เปิดฟลอร์ดิสโก้! โชว์ความซ่าในแบบหนุ่ม Fendi รับฤดูกาล Fall/Winter 2023

เพลง I Feel Love ของ Donna Summer ที่ใช้ประกอบช่วงฟินาเล่ในโชว์ล่าสุดของ Fendi ตอกย้ำว่าฤดูกาลนี้ Silvia Venturini Fendi พาพวกเราย้อนกลับไปช่วงปลายยุค ’70s เพื่อสัมผัสบรรยากาศของฟลอร์เต้นรำสำหรับหนุ่มซ่าขาปาร์ตี้ในยุคดิสโก้! แต่เป็นดิสโก้แบบที่เธอไม่ได้ต้องการให้ออกมาดูเหมือนว่ากำลังใส่เสื้อผ้าสไตล์เรโทร เป็นดิสโก้ในแบบร่วมสมัย ดึงซิลลูเอท และโมทีฟที่เป็นภาพจำมาใช้ อาทิ เสื้อไหล่เดี่ยวที่ทำให้นึกถึงชุดลีโอตาร์ดของ ABBA ศิลปินดังแห่งยุคเซเวนตี้ การปักแผ่นโลหะให้ชุดดูระยิบระยับล้อแสงไฟราวกับกำลังสงสารว่าอยากให้ออกไปท่องราตรี ในเวลาที่โลกกลับมาหมุนอีกครั้งหลังวิกฤตโรคระบาดผ่านพ้นไป ที่สำคัญ! ผมคิดว่าการใช้เพลงไอคอนิก I Feel Love นั้นน่าจะเกิดจากความตั้งใจ เพราะเพลงดังที่กลายเป็นตัวแทนของยุคดิสโก้นี้ถูกปล่อยออกมาในปี 1977 ปีเดียวกับที่เฮาส์ Fendi เปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปโดยกูตูริเย่ร์ผู้ล่วงลับ Karl Lagerfeld

อีกเหตุผลที่เธอเลือกดิสโก้มาเป็นธีมหลักสำหรับคอลเล็กชั่นชาย Fall/Winter 2023 เพราะนึกถึงช่วงเวลาที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ทศวรรษที่ 1980 ช่วงเวลาที่กระแสดิสโก้ยังคงมีแม้ไม่เข้มข้นมากนัก แต่กระแสแฟชั่นนี้ทำให้เธอกล้าลุกขึ้นมาสนุก ใส่เสื้อไหล่เดียวแบบลีโอตาร์ดของศิลปินดังใต้เสื้อผ้าชิ้นปกติ และพร้อมจะสลัดชิ้นนอกหลังเลิกงานเพื่อออกท่องราตรีที่ไนท์คลับดังของยุคอย่าง Studio 54 ซึ่งสตูดิโอแห่งนี้คือหนึ่งในสถานที่เปิดโลกทัศน์ให้เธอได้เห็นว่า การทลายเส้นแบ่งเรื่องเพศโดยมีเครื่องแต่งกายภายนอกเป็นตัวกำหนดนั้นเป็นเช่นไร และนำความประทับใจที่ว่ามาถ่ายทอดผ่านคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับบุรุษฤดูกาลล่าสุด โดยตั้งใจใช้นายแบบร่างบาง ใบหน้าสวยไม่ต่างจากผู้หญิง และแต่งตาสโมกกี้อายเพื่อให้ดูรับกับเสื้อผ้าและทำให้ลุคแอนโดรจีนีในภาพร่างแห่งจินตนาการของเธอออกมาสมบูรณ์แบบ

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือใครจะไปคิดว่าแบรนด์ที่ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในหมวด ‘แฟชั่นจ๋า’ อย่าง Fendi จะลุกขึ้นมาสนุกกับเมเจอร์เทรนด์อย่าง trompe l’oeil หรือการรังสรรค์ผลงานด้วยเทคนิกการสร้างภาพลวงตา เพียงแต่ ทรอมพ์-เลย ของ Fendi สนุกพอเป็นพิธีไม่ได้มาเป็นลายพิมพ์รูปเรือนร่างมนุษย์ หรือมีลวดลายฉวัดเฉวียนอย่างหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จด้วยเทคนิกนี้นิยมทำกัน ทรอมพ์-เลย ของ Fendi จึงปรากฏเป็นเพียงแจ็กเก็ตเชียร์ลิ่งทำสีให้ดูคล้ายแสง-เงาหลอกสายตา ไม่หวือหวา ทว่าหรูหราและคลาสสิกเหนือกาลเวลา ถือเป็นอีกชิ้นสนุกในคอลเล็กชั่นที่พอให้แฟนคลับได้กลายเป็นหนุ่มเทรนดี้อยู่บ้าง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าแบรนด์หรูระดับ Fendi ก็อิงกับกระแส และพร้อมปรับตัวให้สอดคล้องกับความเป็นไปในโลกแฟชั่น ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ ทรอมพ์-เลย เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลดใช้เฟอร์แท้ลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเรื่องการ ลด-ละ-เลิก ปณิธานที่สื่อแฟชั่นชั้นนำอย่าง ELLE และ ELLE MEN มีร่วมกับเหล่าพันธมิตรทั่วโลก

Similar Articles

More