เชื่อว่าชาวแอลเมนในปัจจุบันนี้คงจะได้รับอิทธิพลการกรูมมิ่งมาจากประเทศเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เพราะ K-Beauty นั้นเป็นอีกหนึ่ง Soft Power อันทรงพลังอย่างมากของประเทศนี้ เพราะนอกจากเซตแสตนดาร์ดความงามให้กับผู้คนทั่วโลกแล้ว K-Beauty ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศผ่านแบรนด์สินค้าความงามชื่อดังต่างๆ
กลุ่มคนที่ถ่ายทอดมุมมองความงามเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครเพราะพวกเขาคือศิลปินและนักแสดงในอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศนี้ แต่วันนี้เราขอโฟกัสที่เหล่าไอดอล K-Pop เพราะว่าพวกเขาเป็นผู้นำร่องให้กับผู้ชายยทั่วโลกในเรื่องการแต่งหน้าและกรูมมิ่ง โดยเฉพาะในไทยที่บรรดาหนุ่มๆ นั้นกล้าที่จะลุกขึ้นมาแต่งหน้าเพราะอิทธิพลจากพวกเขาเลย วันนี้ ELLE MEN Thailand เลยจะพาชาวแอลเมนไปถอดรหัสเมกอัพของพวกเขา เพื่อที่จะนำเอามาใช้กับในกรูมมิ่งของตัวเอง เพิ่มเสน่ห์และความหล่อในทุกลุค!
Step 1: ‘การเตรียมผิว’ หัวใจหลักของการกรูมมิ่ง
หากพูดถึงการกรูมมิ่งหลายคนอาจจะนึกถึงการแต่งหน้าขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ รองพื้น คิ้ว คอนทัวร์ ไปจนถึงการทาลิป แต่จริงๆ แล้วหัวใจหลักของการแต่งหน้านั้นไม่ใช่ขั้นตอนการแต่งหน้าอันวุ่นวาย แต่เป็นการ ‘เตรียมผิว’ หรือบำรุงผิวให้ถึงเพื่อให้ผิวหน้าได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่พร้อมรับการแต่งหน้า
#ELLEMENTips ขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าก็คล้ายๆ กับขั้นตอนการทาสกินแคร์ปกติเลย เริ่มจากโทนเนอร์เพื่อเช็ดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ตามด้วยเซรั่มตามปัญหาผิวแต่ถ้าไม่รู้จะใช้อะไรเราแนะเซรั่มที่เพิ่มความชุ่มชื้นต่างๆ ต่อด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ตามสภาพผิวและปิดด้วยกันแดดเลย แต่ระวังสกินแคร์บางตัวอาจจะทำให้เกิดคราบหรือขุยระหว่างแต่งหน้านะ
Step 2: ผิว ‘ซอฟต์แมตต์’ มอบใบหน้าเฟรชตลอดวัน
หลายคนคงคิดว่าการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีนั้นต้อง ‘Glow’ หรือพูดง่ายๆ ก็คือหน้าดูมันวาวนั่นแหละ แต่ความจริงแล้วในอุตสาหกรรม K-Pop สมัยนี้เหล่าไอดอลและนักแสดงหันมาแต่งหน้าผิวแมตต์กันเกือบหมดแล้ว เพราะว่าในความเป็นจริงแล้วการแต่งหน้าโกลวนั้นอาจจะทำให้ดูโทรมได้ งานผิวแมตต์เลยนิยมมากขึ้นในวงการบันเทิงเกาหลีใต้เพราะช่วยทำให้ดูเฟรชและสดใสอยู่ตลอด
#ELLEMENTips ความแมตต์ของผิวแต่ละคนมีขั้นตอนการแต่งหน้าไม่เหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือเราควรรักษา ‘สมดุล’ ให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณใช้รองพื้นแมตต์อาจจะจับคู่กับไพร์เมอร์หรือเบสที่ให้ความชุ่มชื้น ในขณะเดียวกันหากคุณใช้รองพื้นโกลวก็ลองปรับไพรเมอร์หรือเบสเป็นสูตรคุมมัน และสุดท้ายแป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งก็สามารถช่วยในการเพิ่มความแมตต์ได้นะ ลองดู
Step 3: ลดความเข้มของ ‘คิ้ว’ ให้หน้าดูซอฟต์
ชาวแอลเมนบางคนอาจเคยได้ยินวลี “คิ้วคือมงกุฎของใบหน้า” ผ่านหูกันมาบ้าง ซึ่งความจริงแล้วก็เป็นแบบนั้น เพราะคิ้วเปรียบเสมือนอีกหนึ่งจุดตัดสินว่าเราแต่งหน้าแบบมือโปรแล้วหรือเปล่า แล้วจุดนี้เองที่ทำให้หลายคนตกม้าตายเพราะเขียนคิ้วเข้มกว่าปกติไปจนอาจจะทำให้หน้าดูดุขึ้น แต่จริงๆ แล้วสำหรับผู้ชายแบบเราแค่ ‘เติมเงา’ และ ‘สร้างเชป’ ให้กับคิ้วก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากดูลุคเกาหลีก็ต้องลดความเข้มลง 1 สเตป
#ELLEMENTips ข้อนี้ฟังดูยากมากๆ และโจทย์หินสำหรับผู้หญิงเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วแค่เราเลือกสีอุปกรณ์เขียนคิ้วให้อ่อนลง 1 เฉดก็เพียงพอแล้ว พร้อมมาสคาร่าปัดคิ้วแบบใสหรือสีอ่อนก็ได้ แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ ชาวแอลเมนลองดูที่เขียนคิ้วสี ‘Taupe’ สีน้ำตาลอ่อนติดเทาโทนกลางที่เรามองว่าไปได้กับทุกสีผม ลองใช้สีนี้เพื่อช่วยครีเอตให้คิ้วคุณดูซอฟต์ละมุนดู
Step 4: เพิ่มแสงและเงา ‘โครงหน้า’ ให้ดูธรรมชาติ
นอกจากโครงคิ้วแล้วโครงหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ชายอย่างเราๆ โดยเฉพาะเวลาออกงานต่างๆ หน้าเราต้องชัดเพิ่มเสน่ห์ชวนมองตลอดทั้งงาน ดังนั้น ‘คอนทัวร์’ หรือ ‘เชดดิ้ง’ นั้นคือขั้นตอนที่ไม่ควรข้ามเวลาเราต้องออกกล้องหรือพบเจอผู้คนเยอะๆ แต่หัวใจหลักของขั้นตอนนี้ก็คือเลือกสีโปรดักส์ให้เหมาะกับโทนผิวของตัวเอง และไม่ติดส้มหรือแดงมากเกินไปไม่งั้นคุณจะเหมือนเพิ่งไปอาบแดดริมทะเลมา
#ELLEMENTips มีหลายคนเข้าใจผิดหยิบเอา บรอนเซอร์ มาสร้างโครงหน้าแต่ความจริงแล้วห้ามเลย เพราะว่าจะทำให้หน้าเราส้มหรือแดงเหมือนที่บอกไป ให้เรามองหาผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า ‘Contour’ หรือ ‘Shading’ เพราะว่าโปรดักส์เหล่านี้จะสร้างเงาให้กับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปล.แต่บางครั้งก็บรอนเซอร์ของบางแบรนด์อาจจะสร้างเงาธรรมชาติให้กับคุณก็ได้นะ
Step 5: สร้างสีสันบน ‘ริมฝีปาก’ เพิ่มเลเวลสุขภาพดี
หากคิดจะแต่งหน้าแล้วอย่ากลัวที่จะทา ‘ลิป’ เพราะว่าเวลาเราใส่เมกอัพลงบนใบหน้าของเราแล้วไม่ทาลิป บางทีปากเราอาจจะดูซีดขึ้นได้ จนคนอาจจะทักว่า “ไปทำอะไรมา.. ป่วยหรือเปล่า?” แถมในปัจจุบันก็มีโปรดักส์ลิปมากมายที่ดูเป็นธรรมชาติ มอบริมฝีปากสุขภาพดีให้กับเราตลอดวัน แถมบางครั้งอาจจะช่วยบำรุงปากของเราไปในตัว
#ELLEMENTips พอมาเป็นเรื่องของสีสัน ‘เฉดสี’ เป็นอะไรที่สำคัญมาก ลองเลือกลิปสติกที่ล้อไปกับโทนสีผิวของเรา ใครผิวโทนเหลืองก็ลองดูลิปเฉดสีส้ม สีน้ำตาล หรือสีคอรัล แต่ถ้าคุณผิวโทนชมพูต้องมองหาลิปโทนชมพู โทนแดง นอกจากนั้นเนื้อสัมผัสให้เรื่องตามความชอบของเรา ใครชอบปากไม่ชัดมากก็ลองพวกลิปมันเปลี่ยนสี แต่ใครอยากให้สีชัดและติดทนลองดูพวก Lip Tint ต่างๆ เดี๋ยวนี้มีทั้งเนื้อแมตต์และเนื้อโกลวให้เลือกตามใจชอบเลย
Step 6: คอมพลีตลุคไอดอลเกาหลีด้วย ‘สโมคกี้อาย’
หลายๆ ครั้งที่เหล่าไอดอลขึ้นเสตจพวกเขาต้องเพิ่มมิติบนใบหน้าการแต่งหน้าต้องเข้มขึ้นอีก 1-2 สเตป และมีอยู่ส่วนหนึ่งที่ปกติแล้วผู้ชายอย่างเราๆ จะทำกันนั้นก็คือการทาตา แต่บางครั้งในโอกาสพิเศษเราลองดูก็ไม่เสียหาย โดยเฉพาะการทำ Soft Smoky Eye ที่เหล่าไอดอลเกาหลีชอบทำกัน เริ่มจากอายชาโดว์โทนสีธรรมชาติกับแปรงแต่งตาสัก 2-3 ด้ามก็ช่วยให้ดวงตาของเราดูมีมิติมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
#ELLEMENTips การแต่งตาแบบ Soft Smoky Eye เหมือนกับการสร้างเงาให้ดวงตาของเรา เริ่มจากการลงสีเบสอย่างสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเนื้อลงไปเกือบทั่วเปลือกก่อน แล้วค่อยใช้สีน้ำตาลกลางมาทาให้เกินชั้นพับตาของเราขึ้นไปนิดเดียว (ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ) ก่อนใช้สีเข้มลงบริเวณชิดโคนขนตาทั้งบนล่าง แต่บริเวณตาล่างเราแนะนำให้เบามือและใช้แปรงจิ๋วนะ
Step 7: ใส่ ‘คอนแทคเลนส์’ เสริมเสน่ห์ให้ดวงตา
ขั้นตอนนี้เรามองว่าไม่จำเป็นสำหรับทุกคนใครอยากจะ Skip ก็ข้ามไปได้ แต่ถ้าอยากเล่นใหญ่ไปให้สุดเราก็แนะนำว่าใส่คอนแทคเลนส์เลย เพราะปัจจุบันมีคอนแทคเลนส์ให้เลือกมากมาย แต่ข้อสำคัญคือเลือกให้มีขนาดพอดีหรือเล็กกว่าลูกตาของเรา และเลือกสีสันที่ไม่ได้ฉูดฉาดเกินไป (สำหรับมือใหม่) เพราะถ้าคุณเพิ่มเสตปนี้เข้าไปเรามองว่ามันจะทำให้การกรูมมิ่งน่ามองขึ้นเยอะเลย!