สำหรับแฟนละคร ‘ปลาบนฟ้า Fish Upon The Sky’ เราคงไม่ต้องแนะนำว่า ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ เป็นใครมาจากไหน แต่คนที่ไม่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้ขอเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าปอนด์คือนักแสดงนำผู้รับบท ‘หมอก’ คู่กับ ภูวิน-ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน ซึ่งรับบทเป็น ‘ปี’ สองตัวละครที่เปิดมาก็แข่งขันขับเคี่ยวกัน ก่อนความสัมพันธ์จะแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องราวชวนฟินในภายหลัง ตามมาด้วย ‘เพื่อนายเพียงหนึ่งเดียว Never Let Me Go’ ซึ่งสามารถวัดระดับความป็อปได้จากการติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) ทุกครั้งที่ออนแอร์ ทำให้ฐานแฟนคลับค่อย ๆ ขยายวงกว้างทั้งในไทยและต่างประเทศ
ปอนด์นัดเราที่ตึก GMM Grammy จังหวะเดินผ่านโถงล็อบบี้สังเกตว่าทั่วทั้งบริเวณนั้นเต็มไปด้วยป้ายอวยพรเพราะวันเกิดของปอนด์ (1 กุมภาพันธ์) เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน ตอกย้ำว่าหนุ่มหน้าใสคนนี้เป็นที่รักของคนหมู่มากและน่าจับตามองแค่ไหน
เมื่อลิฟต์ทะยานขึ้นมาบนชั้น 36 และประตูเปิดออก เขาปรากฏตัวในชุดเสื้อยืดสีขาวกับยีนส์สีเข้ม เข้ากับบุคลิกที่ดูแคชวลและเรียบง่าย ไม่ติดหล่อ จากถ้อยคำสนทนาของปอนด์ นี่คือเรื่องราวที่จะทำให้เรารู้จักตัวตนของเขามากขึ้น ทั้งบทบาทใหม่ในอนาคต และชีวิตที่ฝ่าคลื่นลมจนกระทั่งเติบโตเป็นมากกว่านักแสดง


ร่วมงานกับภูวินมาหลายโปรเจกต์ อะไรคือสิ่งที่ทำให้ปอนด์ประทับใจในตัวเขา
ผมประทับใจเขาทุกเรื่อง ภูวินเป็นทั้งที่ปรึกษาและพาร์ตเนอร์ ปีนี้ก็เข้าปีที่ 4 แล้วที่ได้ทำงานด้วยกัน เราคุยกันเยอะมาก ไม่เคยทะเลาะกันเลย เวลามีปัญหาจะมานั่งเคลียร์กันตรง ๆ เขาจะคอยซัปพอร์ตและคอยถามว่าผมโอเคมั้ย ภายนอกเขาอาจจะดูนิ่งขรึมแต่ลึก ๆ เป็นคนอ่อนโยน
แล้วตัวตนจริง ๆ ของปอนด์เป็นแบบไหน
ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ รักสนุก ชอบเฮฮาปาร์ตี้ แต่บางจังหวะก็ขี้อาย เวลาเจอแฟนคลับมาหยอดเราก็จะเขิน ทำตัวไม่ถูก (หัวเราะ) แต่วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยก็อยากอยู่กับตัวเอง
จัดตัวเองอยู่ในกลุ่ม Introvert หรือ Extrovert
คิดว่าผสมกันนะครับ แต่ส่วนใหญ่จะออกไปในทาง Introvert มากกว่า ด้วยสายงานของเราก็คงเป็นอินโทรเวิร์ตร้อยเปอร์เซ็นไม่ได้ ต้องเอนเตอร์เทนตลอดเวลา ไม่อยากให้คนภายนอกมองว่าหยิ่งจึงเลือกที่จะไม่ปิดกั้นตัวเอง ถึงแม้จะชอบอยู่กับตัวเอง แต่ผมก็ชอบเต้น ชอบทำกิจกรรมกับคนอื่นด้วย

ในผลงานล่าสุดที่กำลังจะออนแอร์ ‘We Are คือเรามารักกัน’ การเป็นนักศึกษาคณะวิศวะมีส่วนช่วยให้เข้าถึงบทบาทของ ‘ภูมิ’ มากขึ้นไหม
เรื่องนี้ผมใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการพูด หรือการวางตัวก็จะคล้ายคาแรกเตอร์ของเด็กวิศวะ แต่ภูมิเขามีบุคลิกขี้เก๊กนิดหนึ่ง ห่วงหล่อ ค่อนข้างฮอต และมีความเป็นเด็ก
ทราบมาว่าปอนด์เรียนสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ พอได้ลองเป็นนักแสดง รู้สึกชอบทางนี้เลยหรือเปล่า
หลังจากเล่นซีรีส์ก็พบว่าตัวเองสนใจงานทางด้านเอนเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น เมื่อก่อนผมชอบเล่นดนตรี ชอบงานเพอร์ฟอร์มอยู่แล้ว พอได้เข้าวงการก็รู้สึกชอบทางนี้มากกว่า (ยิ้ม)

ปรับตัวยากไหมกับการเป็นนักแสดง มีอะไรบ้างที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
ปรับตัวยากมากครับ ถึงแม้เราเคยเล่นดนตรี เคยเพอร์ฟอร์มบนเวทีมาก่อน แต่ก็ยังรู้สึกเขินและไม่ค่อยกล้าแสดงออก ตอนเข้าวงการช่วงแรก ๆ ผมพูดกับกล้องไม่ได้เลย พูดผิดพูดถูกตลอด ต้องอาศัยการฝึกฝนประมาณหนึ่ง เข้าฉากบ่อย ๆ มันก็ค่อย ๆ ดีขึ้นครับ
นอกจากงานแสดง ล่าสุดเพิ่งเดินทางไปร่วมชมโชว์กับแบรนด์ Tommy Hilfiger ที่นิวยอร์กแฟชั่นวีกมาด้วย
การไปแฟชั่นวีกที่นิวยอร์กทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองหลายอย่าง ทั้งเรื่องการวางตัว การดีลกับสถานการณ์ต่าง ๆ เวลาเจอคนเยอะ ๆ ถ้าเทียบกับสมัยก่อน แค่ออกไปพรีเซนต์งานหน้าห้องผมก็สั่นจนพูดไม่ออก แต่ครั้งนี้เรารับมือดีขึ้น แถมยังได้เจอแฟนคลับจากต่างแดนที่คอยซัปพอร์ตเรา


รับมือกับกระแสความนิยมที่เข้ามาอย่างไร
สารภาพว่าตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเจอแฟนคลับ โดยเฉพาะตอนไปต่างประเทศ ผมประทับใจกับสิ่งที่พวกเขาเตรียมให้ ความรู้สึกเหมือนนักแสดงฮอลลีวูดเวลาที่มีกล้องมารุมถ่ายรูปเยอะ ๆ จำได้ว่าประหม่ามาก พอลงจากรถปุ๊บพวกเขาก็คอยส่งเสียงเชียร์เรา
ปอนด์มองว่าเส้นทางชีวิตของตัวเองเรียบง่ายหรือหวือหวา
ชีวิตของผมเรียบง่าย จริง ๆ ค่อนไปทางลำบากด้วยซ้ำ (ยิ้ม) ช่วงประถมถือว่าสบายนะ แต่พอคุณพ่อเสียแบบกระทันหัน หลังจากนั้นก็ยากไปหมดเพราะพ่อคือคนเดียวที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว จำได้ว่าตอนอยู่มัธยมจะมีปัญหาการเงิน จนกระทั่งได้เข้าวงการถึงเริ่มปลดล็อกเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เริ่มสร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่
ถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลยไหม
ใช่ครับ ชีวิตช่วงมัธยมไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ คุณแม่ก็เครียด ต้องทำงานหาเงินมากขึ้น ผมเองก็อยากแก้ปัญหา อยากช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง

อยากให้คนจดจำว่าปอนด์เป็นนักแสดงแบบไหน
จริง ๆ การแสดงก็ถือเป็นงานท้าทายนะ แต่อยากให้จดจำผมในฐานะเพอร์ฟอร์เมอร์มากกว่า อยากเป็นศิลปินที่สร้างอินสไปเรชั่นให้ผู้คนอย่างแจ็กสัน หวัง, หวังอี้ป๋อ หรือคริส บราวน์ อยากฝึกตัวเองให้ทำงานได้ทุกแขนง
พอรู้ว่าเป้าหมายคืออะไร เราวางสเตปต่อไปของชีวิตไว้ยังไง อยากทำอะไรต่อ
ในอนาคตถ้ามีโอกาสก็อยากฝึกฝนตัวเองให้ทำอะไรได้หลากหลายมากขึ้น ถ้ามีงานแสดงเข้ามาอีกก็ยังรับเล่นเหมือนเดิม แค่อยากต่อยอดเรื่องการทำโชว์เพราะทุกครั้งที่ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ผมจะเอนจอยเป็นพิเศษ ถ้าได้โกอินเตอร์จะยิ่งเติมเต็มความฝัน

Photo: Wasu Sukatocharoenkul
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan