Bar Sathorn (บาร์สาทร) มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ผู้ที่ชื่นชอบค็อกเทล พาเดินทางย้อนเวลาที่จะสร้างความประทับใจ ไปพร้อมกับค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการรังสรรค์จากประวัติศาสตร์อันยาวนานและเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวาของอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกอายุกว่า 134 ปี
ตั้งแต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2558 The House on Sathorn (เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร) ข้าง W Bangkok Hotel (โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ) ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงในอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ โดยย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1889 อาคารแห่งนี้ได้ผ่านการปรับเปลี่ยนอย่างน่าทึ่งโดยเริ่มจากที่พักส่วนตัวในปี ค.ศ. 1920 ก่อนที่จะกลายมาเป็นโรงแรมและเวลาต่อมาเป็นสถานทูตรัสเซียแห่งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 – 1999
ผู้จัดการของบาร์ที่มีชื่อเสียงจากเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี Marco Dognini (มาร์โก ดอนญีนี) ได้รับการยกย่องในวงการมิกซ์โซโลจีจากความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก โดยแต่ละเมนูเผยให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดคอกเทลจากพลังสร้างสรรค์ ผลงานของเขาสร้างชื่อจากการเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของการแข่งขันเวิลด์คลาสในประเทศอิตาลีและดูไบ รวมถึงได้รับเกียรติเป็นบาร์เทนเดอร์ชาวอิตาเลียนที่ดีที่สุดอันดับ 6 ในปี ค.ศ. 2018 “เราค้นพบแรงบันดาลใจภายในอาคารประวัติศาสตร์หลังนี้ ถือเป็นพยานต่อเหตุการณ์ทางด้านประวัติศาสตร์และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาบรรยากาศและเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละยุคสมัยได้รับการตีความอย่างมีศิลปะในค็อกเทลซิกเนเจอร์เหล่านี้” Marco Dognini เล่าเบื้องหลังคอลเล็กชันค็อกเทลซิกเนเจอร์ใหม่ของเขา
Marco Dognini, Bar Manager of Bar Sathorn at the House of Sathorn
เมนูที่ถูกสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันนำเสนอค็อกเทลและมอกเทลซิกเนเจอร์จำนวน 16 รายการ โดยถูกแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของ The House on Sathorn พาทุกท่านเดินทางจากปัจจุบันย้อนกลับไปสู่อดีตประกอบด้วย…
The Present
ยุคแห่งการเฉลิมฉลองย่านการค้าที่รุ่งเรืองของปัจจุบัน วัตถุดิบและรสชาติไทยถูกผสมผสานอย่างลงตัวกับองค์ประกอบทันสมัยในค็อกเทลต่างๆ อาทิ ‘City of Angels’ ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองหลวงของไทย มีส่วนผสมของรัม, สาเก, น้ำส้มสายชู, เสาวรส, วานิลลา, ออเรนจ์บิทเทอร์ส และโปรเซคโก้ หรือสัมผัสความละเอียดอ่อนและความเข้มข้นของ ‘L&L Martini’ ซึ่งประกอบด้วยโรกุ, จิน, น้ำเชื่อมลำไย, ลิ้นจี่ และกลิ่นหอมของมาลัย
Embassy Row
เพื่อเป็นการยกย่องและเป็นเกียรติแก่ประวัติศาสตร์ทรงคุณค่าของถนนสาทรในฐานะที่เป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างประเทศ คอกเทลเหล่านี้จึงถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อสะท้อนภาพเหตุการณ์ระหว่างประเทศในอดีต สัมผัสได้โดยการดื่มด่ำเครื่องดื่มที่โดดเด่น อาทิ ‘Envoy’ เป็นการเปลี่ยนโฉมของคลาสสิคเมนูคอกเทลปาโลมาโดยใช้ใบมะเดื่อที่ผสมด้วยเตกีล่าและแตงโมรมควัน พร้อมด้วยเกลือ และอกาเว ในขณะที่ ‘The Ambassador’s Favorite’ มีความหรูหราและซับซ้อนด้วยการผสมวิสกี้เบอร์เบิน, คอนญัก, กล้วย, มะม่วง, รัม, เหล้าขม และดอกมะลิไทยไว้ด้วยกัน
Hotel Royal
เครื่องดื่มทุกแก้วจะพาย้อนกลับไปในทศวรรษที่ 1920 ช่วงเวลาที่ Madame Staro (มาดามสตาโร) สุภาพสตรีชาวอิตาเลียนได้เปลี่ยนที่พักแห่งนี้ให้กลายเป็นโรงแรมสุดหรู Hotel Royal นำเสนอคอกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศอิตาลีแฝงด้วยกลิ่นอายความหรูหรา มีเมนูเด่นอย่าง ‘The Staro Americano’ คอกเทลอเมริกาโนแบบคลาสสิกที่มีการปรับใหม่โดยใช้สตรอว์เบอร์รีหมักเหล้า, ฟอร์ติไฟด์ไวน์ และมะกอก
The History of Sathorn
เพื่อเป็นเกียรติแก่หลวงสาทรราชายุกต์ ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมและเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างคลองสาทรในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงขอนำเสนอคอกเทลที่ได้รับอิทธิพลผสมผสานระหว่างไทยและจีน เริ่มต้นการเดินทางย้อนเวลาด้วยเมนู ‘เจ้าสัว’ การรวมตัวของจีนและไทยที่มีส่วนผสมของวิสกี้สก๊อตช์, เหล้าจีน, ส้มจี๊ด และหอมแขก และสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์รสชาติลึกซึ้งและหรูหรา ‘The Golden Canal’ เป็นการปรับโฉมคลาสสิกของคอกเทลดั้งเดิมด้วยวิสกี้, เหล้าสมุนไพรอิตาลี, ช็อกโกแลต และสัมผัสของมะขามไทย
และนอกจากเครื่องดื่มรสเลิศที่จะมาสร้างความประทับใจ พาย้อนวันวานไปสัมผัสกับกลิ่นอายของความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ยังมีอาหารเมนูว่างจากห้องอาหารพายที่เสิร์ฟเฉพาะที่ Bar Sathorn ซึ่งทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูบาร์สแนคที่ลงตัวควบคู่กับคอกเทลได้ย่างสมบูรณ์แบบ
Bar Sathorn ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่าง The House on Sathorn ให้บรรยากาศหรูหราทว่ารู้สึกเป็นกันเอง ตกแต่งด้วยรายละเอียดทางประวัติศาสตร์อันประณีตและทันสมัย บาร์ที่ให้แสงสว่างไสวจุดศูนย์กลางของห้องสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยมีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับกลุ่มให้บริการ และแขกทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีตลอดทั้งคืน และเพลงจากดีเจในวันพุธ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 21:00 น. เป็นต้นไป
Bar Sathorn เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 14:30 น. ถึง 01:00 น. (เปิดรับออเดอร์ถึงเวลา 00:30 น.) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง thehouseonsathorn@whotels.com หรือโทร 02 344 4025 หรือ thebaratthehouseonsathorn.com