แอลเมนมีนัดกับ Sergio Momo หนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์ (Founder and Creative Manager) เขาคือบุคคลสำคัญที่คอยดูแลควบคุมตั้งแต่คอนเซปต์การสร้างกลิ่นไปจนถึงแพ็กเกจจิ้งของน้ำหอมนิชแบรนด์สัญชาติอิตาเลียน ‘Xerjoff’ ครั้งนี้เป็นการมาเยือนเมืองไทยแบบเอ็กซ์คลูซีฟในโอกาสเปิดตัว ‘Erba Gold Eau de Parfum’ เราจึงไม่พลาดชวนเขาพูดคุยถึงเบื้องหลังการครีเอตความหอมกลิ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ช่วยอธิบายตัวตนของแบรนด์ Xerjoff ให้เราฟังหน่อย
แบรนด์ Xerjoff เกิดจากองค์ประกอบสำคัญสามอย่าง นั่นคือ Nature, Italian Craftsmanship และ Design แบรนด์ของเราเลือกใช้เทคนิคที่แตกต่างโดยอิงธรรมชาติ ศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาวัตถุดิบมาใช้ปรุงน้ำหอม ถัดมาเป็นภูมิปัญญาและงานฝีมือของชาวอิตาเลียน ผลงานทุกชิ้นถูกผลิตขึ้นในอิตาลีซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ สุดท้ายคืองานดีไซน์ เราไม่เชื่อว่าจะสามารถแยกงานดีไซน์ออกจากโปรดักต์ มันต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ Xerjoff มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง
แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่นใหม่ Erba Gold
น้ำหอมของ Xerjoff ประสบความสำเร็จและติดอันดับเป็น best-seller ต่อเนื่องหลายปีนับตั้งแต่เปิดตัว V Collection ความสำเร็จของ Erba Pura คือการนำผลไม้สดนานาชนิดมาผสมผสานกันผ่านเทคนิคทั้งรูปแบบใหม่และรูปแบบเก่า จนกระทั่งเกิดเป็นน้ำหอมตระกูลกลิ่นฟรุตตี้ที่มีความยูนีค แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร สร้างความสำเร็จในตลาดเอเชีย จากนั้นค่อย ๆ ขยับมายังฝั่งอเมริกาและยุโรป สิ่งนี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ และผลักดันให้เราตัดสินใจต่อยอดด้วยกลิ่น Erba Gold ที่หรูหรากว่าเดิมจากองค์ประกอบบางอย่าง เพิ่มความเข้มข้นของซิตรัสมากขึ้นด้วยมะกรูดและส้ม เบลนด์เข้ากับเครื่องเทศอย่างขิงกับคาร์ดามัม ช่วยขับเน้นให้กลิ่นหอมของ Erba Gold มีความลงตัว สมบูรณ์แบบและสง่างาม พูดได้ว่า “Erba Gold is a little bit more!” ในขณะเดียวกันยังรักษาซิกเนเจอร์ของแบรนด์ไว้ไม่เสื่อมคลายด้วยส่วนผสมที่ใช้เป็นประจำอย่างแอมเบอร์ มัสก์ และวานิลลามาดากัสการ์ เพื่อปรับให้คาแรกเตอร์ของกลิ่นมีชีวิตชีวา สดชื่น และเปี่ยมพลัง
ไอเดียที่อยู่เบื้องหลังผลงานการดีไซน์ขวดน้ำหอม Erba Gold
แบรนด์ของเราใช้แนวคิดรีดีไซน์จากคอลเลกชั่นที่ผ่านมา เพราะมองว่าเป็นการเรียกความรู้สึกและความทรงจำเก่า ๆ ให้กลับมามีชีวิตใหม่ โดยเน้นใช้สีสันที่แตกต่างแต่ยังคงความคลาสสิก เพื่อสื่อว่า Xerjoff มีความเป็นอมตะ อีกหนึ่งปัจจัยที่เราให้ความสำคัญมากคือผู้คนเจเนอเรชั่นใหม่ ผมค้นพบว่าลูกค้าของเรามีเกณฑ์อายุต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สร้างความประหลาดใจไม่น้อย ทำให้มีการเลือกใช้เฉดสีใหม่ ๆ มาใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น น้ำหอม Erba Gold จึงมาพร้อมกับขวดสีเหลืองสดใส
เวลาจะสร้างน้ำหอมกลิ่นใหม่ ๆ ขึ้นมา มีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไรบ้าง
Xerjoff ไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์ที่ผลิตน้ำหอม แต่มุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ทุกครั้งที่พวกเราคิดค้นน้ำหอมกลิ่นใหม่นั่นหมายความว่าจะต้องใหม่จริง ไม่ใช่ใหม่แค่ในทางการตลาด แต่เป็นความแปลกใหม่ที่ท้าทายและยากขึ้นทุกครั้ง ก่อนหน้านี้ Xerjoff ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และใช้ประสาทรับความรู้สึกตามหลักเกณฑ์ของการปรุงน้ำหอม ต่อไปเราจะหยิบเอาเซนส์ทางด้านดนตรีหรือศิลปวัฒนธรรมมาผสมผสานเพื่อสร้างการรับรู้ที่แตกต่างและหลุดจากกรอบเดิม ๆ จึงเป็นที่มาของการร่วมงานกับเหล่าศิลปินนักร้อง เชฟ อาร์ทิสต์ สถาปนิก ช่างภาพ และอีกมากมายในอนาคต เพื่อสื่อว่าน้ำหอมไม่ใช่สิ่งที่คุณฉีดทุกวันก่อนออกนอกบ้าน แต่เป็นสิ่งที่คุณใช้ชีวิตอยู่ด้วย แทรกซึมเป็นหนึ่งเดียวกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ก้าวต่อไปของแบรนด์ บอกได้ไหมว่าคอลเลกชั่นใหม่คืออะไร
เป็นเรื่องดีที่เราจะมองไปข้างหน้าและลงมือทำสิ่งแปลกใหม่ให้มากขึ้น แต่สำหรับ Xerjoff เราจำเป็นต้องหันกลับไปสำรวจรากเหง้าของแบรนด์ ชะลอความเร็วลงแต่ไม่หยุดพัฒนา เน้นสร้างการรับรู้โดยหยิบยกคอลเลกชั่นดั้งเดิมจากสิบกว่าปีก่อนมานำเสนออีกครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักประวัติความเป็นมาของ Xerjoff ซึ่งผมมองว่าสิ่งนี้ค่อนข้างสำคัญเพราะจะช่วยให้แบรนด์ขยายความนิยมไปในวงกว้าง ส่วนโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ แอบกระซิบว่าเรากำลังเตรียมร่วมงานกับ ‘Duran Duran’ วงดนตรีร็อกสัญชาติอังกฤษ อยากให้คอยติดตามกัน
ในมุมมองของคุณคิดว่าคนเราควรมีน้ำหอมกี่กลิ่น
มีกี่กลิ่นก็ได้เท่าที่ใจต้องการ! ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว ถ้ามองย้อนกลับไปในรุ่นพ่อ เมื่ออายุเข้าวัยเลขสามมักจะค้นพบน้ำหอมที่เป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของตัวเองและฉีดกลิ่นนั้นเป็นประจำ แต่ปัจจุบันพวกเราอยากลองอะไรใหม่ ๆ เหมือนกับเสื้อผ้าที่ปกติไม่ได้แต่งตัวแบบเดิมทุกวัน เราจึงไม่ควรกำหนดว่าจะใช้กลิ่นไหนตายตัว แต่เลือกปรับใช้ตามมู้ดโดยแมตช์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง ลองนึกถึงช่วงล็อกดาวน์ตอนโควิดดูสิ แทบไม่น่าเชื่อว่ายอดขายของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้คนยังคงจับจ่ายใช้สอยกับผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำหอม แม้ไม่ได้ออกไปไหนแต่การได้ฉีดพรมน้ำหอมไปบนเรือนร่างก็ทำให้พวกเขารู้สึกดี บวกกับคนเจเนอเรชั่นใหม่มีความคุ้นเคยกับน้ำหอม และมองว่า niche perfume ไม่ได้เป็นสินค้าราคาเกินเอื้อมอีกต่อไป ตอกย้ำว่าสมัยนี้เรามีอิสระในการเลือกซื้อและเลือกใช้กันมากขึ้น