ประเด็นน่าสนใจที่ข่าวเช้าวันนี้นำเสนอคือเพจดัง Ebook Cambodia มีผู้ติดตาม 3 แสนกว่ารายได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบลายโมโนแกรมอันเลื่องชื่อของ Louis Vuitton กับลายผ้าบนรูปปั้นนางอัปสราในปราสาทนครวัด พร้อมข้อความภาษาเมขรที่แปลเป็นไทยได้ว่า ‘แบรนด์ LV บางทีก็หนีไม่พ้นความคิดศิลปะของบรรพบุรุษชาวเขมร ประติมากรรมเก่าแก่หลายพันปี แต่ยังคงมีความศิวิไลซ์และล้ำสมัย บรรพบุรุษชาวเขมรช่างน่าทึ่ง!’
ที่น่าสนใจเพราะ ลายโมโนแกรมที่สร้างสรรค์ขึ้นในยุค Georges Vuitton ลูกชายของเมอซิเออร์ หลุยส์ วิตตอง ผู้ก่อตั้งเมซงหลังนี้ มีอายุเพียง 154 ปี ในขณะที่รูปปั้นนางอัปสรามีอายุเก่าแก่กว่านั้นมาก และเมื่อลองพิจารณาลวดลายบนรูปปั้นแล้วก็ดูคล้ายกันจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีผู้เชื่อว่าลวดลายโมโนแกรมของเมซงวิตตองคงได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะเขมร แต่! อย่างไรก็ตามสิ่งที่เพจ Ebook Cambodia นำเสนอนั้น เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะหลักฐานเชิงประจักษ์ในอาร์ไคฟ์ของเมซงหลังนี้ต่างออกไป และไม่ว่าข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ Louis Vuitton บันทึกไว้นั้นจะตรงใจกับผู้ก่อตั้งเพจหรือไม่ แต่ก็ต้องทำใจว่าข้อมูลเป็นที่ ‘ยอมรับโดยทั่วกัน’ นั้นคือ ลวดลายโมโนแกรมของวิตตองได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะจากแดนอาทิตย์อุทัย
จะว่าไปเรื่องการ ‘เคลม’ และ ‘ลอกเลียนแบบ’ นี่เองที่เป็นตัวกระทุ้งให้ Georges Vuitton จำเป็นต้องสร้างสรรค์ลายโมโนแกรมนี้ขึ้นมา เพราะในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เวลานั้น Louis Vuitton ประสบปัญหาใหญ่สองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือความนิยมในแบรนด์ไม่ได้เป็นกราฟพุ่งขึ้นอย่างในก่อนหน้า แถมกระแสของลายตารางดามิเยร์ (Damier) ที่เคยได้รับความนิยมก็เริ่มแผ่วลง อีกปัญหาคือไม่ใช่ว่ายุคนั้นไม่มีการลอกเลียนแบบและบลัฟเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด เพราะมีเมซงหลังอื่นที่ต้องการมัดใจชนชั้นสูงและลูกค้าเงินหนาเช่นเดียวกัน
ดังนั้นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่รับช่วงต่อจากผู้เป็นพ่อจึงต้องหาวิธีการเรียกความสนใจครั้งใหญ่ และเพื่อเป็นการปลีกตัวออกจากเมซงหลังอื่นๆที่เคลมและลอกเลียนแบบอย่างชัดเจน ในปี 1896 จึงมีการเปิดตัวผืนผ้าใบลวดลายโมโนแกรม ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะแบบตะวันออกสไตล์ญี่ปุ่นที่เริ่มได้รับความนิยมในยุโรป โดยลวดลายโอคอนิกนี้ประกอบด้วยดอกจิกสี่แฉก (Quatrefoil) ลายดอกแบบทึบและโปร่ง โดยไม่ลืมใส่อักษรย่อ LV จากชื่อของคุณพ่อผู้ก่อตั้งเมซงอายุ 169 ปี
ตัดภาพมาในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นการเน้นย้ำและสดุดีแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจครั้งสำคัญ ในปี 2002 ทาง Louis Vuitton ภายใต้การนำทัพโดย Marc Jacobs อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ (ปี 1997 – 2013) ได้เชิญศิลปินดังชาวญี่ปุ่นนาม Takashi Murakami มาแปลงโฉมลวดลายโมโนแกรมให้ดูสดใหม่และสดใสขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ ‘Eye Love Monogram’ ลายโมโนแกรมหลากสีสัน มีการใช้ลายดวงตาที่มุระคะมิสร้างสรรค์มาแทนที่ลายดอกจิก และซีรีย์ Monogram Multicolor ซึ่งขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แถมยังได้รับความนิยมต่อเนื่องหลายปีด้วยกัน
“ไม่ใช่เรื่องใหม่นะ ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินข่าวการเคลมว่าลายโมโนแกรมของวิตตอง มาจากศิลปะเขมร” – ป็อป วรรธกุล นักเขียนแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ร่วมแสดงความเห็น “เขาก็มีสิทธิคิดได้ เพราะลายดูคล้ายกัน แถมลายบนรูปปั้นก็มีอายุเก่าแก่กว่าลายโมโนแกรม แล้วลายดอกไม้ งานศิลปะในตะวันออกก็ได้รับอิทธิพลต่อๆ กัน อาจเป็นไปได้ทั้งเรื่องบังเอิญ และเป็นจริงตามที่สันนิษฐาน แต่ในเมื่อยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด เราก็คงอ้างอิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ตามที่หลุยส์วิตตองบันทึกไว้ “