โบกมือลาวงการไปแล้วเรียบร้อยสำหรับสุดยอดนักออกแบบแฟชั่น Dries Van Noten ที่ขอเกษียณตัวเองจากเส้นทางอาชีพของเขา หลังจากสร้างสรรค์ผลงานประดับวงการแฟชั่นไว้นานกว่า 4 ทศวรรษ ซึ่งนักออกแบบชื่อดังชาวเบลเยี่ยมคนนี้เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ใช้ชื่อเดียวกันกับเขา จนกลายเป็นแบรนด์ขวัญใจคนแฟชั่นสายโรแมนติกและผู้ที่ชื่นชอบไอเทมที่เต็มไปด้วยสุนทรียศาสตร์แห่งงานดีไซน์
Dries เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Antwerp Six แก๊งนักออกแบบจาก Royal Academy of Fine Arts โรงเรียนสอนศิลปะ ณ กรุงแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งนักออกแบบกลุ่มนี้เปรียบเสมือนผู้กรุยทางให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่มากมาย นอกจาก Dries แล้วยังมีสมาชิกที่เป็นนักออกแบบชื่อดังมากมาย อาทิ Ann Demeulemeester หรือ Walter Van Beirendonck ร่วมอยู่ด้วย
จิตวิญญาณนักออกแบบแฟชั่นที่ถูกถ่ายทอดผ่านสายเลือด
หากย้อนกลับไปดูที่ครอบครัวของเขาก็พบว่าตระกูล Van Noten นั้นล้วนมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอมาโดยตลอด เพราะทั้งพ่อและปู่ของเขานั้นก็เป็น Dress Maker หรือช่างทำเสื้อ โดยในปี 1970 พ่อของเขาได้เปิดบูติกในชานเมืองแอนต์เวิร์ป โดยจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์หรูมากมาย อาทิ Emmanuel Ungaro, Salvatore Ferragamo และ Ermenegildo Zegna
ด้วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยี่ห้อเมนส์แวร์ในตำนานทำให้ Dries นั้นได้ไปชมโชว์เสื้อผ้าบุรุษทั้งในกรุงมิลาน, ดุสเซลดอร์ฟ และปารีส ทำให้เขาได้เปิดโลกและสัมผัสกับประสบการณ์ด้านการค้าและเทคนิคการออกแบบต่างๆ ของอุตสาหกรรมนี้ และสิ่งที่เขาได้ประสบพบเจอเหล่านี้เองคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาได้ผันตัวเองมาเป็นสุดยอดดีไซเนอร์อีกคนของยุคนี้
จุดเริ่มต้นที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของ Dries Van Noten
หากคอแฟชั่นติดตามเรื่องราวของนักออกแบบแฟชั่นในอุตสาหกรรมก็พอจะรู้ดีว่า Antwerp Six ทรงพลังมากแค่ไหนในแวดวงแฟชั่น โดยเฉพาะผลงานการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และยากที่จะหาใครเหมือนของพวกเขา โดย Dries นั่นถือเป็นหนึ่งในนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จที่สุดในแก๊งนี้
จุดเริ่มต้นที่เขาได้รับความสนใจระดับนานาชาติก็คือในปี 1986 ที่เขาและเพื่อนๆ ร่วมชั้น ได้เช่ารถบรรทุกไปเปิดร้านระหว่าง London Fashion Week ในปี 1986 หลังจากได้ทำงานเป็นนักออกแบบเชิงพาณิชย์ให้กับแบรนด์ต่างๆ มามากมาย ซึ่งนี่เองเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของแบรนด์และนักออกแบบที่มีนามว่า ‘Dries Van Noten’
ความสำเร็จระลอกแรกของ Dries Van Noten
หลังจากเดบิวต์ในปี 1986 เขาใช้ระยะเวลานานกว่า 2 ทศวรรษก่อนที่จะเปิดบูติก Womenswear แรก ณ กรุงปารีส ในปี 2007 ซึ่งเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ทำให้แบรนด์หรูสุดโรแมนติกนี้ได้ขยายสุนทรีศาสตร์ความงามไปทั่วโลก เพราะ Dries Van Noten ได้เปิดสาขาถัดไปในกรุงโตเกียวในอีกสองปีต่อมา หลังจากขยายไปสู่เสื้อผ้าบุรุษผ่านร้านอื่นๆ ในปารีส
อีกทั้ง Dries Van Noten ยังมีร้านค้าอีก 6 แห่ง รวมไปถึงในห้างสรรพสินค้าเก่าในเมืองแอนต์เวิร์ป และที่สำคัญคือคอลเล็กชั่นของเขามีจำหน่ายในร้านค้าขายปลีกมากกว่า 500 แห่งทั่วโลก การขยายตัวของขนาดของธุรกิจของ Dries Van Noten นั้นเรียกว่าเข้าขั้นน่าประทับใจมากๆ โดยเฉพาะเมื่อนักออกแบบคนนี้ไม่ได้ลงเงินไปกับการโฆษณาเลย
เมื่อ Dries Van Noten ฉายแสง! ความสำเร็จระลอกสองก็มาเยือน
สิ่งที่การันตีความสำเร็จขั้นสูงสุดของเขาในฐานะ ‘แฟชั่นดีไซเนอร์’ ก็คงหนีไม่พ้นการที่ CFDA ได้มอบรางวัล International Designer of the Year Award ปี 2008 และในปี 2014 ก็ตอกย้ำความสำเร็จอีกขั้นด้วยการจัดนิทรรศการครั้งแรกของเขาในชื่อว่า ‘Inspirations’ ที่ Musée des Arts Décoratifs ณ กรุงปารีส ซึ่งภายในนิทรรศการนี้เต็มไปด้วยผลงานการออกแบบตลอดชีวิตการทำงานของเขา อีกทั้งยังเผยถึงแรงบันดาลใจและอิทธิพลต่างๆ ที่มีต่อนักออกแบบท่านนี้
ในเดือนมิถุนายนปี 2018 เขาได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ของแบรนด์ Dries Van Noten ให้กับเครือ Puig จากสเปน แต่นักออกแบบคนนี้ยังคงเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ และประธานของแบรนด์เช่นเคย โดย Puig มีแบรนด์ดังๆ อยู่ในเครือมากมาย อาทิ Rabanne, Carolina Herrera, Charlotte Tilbury, Jean Paul Gaultier, Nina Ricci, Byredo และ Carolina Herrera
เรียกได้ว่า Dries นั้นประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดในชีวิตที่นักออกแบบคนนึงจะสามารถทำได้ และ ELLE MEN ก็เสียใจอย่างมากที่เราจะไม่ได้เห็นผลงานของนักออกแบบท่านนี้อีกต่อไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Dries ก็ได้หาผู้สืบทอดมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ Dries Van Noten เป็นที่เรียบร้อย เรามาลุ้นกันดีกว่านักออกแบบคนไหนจะมาสืบสานตำนานความงามกลิ่นอายโรแมนติกอันสวยงามนี้ต่อจากนักออกแบบที่มีชื่อว่า Dries Van Noten