Monaco ของ TAG Heuer ความแม่นยำ แข่งกับเวลา และสปิริตอันกล้าหาญ คือคุณสมบัติของเหล่าผู้กล้า ที่ไม่ว่าจะกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใด ก็พร้อมเอาชนะได้เสมอ และวันนี้ ELLE MEN Thailand มีโอกาสได้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับดาราหนุ่มชาวเกาหลีใต้ อย่าง Wi Ha Jun ที่เขาได้เดินทางไปร่วมงาน F1 Monaco Grand Prix ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนาฬิกา TAG Heuer พร้อมเจาะลึกถึงช่วงเวลาและประสบการณ์สำคัญที่ Wi Ha Jun
ELLE MEN Thailand: เพราะคุณได้เดินทางมาร่วมงาน F1 Monaco Grand Prix ถ้าหากเราพูดถึงคำว่า ‘Speed’ แล้ว มันมีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ
Wi Ha Jun: สำหรับผม Speed คือการมีชีวิต และการได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าครับ
EMT: เรื่องราวที่คุณประทับใจหรือเป็นประสบการณ์ที่ชวนให้จดจำมากที่สุด เมื่อพูดถึงความเร็ว
WHJ: น่าจะเป็นตอนที่มีการจัดการแข่งขัน F1 ครั้งที่ 2 ในเกาหลีใต้ และสถานที่จัดงานอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ครั้งนั้นผมได้มีโอกาสขับรถแข่งในงานนั้นโดยตรง และผมรู้สึกประทับใจมากที่ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การขับบนสนามแข่งขันจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาฝนตก มันน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นครับ
EMT: ใครคือฮีโร่ของคุณเมื่อพูดถึงการแข่งขันความเร็ว หรือใครที่เป็นไอคอนของการทดสอบและแข่งขันกับเวลา
WHJ: ไอคอนของผมคือคุณพ่อครับ ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ผมสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคทั้งหมดในชีวิตไปได้ ดังนั้น เขาจึงเป็นแรงผลักดันของผมจริงๆ
EMT: เล่าให้เราฟังหน่อยถึงความรู้สึกของคุณที่ได้ร่วมในงานแข่งขันความเร็วครั้งนี้ที่โมนาโก
WHJ: ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ตื่นเต้นมากๆ และผมรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่คุณสามารถมีโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ผมจึงมีความสุขมาก
EMT: นาฬิการุ่นไหนที่คุณได้เลือกสวมใส่ในระหว่างร่วมงานครั้งนี้ และทำไมถึงเป็นเรือนนั้น
WHJ: เป็นนาฬิกาสเกเลตันรุ่นใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชั่น Monaco ของ TAG Heuer ครับ ผมชอบมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดีไซน์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของนาฬิกาคอลเลกชั่นนี้
EMT: และถ้าคุณมีโอกาสได้ออกแบบนาฬิกาของคุณเอง คุณคิดว่านาฬิกาในฝันของคุณนี้จะมีหน้าตาหรือมีคุณสมบัติพิเศษอะไร
WHJ: ผมคิดว่าคงเป็นดีไซน์แบบเดียวกันกับนาฬิกา TAG Heuer Monaco (ที่เขาใส่อยู่) นี่แหละครับ
เกิดมาพร้อมความเร็ว
นาฬิกา Monaco ของ TAG Heuer ได้ต้อนรับสมาชิกรุ่นใหม่ในเวอร์ชั่นสเกเลตันเป็นครั้งแรก ทั้งยังบรรจบกับโอกาสของการเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี ของการแข่งขัน F1 Monaco Grand Prix การเฉลิมฉลองต้อนรับฤดูกาลแข่งขันรายการระดับตำนาน อย่าง Monaco Grand Prix 2023 ที่ TAG Heuer ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือจากคอลเลกชั่น Monaco อันโด่งดังในฐานะนาฬิกาข้อมือตัวแทนของการแข่งขันความเร็ว รวมถึงบทบาทด้านความเที่ยงตรงแม่นยำบนข้อมือของเหล่านักแข่งระดับโลกมาแล้ว โดยสมาชิกใหม่ของนาฬิกา Monaco ในปีนี้ ยังมาพร้อมกับความโดดเด่นของฟังก์ชั่น ความแม่นยำ และสไตล์ของนาฬิกาหน้าปัดเปลือยโปร่งหรือสเกเลตันเป็นครั้งแรกสำหรับคอลเลกชั่น โดยภายในผลงานใหม่ทั้ง 3 รุ่นของ Monaco Chronograph Skeleton นับเป็นการผสมผสานตำนานของนาฬิกาแห่งการแข่งขันความเร็วเข้ากับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สไตล์สปอร์ตทันสมัยที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างกลมกลืน
เปิดตัวครั้งแรกในปี 1969
นับตั้งแต่นาฬิกา Monaco เปิดตัวก็ได้รับการยอมรับและกลายเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เป็นที่จดจำได้มากที่สุด จากทั้งดีไซน์ตัวเรือนทรงเหลี่ยม ตลอดจนนวัตกรรมกลไกการจับเวลาที่ติดตั้งอยู่ภายใน ที่ทำให้ Monaco เป็นหนึ่งในตัวแทนของนาฬิกาสปอร์ตที่สง่างามของแบรนด์อันเป็นที่หลงใหลของเหล่าผู้คนที่ชื่นชอบความเร็วและการแข่งขันรถแข่ง เช่นเดียวกับคนรักนาฬิกาทั่วโลก ขณะที่นาฬิกา Monaco ยังได้รับการพัฒนาต่อยอดด้านประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านความเที่ยงตรงแม่นยำมาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการปรับปรุงด้านรูปลักษณ์ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ เหมือนในนาฬิกาสเกเลตัน 3 รุ่นใหม่นี้ที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองกว่า 50 ปีของตำนาน Heuer Monaco ของ TAG Heuer กับการรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวเรือนทรงเหลี่ยมและผสานความโดดเด่นของหน้าปัด รวมถึงกลไกแบบสเกเลตัน โดยนำเสนอภายใน 3 สีสันที่ต่างก็เป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันความเร็ว ทั้ง Original Blue, Racing Red และ Turquoise แต่ละเวอร์ชั่นยังเผยให้เห็นการทำงานของกลไก Heuer-02 ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลไกจักรกลพร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาที่มีพลังงานสำรองสูงสุดของอุตสาหกรรมนาฬิกา ณ ปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น ชิ้นส่วนกลไกภายในยังผ่านการตกแต่งอย่างประณีต โดยเฉพาะโรเตอร์ขึ้นลาน และทั้งหมดสามารถมองเห็นได้ผ่านทั้งด้านหน้าปัดแบบสเกเลตัน และฝาหลังตัวเรือนซึ่งประกอบไว้ด้วยกระจกแซปไฟร์
Never give up
ตามธรรมเนียมแล้ว ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง Friends of the Brand รวมถึงนักแข่งที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน F1 จะได้รับของขวัญชิ้นพิเศษจาก TAG Heuer ไปครอบครองด้วยเสมอ ซึ่งปีนี้ แบรนด์ได้มอบนาฬิกา Monaco รุ่นใหม่ให้กับ 2 นักแข่งคนสำคัญจากทีม Oracle Red Bull Racing ที่เป็น Friends of the Brand อย่าง Max Verstappen ที่เขาได้รับเป็นรุ่น Monaco Chronograph Skeleton เวอร์ชั่นสีน้ำเงิน รวมถึงสัญลักษณ์หมายเลข 1 ที่เป็นตำแหน่งในการแข่งขันของ Verstappen ในเฉดสีแดงเด่นไปครอง ขณะที่ฝาหลังของตัวเรือนยังแกะสลักด้วยคำว่า ‘One of One’ บ่งบอกถึงความพิเศษของนาฬิกาและนักแข่งอันดับหนึ่งของ F1 รวมถึงดาว 2 ดวงที่เป็นสัญลักษณ์ของการคว้าแชมป์ได้ถึง 2 ครั้งของ Max Verstappen ขณะที่ Sergio Pérez เองก็ได้รับนาฬิกา Monaco Chronograph Skeleton เวอร์ชั่นสีเทอร์ควอยซ์ พร้อมอักษรย่อ ‘SP’ และภาพเงาของสนามแข่ง Monaco สลักไว้บนฝาหลัง นอกจากนี้ บนฝาหลังยังสลักวันที่ ’29.05.22’ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะครั้งก่อนของ Pérez ในสนามแข่งขัน Monaco Grand Prix รวมถึงคติประจำใจของเขาที่ว่า ‘Never give up’ ซึ่งร่วมสะท้อนถึงปรัชญาเดียวกันกับ TAG Heuer และความท้าทายบนสนามแข่งขันระดับตำนานอย่าง F1 Manaco Grand Prix ที่ปีนี้ได้ก้าวเข้าสู่การจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 80 แล้วอีกด้วย