Ducati (ดูคาติ ประเทศไทย) เขย่าตลาดบิ๊กไบค์ด้วยตระกูล 800cc เอาใจเหล่าไบค์เกอร์ที่ชอบความดุดันและความแรง ด้วยการเปิดตัว 3 รุ่นใหม่ Scrambler Ducati Icon, Scrambler Ducati Nightshift และ Scrambler Ducati Full Throttle การผสมผสานเอกลักษณ์อันโดดเด่นเข้ากับการออกแบบ รวมถึงส่วนประกอบที่ทันสมัยเร้าใจมากยิ่งขึ้น

เจนเนอเรชั่นใหม่ดีไซน์แตกต่าง
Ducati Scrambler ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่ทำให้ตระกูลนี้ประสบความสำเร็จไปทั่วโลกด้วยการชนะใจแฟนๆ กว่า 100,000 คน เนื่องจากเป็นรถจักรยานยนต์ที่ สนุกสนาน ขี่ง่าย พร้อมบุคลิกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สไตล์โมเดิร์นที่สะดุดตา มีไดนามิกและความสนุกสนาน ขับขี่ได้ง่าย และปลอดภัยสำหรับการใช้งานทุกวัน
New Scrambler ใหม่ทั้ง 3 รุ่น ถือเป็น The Next Generation of Scrambler Ducati อย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความต้องการและความชื่นชอบของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด โดยเฉพาะลูกค้าที่ชอบการแต่งรถตามความชอบของตัวเอง ซึ่งจากการปรับโฉมใหม่เพื่อเพิ่มความสนุกและตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งน้ำหนักเบาลง 4 กิโลกรัม หน้าจอ TFT 4.3 นิ้ว ที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ ดูทันสมัย และมีขนาดใหญ่ขึ้น ไฟหน้า-ท้าย แบบ Full LED คงเอกลักษณ์และเสน่ห์ของ Scrambler ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนขุมพลังที่สร้างความเร้าใจในการขับขี่ตลอดเส้นทาง เป็นเครื่องยนต์ Desmodromic valve 2 สูบ L-Twin ขนาด 803cc ให้กำลัง 73 แรงม้าที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิด 65.2 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ มาพร้อมโหมดการขับขี่ 2 โหมด คือ โหมดสปอร์ต และ โหมดโรด

New Scrambler Ducati Icon นับเป็นบิ๊กไบค์ที่ได้รับความนิยม และรอคอยมากที่สุด โดยออกแบบมาอย่างเหนือชั้น สามารถควบคุมได้ง่าย ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายทั้งในเมืองและการเดินทางไกล เอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัวคือสีสัน กับสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1962 สำหรับการพัฒนาของ New Scrambler Ducati icon รุ่นใหม่ล่าสุด นอกจากจะมีการปรับใช้แฮนเดิลบาร์แบบเรียบ เปลี่ยนดีไซน์ฝาครอบเครื่องแบบใหม่ โช๊คหลังแบบเดี่ยว และสวิงอาร์มแบบใหม่ ยังมีการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิมถึง 4 กิโลกรัม คือหนักเพียงที่ 170 กิโลกรัม (ไม่รวมของเหลว) และรองรับการติดตั้ง Quick Shifter (ชุดแต่งเพิ่มเติม) อีกด้วย
แม้จะมีการเติมเต็มและพัฒนาดีไซน์ใหม่ให้ก้าวล้ำสุดๆ แต่ราคาก็ไม่ได้เพิ่มมาก โดยมีราคาเพียง 399,000 บาท มีให้เลือกถึง 3 สีมาตรฐาน ได้แก่ 62 Yellow สีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Scrambler, Thrilling Black สีดำดูมีเสน่ห์ดุดัน และ Ducati Red สีแดงสดใสแสดงถึงความสนุกในการขับขี่ โดยไบค์เกอร์สามารถเลือกชุดแต่งเปลี่ยนสีให้กับ Scrambler Ducati Icon เป็นสีตามต้องการได้มากถึง 6 สี ได้แก่ Storm Green, Rio Celeste, Tangerine Orange, Jade Green, Sparking Blue และ Velvet Red

อีกรุ่นที่เปิดตัวใหม่ล่าสุด New Scrambler Ducati Nightshift มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงสไตล์ของ Café Racer ไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งความเท่ ความดุดัน และความหรูหรา โดยเฉพาะสีสันของตัวรถ ที่ดีไซน์ให้มีความหรูหรา กับสี เนบิวล่า บลู ที่มาพร้อมเบาะสีน้ำตาลสุดคลาสสิค บังโคลนหน้าแบบสปอร์ตพร้อมล้อซี่ลวด ไฟเลี้ยวท้ายแบบสปอร์ต New Scrambler Ducati Nightshift ยังคงเอกลักษณ์กับกระจกที่ปลายแฮนด์ที่เหล่าไบค์เกอร์ชื่นชอบ Café Racer ไฟเลี้ยวแต่งติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับตัวรถ สำหรับราคาถือว่าคุ้มค่าเพียง 459,000 บาท
และอีกหนึ่งความเร้าใจของตลาดบิ๊กไบค์ขนาด 800cc กับ New Scrambler Ducati Full Throttle ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสไตล์ Flat Track กับสี Rosso GP’19 และ Dark Stealth พร้อมกับลวดลายกราฟฟิกสุดเท่ที่ Number Plate สีแดง 62 เพื่อเป็นการระลึกถึงปี 1962 ซึ่งเป็นปีกำเนิดของ Ducati Scrambler ทั้งนี้ Scrambler Ducati Full Throttle ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีการตกแต่งมาอย่างสมราคา กับปลายท่อ Termignoni ไฟเลี้ยวท้ายแบบสปอร์ต Quick Shifter ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานคู่ตัวรถ เบาะนั่งลายใหม่ ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ต แต่งครบมาเต็มขนาดนี้มาในค่าตัวเพียง 464,000 บาท เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัว Scrambler Ducati รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น ดูตาติ ประเทศไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยลูกค้าที่จองและรับรถภายในปีนี้ รับทันที Gift Voucher มูลค่า 35,000 บาท ทุกคัน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistant ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี และ การรับประกันตัวรถนาน 3 ปี
