Seiko Prospex เสริมทัพด้วยสมรรถนะใหม่ จากการเปิดตัวนาฬิกาดำน้ำแบบจักรกลรุ่นแรกที่มาพร้อมฟังก์ชัน GMT และสำรองพลังงานได้ถึง 3 วัน  

ถือเป็นครั้งแรกนับจากนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของ Seiko ที่เปิดตัวในปี 1965 นั้นได้พัฒนาต่อยอดด้วยเรื่องราวแห่งเทคโนโลยีและสมรรถนะกับความสามารถครั้งใหม่ภายใต้การออกแบบอันทันสมัยใหม่ของนาฬิกาดำน้ำจากซีรีส์ดังอย่าง Seiko Prospex ด้วยเวอร์ชันล่าสุดของนาฬิกาดำน้ำแบบจักรกลพร้อมฟังก์ชัน GMT ใน Seiko Prospex 1968 Diver’s Modern Re-interpretation GMT และ Seiko Watchmaking 110th Anniversary Seiko Prospex Save the Ocean Limited Edition 

นาฬิกาดำน้ำของ Seiko เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงด้านประสิทธิภาพมาอย่างยาวนาน โดยตลอดช่วงเวลากว่าครึ่งศตวรรษของการพัฒนาด้านนวัตกรรม คุณสมบัติ งานออกแบบและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของคอลเล็กชั่นนาฬิกาดำน้ำนี้  Seiko โดยเฉพาะ Seiko Prospex ได้กลายเป็นเครื่องมือและอุปกรณ์สำคัญสำหรับเหล่านักดำน้ำเสมอมา ขณะเดียวกันก็ยังขยายซึ่งขอบเขตการพัฒนาและศักยภาพของนาฬิกาดำน้ำนี้ออกไปอย่างต่อเนื่อง โดย Seiko Prospex ได้รับความนิยมทั้งในหมู่นักดำน้ำมืออาชีพ นักดำน้ำเพื่อสันทนาการ ตลอดจนคนรักนาฬิกาสปอร์ตที่มีความโดดเด่นทั้งด้านคุณสมบัติและสไตล์อันสมบูรณ์แบบเหล่านี้  

หนึ่งในหัวใจของการพัฒนาตลอดทศวรรษที่ผ่านมานั้น Seiko ยังคงมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับพัฒนาคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ความทนทาน ความสะดวกและชัดเจนในการอ่านเวลา รวมถึงความง่ายดายต่อการใช้งานของนาฬิกา Seiko Prospex เสมอ เช่นเดียวกับการพัฒนาด้านกลไก ที่ในคอลเล็กชั่นนี้ยังมีความโดดเด่นด้วยการติดตั้งควบคู่มากับกลไกสมรรถนะสูง อย่างในตระกูล Caliber 6R ซึ่งได้รับความไว้วางใจและเชื่อถือจากผู้สวมใส่และผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกามายาวนาน โดยในทายาทนาฬิกา 3 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังคงติดตั้งไว้ด้วยกลไกประสิทธิภาพสูง และเสริมด้วยฟังก์ชัน GMT ขณะเดียวกันก็ขยายขีดความสามารถของการสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมงอีกด้วย อันเป็นผลลัพธ์มาจากการเปิดตัวกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติใหม่ใน Caliber 6R54 ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในนาฬิการุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น ของคอลเล็กชั่น ซึ่งต่างผ่านการตีความใหม่โดยอ้างอิงจากรูปทรงของนาฬิกาดำน้ำรุ่นคลาสสิกที่เปิดตัวเมื่อปี 1968 

จุดเด่นของนาฬิกาดำน้ำแบบจักรกลครั้งแรกของ Seiko Prospex ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน GMT นี้ ยังต้องยกให้กับเข็ม GMT ซึ่งสามารถแยกการปรับตั้งได้อย่างอิสระ โดยการหมุนครั้งละ 1 ชั่วโมง ที่ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการเดินของเข็มชี้แสดงเวลาขณะปรับตั้ง เข็ม GMT ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถดูเวลาไทม์โซนที่สองได้อย่างสะดวกง่ายดายและชัดเจน แม้มองเพียงพริบตาเดียว จึงเหมาะสำหรับเหล่านักดำน้ำและนักเดินทางที่พวกเขามีเพียงนาฬิกาเรือนเดียวนี้ก็สามารถออกเดินทางดำน้ำไปทั่วโลกได้อย่างมั่นใจ 

คงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 200 เมตร และมาพร้อมเข็มชี้ รวมถึงเครื่องหมายแสดงเวลาทั้ง 12 นาฬิกาบนหน้าปัดที่เคลือบด้วยสารเรืองแสง Lumibrite ส่วนบนขอบตัวเรือนเป็นแบบปรับหมุนได้ทิศทางเดียว โดยเคลือบด้วยสารเรืองแสงบนเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์อันโดดเด่น ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เพื่อใช้ในการคำนวณเวลาการดำน้ำได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย นาฬิกาแต่ละรุ่นยังมาพร้อมกับดีไซน์สายที่ลงตัวเข้ากับบุคลิกของนาฬิกาสปอร์ตสมรรถนะแกร่งเหล่านี้ โดยออกแบบมาด้วยสายโลหะแบบใหม่ที่เป็นสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 แถว แต่มีรูปทรงที่บางลง เพื่อให้คล่องตัว มั่นคง และสะดวกสบายยิ่งขึ้นเมื่อสวมบนข้อมือในชีวิตประจำวัน หรือสวมทับกับชุดดำน้ำ  

Seiko Proxpex GMT ใหม่ทั้ง 3 รุ่น นำเสนอในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 42 มม. และยังมาพร้อมกับตัวเลือกของสีสันที่ต่างกัน ทั้งรุ่นหน้าปัดสีเขียว และสีดำ สไตล์สปอร์ตคลาสสิก ซึ่งเป็นรุ่นหลักของคอลเล็กชั่น Seiko Prospex และรุ่นซึ่งผลิตในจำนวนจำกัดด้วยความโดดเด่นของหน้าปัดสี Ice-blue เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษของการครบรอบ 110 ปี ที่ Seiko ผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของตนเอง และเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่น ไฮไลต์รุ่นเด่นของคอลเล็กชั่น กับหน้าปัดสี Ice-blue นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์พิเศษ Seiko Prospex Save the Ocean เพื่อสร้างการรับรู้ของสังคมให้เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับสภาพท้องทะเลและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และปกป้องพื้นที่ธรรมชาติเหล่านี้ โดยสี Ice-blue ของหน้าปัดได้สร้างสรรค์และออกแบบขึ้นจากแรงบันดาลใจของธารน้ำแข็งขั้วโลกที่ทอดตัวเป็นทิวทัศน์อันสวยงาม ไม่ว่าจะมองจากผืนดินหรือเมื่อเป็นฉากหลังของทะเลอาร์คติกหรือแอนตาร์กติก อันเป็น 2 สถานที่ที่มีบทบาทสำคัญในการทดสอบทั้งขีดความสามารถและความทนทาน ทรหดของนาฬิกา Seiko เมื่อนักสำรวจสวมใส่นาฬิกาของ Seiko ในระหว่างการสำรวจขั้วโลกเหนือและใต้ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 จนได้รับการยอมรับ และทำให้นาฬิกา Seiko มีชื่อเสียงด้านความไว้วางใจเชื่อถือได้และสมรรถนะอันเหนือชั้นจวบจนวันนี้ 

สำหรับนาฬิการุ่นพิเศษและผลิตในจำนวนจำกัดยังส่งมอบมากับสายพิเศษเพิ่มเติมในเซ็ตอีก 1 เส้น โดยเป็นสายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ได้มาจากการนำขวดพลาสติกเข้าสู่การกระบวนการรีไซเคิล ก่อนจะนำมาถักทอจนเป็นสายที่มีลวดลายอ้างอิงจากเทคนิคการผลิตยุคโบราณของญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Seichu (เซชู) 

ผลงานทั้ง 3 รุ่นของ Seiko Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT รหัส SPB381J และ SPB383J และ Seiko Watchmaking 110th Anniversary Seiko Prospex Save the Ocean Limited Edition รหัส SPB385J ที่มีเพียง 4,000 เรือนทั่วโลก จะเริ่มมีวางจำหน่ายภายในเดือนกรกฎาคม 2023 นี้ ที่บูติกของ Seiko เซ็นทรัลพระราม9, เคาท์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านตัวแทนจำหน่ายของ Seiko ทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ ที่ไซโกบูติกออนไลน์ www.seikoboutiquethailand.com

สาวกของ Seiko และ Seiko Prospex สามารถติดตามและเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

Similar Articles

More