Photographer: Pathomporn Phueakphud
ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นขึ้นทันทีที่ บอส-ชัยกมล เสริมส่งวิทยะ และ โนอึล-ณัฐรัชต์ ตังวาย สองนักแสดงนำจากเรื่อง Boy Love ‘The Boy Next World Series คนละกาลเวลา’ ก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม แม้พวกเขาจะคุ้นเคยกับแสงไฟในกองถ่าย แต่การได้มาพูดคุยกันในฐานะ ‘ศิลปิน’ ครั้งนี้ กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
จากนักแสดงที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านแววตาและบทสนทนา วันนี้พวกเขาได้ก้าวสู่โลกของเสียงเพลง ด้วยความท้าทายครั้งใหม่ในการร้องและแรปเพลงประกอบซีรีส์ Parallel ที่ต้องอาศัยทั้งเทคนิคและอารมณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังงานนี้คือโปรดิวเซอร์มากฝีมือ สงกรานต์ รังสรรค์ ผู้ที่ช่วยขับเคลื่อนพวกเขาสู่มิติใหม่ของการแสดงออกผ่านเสียงดนตรี

ฉันนั่งลงตรงข้ามกับพวกเขา เตรียมพร้อมที่จะเปิดบทสนทนาถึงประสบการณ์ครั้งสำคัญ และสิ่งที่ทำให้ Parallel เป็นมากกว่าแค่เพลงประกอบซีรีส์ผ่านบทสนทนาดังต่อไปนี้
ความรู้สึกแรกของพวกคุณเป็นยังไงบ้างเมื่อรู้ว่าจะได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ Parallel?
Boss: โห รู้สึกตื่นเต้นมากครับ เพราะเราทั้งคู่เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดง แต่พอได้มีโอกาสร้องเพลงประกอบซีรีส์ตัวเอง มันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก แล้วพอรู้ว่าได้ทำงานกับพี่สงกรานต์ หลังสวน ยิ่งรู้สึกกดดันไปอีก เพราะพี่สงเก่งมากครับ อยากทำออกมาให้ดีที่สุด
Noeul: ใช่ครับ ตอนแรกแอบเครียดนะครับ เพราะว่าเพลงนี้ต้องใช้เทคนิคเยอะมาก คีย์ก็ไม่ได้ง่ายเลย แล้วด้วยความที่เราทั้งคู่มีแนวเสียงที่ต่างกัน พี่สงก็เลยต้องออกแบบเพลงให้เหมาะกับพวกเรา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีมากในการพัฒนาตัวเองครับ

ในเพลงนี้มีทั้งการร้องและแรป พวกคุณมีการเตรียมตัวยังไงบ้าง?
B: สำหรับผมเน้นเรื่องอารมณ์ของเพลงครับ พี่สงบอกว่าอยากให้เพลงนี้เป็นมากกว่าการร้องเพลงเฉยๆ มันต้องส่งอารมณ์ไปถึงคนฟังให้ได้ ผมเลยพยายามถ่ายทอดความรู้สึกให้ลึกซึ้งที่สุด
N: ผมเองเป็นคนที่ชอบแรปอยู่แล้วครับ แต่แรปในเพลงนี้ต้องแตกต่างจากที่เคยทำมา พี่สงช่วยแนะนำว่าต้องใส่อารมณ์ยังไงให้เข้ากับเนื้อหาเพลง แล้วก็ได้ลองฝึกเทคนิคใหม่ๆ ในการแรปด้วยครับ

มีช่วงไหนของเพลงที่พวกคุณรู้สึกว่าเป็นส่วนที่ท้าทายที่สุด?
B: ผมว่าส่วนที่ยากที่สุดคือช่วงพีคของเพลงครับ มันต้องใส่อารมณ์หนักมาก แล้วคีย์เพลงก็ไต่ขึ้นไปสูงเรื่อยๆ ผมต้องฝึกเยอะมากเพื่อให้เสียงออกมาสมบูรณ์แบบ
N: ของผมเป็นพาร์ตแรปครับ เพราะต้องแรปให้ลื่นไหลและเชื่อมกับทำนองเพลงให้พอดี แล้วก็ต้องทำให้คนฟังรู้สึกไปกับเนื้อหาของเพลงด้วย ซึ่งเป็นความท้าทายที่สนุกมากครับ

คิดว่าเพลง Parallel ถ่ายทอดความรู้สึกของซีรีส์ออกมาอย่างไรบ้าง?
B: เพลงนี้สะท้อนความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องได้ดีมากครับ มันเป็นความรู้สึกของคนที่เดินทางมาคู่กันแต่เหมือนจะไม่มีวันบรรจบกัน เหมือนเส้นขนานที่อยู่คู่กันตลอดเวลา ซึ่งมันตรงกับเนื้อเรื่องของซีรีส์มากๆ
N: ใช่ครับ มันเป็นความรู้สึกของความรักที่อยู่ในเส้นทางคู่ขนานกัน ถึงแม้จะใกล้กันแค่ไหนแต่ก็มีบางอย่างที่ขวางกั้นอยู่ เพลงนี้เลยมีความลึกซึ้งมาก และหวังว่าคนฟังจะรู้สึกอินไปกับมันครับ
อยากให้แฟนๆ โฟกัสอะไรเป็นพิเศษเวลาฟังเพลงนี้?
B: ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสที่อารมณ์ของเพลงครับ ลองหลับตาฟังแล้วจินตนาการตามดู มันเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ผมอยากให้ทุกคนสัมผัสมันไปพร้อมกับเรา
N: ผมอยากให้แฟนๆ ลองฟังรายละเอียดของเพลงให้ดีครับ มีหลายจุดที่พี่สงออกแบบมาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นทำนอง เนื้อร้อง หรือไดนามิกของเสียง อยากให้ทุกคนอินไปกับเพลงและซีรีส์พร้อมกันครับ


มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ ที่ติดตาม Parallel ไหม?
B: ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม Parallel และเพลง Parallel นะครับ เราตั้งใจทำงานกันเต็มที่จริงๆ หวังว่าทุกคนจะชอบและอินไปกับมันครับ
N: ใช่ครับ ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเรามาตลอด อยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังเพลงนี้และสัมผัสความรู้สึกที่เราถ่ายทอดออกมา หวังว่าทุกคนจะได้รับความสุขและความประทับใจจากมันนะครับ
บอสและโนอึลได้ถ่ายทอดความรู้สึกและความท้าทายของพวกเขาในการร้องเพลง ‘Parallel’ ออกมาอย่างเต็มที่ นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมแล้ว พวกเขายังพยายามพัฒนาทักษะด้านดนตรีของตัวเองด้วย การร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพอย่างพี่สงกรานต์ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้และก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง หวังว่าแฟนๆ จะได้รับทั้งความรู้สึกและแรงบันดาลใจจากเพลงนี้กัน