบว่ามันหนักกว่าที่คิดไว้เยอะ ต้องทำโน่นนี่พร้อมกันหลายอย่าง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดสรรบริหารเวลา แต่ผมทำได้ดีเพราะเรียนอย่างเดียว
วันปกติของบิวกิ้นที่อังกฤษเป็นอย่างไร
พักผ่อน นอนยาวแบบไม่ตั้งนาฬิกาปลุก จากนั้นก็ตื่นมาทำกับข้าว เสร็จแล้วก็ล้างจาน ทำความสะอาด ซักผ้า ถ้าวันไหนมีนัดก็ออกไปแฮงเอาต์ข้างนอก แต่ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านมากกว่า

การใช้ชีวิตต่างแดนให้บทเรียนอะไรกับคุณบ้าง
อยู่ที่นี่ผมได้ใช้เวลาอยู่กับความคิดตัวเอง ทำให้ได้ทบทวนสิ่งต่างๆ พอเข้าใจตัวเองมากขึ้นก็ทำให้มองเห็นภาพรวมชัดขึ้นด้วย เพราะตอนอยู่เมืองไทยผมทำงานทุกวัน จนไม่มีเวลาสำรวจความคิดตัวเอง
มีช่วงเวลาหรือเหตุการณ์ไหนที่รู้สึกว่าเป็น ‘โมเมนต์แห่งการเติบโต’
โมเมนต์แบบนี้เกิดขึ้นกับผมเสมอมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน การเลื่อนชั้นเรียนขึ้นมัธยม การเข้ามาอยู่นาดาว การได้เล่นซีรีส์เรื่องแรก การขึ้นมาเป็นนักแสดงนำ เล่นหนัง ทำเพลง ทัวร์คอนเสิร์ต ทุกสเต็ปมีสิ่งที่ได้เรียนรู้อยู่ตลอด ทุกประสบการณ์ทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่ง รวมถึงการมาเรียนต่อที่อังกฤษก็ช่วยเปิดมุมมองให้เห็นอะไรกว้างขึ้น ได้รู้จักตัวเองว่าจริงๆ เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

ตัวละครเม่นที่คุณรับบทในซองแดงแต่งผี มีจุดไหนที่ทำให้รู้สึกว่าใกล้เคียงกับตัวตนของคุณบ้างไหม
(นิ่งคิด) น่าจะเป็นความทะเยอทะยาน เม่นเขามีความฝันที่ชัดเจน เขาจะยึดเอาเป้าหมายเป็นหลักและมุ่งมั่นมากๆ ผมเองก็มีมุมนั้นเหมือนกัน เวลาอยากได้อะไรหรืออยากจะทำอะไร ผมว่าผมก็สู้ตายเลยล่ะ!
ถ้าต้องเลือกระหว่างถ่ายฉากแอ็กชั่นไล่ล่ากับฉากผีหลอกแบบจิตวิทยา รู้สึกว่าฉากไหนยากกว่ากัน
ผมว่าผีหลอกแบบจิตวิทยายากกว่านะ ฉากแอ็กชั่นไล่ล่ามันอาจไม่ได้เหนื่อยทางความคิด แต่จะเหนื่อยทางกายซะมากกว่า เหมือนเรามี objective ชัดเจนอยู่แล้ว ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน แต่การเล่นหนังผีที่มีเรื่องของความกลัวเข้ามา มันต้อง hold ก้อนความรู้สึกนั้นไว้เยอะพอสมควร มันมีมิติซับซ้อนหลายเลเยอร์ทั้งในเชิงความคิดและความรู้สึกของตัวละครที่ยากต่อการเตรียมตัว

หลังจากเล่นเรื่องนี้ คุณมีมุมมองต่อเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับผีหรือโชคลางเปลี่ยนไปไหม
มันทำให้เราเข้าใจเรื่องประเพณีและความเชื่อในอีกมุมหนึ่งมากกว่า อย่างที่ทราบว่าเป็นหนังรีเมคของไต้หวัน ผมต้องทำการบ้านด้วยว่าความเชื่อเรื่องซองแดงนั้นเชื่อมโยงระหว่างโลกของคนเป็นและคนตายอย่างไร ทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมบ้านเขามากขึ้น
รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับแอลเมนครั้งนี้
ดีใจทุกครั้งที่ได้ทำงานกับ Elle Men และ Gucci สำหรับการถ่ายแบบครั้งนี้ทางทีมงานเลือกสถานที่ที่เป็นเอาต์ดอร์ เปลี่ยนโลเคชั่นไปตามมุมต่างๆ ของมิลานเพื่อให้ได้กลิ่นอายแบบสตรีต ผมจึงรู้สึกสนุกเหมือนมาเที่ยวเล่นมากกว่ามาทำงาน (หัวเราะ)

ลุคไหนที่เป็นตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ให้อารมณ์แปลกใหม่
สีน้ำตาลเป็นสีที่โดดเด่นของปีนี้ ผมจึงถูกใจลุคขายาวสีน้ำตาลเป็นพิเศษ ด้วยคัตติ้งที่มีความเนี้ยบ ใส่แล้วช่วยเสริมลุคให้ดูเป็นหนุ่มอิตาเลียน
เลือก 3 คำที่อธิบายสไตล์แฟชั่นของตัวเอง
‘เรียบ’ ผมเป็นคนแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ ไม่ฉูดฉาด ‘ดีเทล’ ถึงแม้จะชอบอะไรเรียบง่ายแต่ต้องมีดีเทลซุกซ่อนอยู่ ‘ยั่งยืน’ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเสื้อผ้า การตัดเย็บที่ประณีต สวมใส่ได้หลายครั้งหลายโอกาส สามารถนำไปแมตช์กับของชิ้นอื่นๆ ที่ตัวเองมี เพราะแฟชั่นเป็นสิ่งที่หมุนเวียน

Editor-in-Chief: Nichakul Kitayanubhongse
Deputy Editor: Patmavut Pothichapan
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Digital Editor: Khanakon Phettrakul
Digital Content Editor: Patsaraporn Chanamueng
Digital Content Creator: Poohchiss Kuanpiputkul
Photographer: Gunn Kochapanya
Videographer: Arnakornphubet Hengsuwan
Makeup: Sutipat Pinchum
Hair: Kongkiat Krissakree