ในงาน ปรากฏการณ์ oneสนั่นจอ 2025 LINEUP ที่จัดขึ้นเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนึ่งในโปรเจ็กต์ซึ่งน่าจับตามองมากที่สุดโปรเจ็กต์หนึ่งก็คือ 9 Years of You ซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าที่ บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ กำกับ โดยได้สองนักแสดงนำอย่าง เฌอปราง อารีย์กุล และพระเอกใหม่ของช่อง one31 อย่าง เอม-สรรเพชญ์ คุณากร มาถ่ายทอดเรื่องราวของคำว่า ‘เพื่อนรัก’ ที่จะเปลี่ยนเป็น ‘รักเพื่อน’
ถ้าไม่นับมิวสิกวิดีโอเพลง ไม่เหมือนตอนมีเธอ เพลงล่าสุดจาก แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น ที่เอมรับบทเป็นคู่รักของ ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นผลงานแสดงเต็มตัวเรื่องแรกของเขา ถึงแม้ว่าบทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้จะมีความใกล้เคียงกับตัวจริงของเอมในแง่ที่ชอบดูแลเอาใจใส่คนรอบตัว เป็นคนมั่นใจที่คิดมากในระดับหนึ่ง แต่ความใหม่ในการเป็นนักแสดงก็ทำให้เขาเจอกับสถานการณ์ที่ท้าทายและคาดไม่ถึงอยู่เสมอ
“งานแสดงเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยชิน เราเตรียมตัวไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเหนื่อย ซึ่งก็เหนื่อยจริง (หัวเราะ) เตรียมตัวไปขนาดไหนก็ไม่เหมือนกับเวลาไปเจอของจริง แต่ส่วนตัวผมชอบมากนะ มันเหนื่อยแต่สนุก เหนื่อยแต่ไปต่อได้ แล้วเวลาที่ได้ไปถ่ายละครหรือว่าเวิร์กช็อป ผมรู้สึกเหมือนได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองเพิ่มขึ้นทุกครั้งเลย ได้บทเรียนกลับมาตลอด” เอมพูดถึงประสบการณ์ในการทำงานที่เขากำลังพยายามทำความคุ้นเคยอยู่ในทุกๆ วัน
ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งสำหรับพระเอกใหม่คนนี้น่าจะเป็นโจทย์ที่ต้องบาลานซ์ระหว่างการใช้สมองกับการใช้อารมณ์ เพราะด้วยพื้นฐานที่เป็นคนคิดมาก ทำให้เขามองตัวเองว่า “ผมอาจจะใช้สมองเยอะไปหน่อย คิดว่าเราต้องทำหน้าแบบนี้ แสดงออกแบบนี้ หรือกังวลเรื่องบท แต่พี่เฌอจะช่วยเตือนและส่งอารมณ์ให้ตลอด ส่วนพี่บอยก็จะเตือนว่าเราต้องอยู่กับตัวละครนะ ในกองมีคนคอยช่วยผมเยอะมากครับ
การทำงานกับเฌอปรางก็สนุกมาก ผมรู้จักเขาอยู่ก่อนแล้วจาก BNK พอมาเจอกันกลายเป็นว่าเราเข้าใจกันดีเพราะเรียนสายวิทย์มาทั้งคู่ เขาจบเคมีมา ส่วนผมจบชีววิทยา เลยคุยกันได้ลงตัวมาก ถือว่าเป็นคนที่มีระบบการคิดคล้ายผมมาก เราเลยค่อนข้างเข้าใจว่าจังหวะนี้แต่ละคนคิดอะไรอยู่ ทำให้เป็นประสบการณ์การทำงานที่ดี”
นอกจากงานแสดงแล้ว อีกหนึ่งบทบาทใหม่ของเอมที่เพิ่งผ่านตาไปไม่นานก็คือการเป็นนายแบบบนรันเวย์ให้กับแบรนด์ HOOK’S ในงาน ELLE Fashion Week 2024 ที่เอมพูดถึงงานนี้ว่า เป็นความกดดันที่ดี “เพราะเป็นครั้งแรกของการเดินแบบ ผมเลยกังวลกับงานนี้ แต่ผมก็มองว่า การเป็นนายแบบก็เหมือนการเล่นเป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง ทั้งชุด ทรงผม และสไตล์การแต่งหน้าก็เปลี่ยนไป เป็นอีกอารมณ์ที่ต้องถ่ายทอดให้กับผู้ชม มันมีความกดดันเล็กน้อย แต่ผมว่าเป็นความกดดันที่ดีนะ เพราะแปลว่าเราแคร์ เราใส่ใจว่าผลงานจะออกมาดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายผมก็พยายามไม่คิดมาก เตรียมตัวให้ดี แล้วก็ออกไปทำงานให้ดีที่สุด”
การจัดการเวลาเป็นอีกเรื่องที่เอมอยู่ในระหว่างเรียนรู้ที่จะทำให้ดีขึ้น ถึงจะยอมรับว่างานในวงการบันเทิงส่งผลให้มีเวลาให้กับตัวเองน้อยลง แต่ความเป็นอินโทรเวิร์ตของเขายังทำให้เขายังต้องการเวลาที่อยู่คนเดียวจริงๆ ในแต่ละวัน ส่วนเรื่องการดูแลตัวเองที่เดิมทีเขาใช้เวลาในการออกกำลังกายค่อนข้างมาก แต่เมื่อตารางเวลาแน่นขึ้น ก็ต้องปรับเปลี่ยนน้ำหนักในการดูแลตัวเองมาเป็นเรื่องของการคุมอาหาร โดยมีหลักว่าจะบาลานซ์ระหว่างอาหารคลีน 80% และอาหารที่ชอบ 20% เพื่อให้ทำได้อย่างต่อเนื่อง เห็นผล และไม่สุดโต่งจนเกินไป
ความเป็นนักแสดงหน้าใหม่ในโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนจับตามองเขา แต่มากไปกว่านั้นคือการเป็นนักแสดงที่เป็นลูกชายของ ดู๋-สัญญา คุณากร นักแสดง-พิธีกรเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย เราจึงอยากรู้ว่า เมื่อเลือกทำงานในวงการเดียวกันแล้ว มีอะไรที่เขาได้เรียนรู้จากพ่อบ้าง
“ผมว่าตอนนี้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม กลับมาจากทำงานเราก็แชร์กันว่า วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง เจออะไรมาบ้าง คุณพ่อมีคำแนะนำ มีประสบการณ์มหาศาลที่จะบอกผมได้ เขาเข้าใจทุกอย่าง อย่างปัญหาที่ผมมีตอนถ่ายทำหรือความเหนื่อย หรือการจัดการเวลาเรื่องส่วนตัวที่พอถ่ายละครแล้วไม่มีเวลาไปเจอเพื่อนๆ คุณพ่อก็รู้และเข้าใจได้ทันที การทำงานในวงการนี้ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง”
ดูเหมือนว่าแม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เป็นก้าวแรกของงานแสดง แต่ความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้นทั้งระหว่างพ่อ-ลูก และการได้รู้จักตัวเองนี้ก็ทำให้การเป็นนักแสดง ตลอดจนงานอื่นๆ ในวงการบันเทิงน่าจะให้อะไรกับพระเอกใหม่คนนี้ได้มากกว่าชื่อเสียงและตัวเงิน