Words & Photo: Kant Jominta
ตัดสินใจถูกที่เลือกมาเที่ยว ‘โคเปนเฮเกน’ ประเทศเดนมาร์ก เป็นอีกหนึ่งทริปที่เราว่าเดินเพลิน ถ่ายรูปสนุก เพราะเมืองสวยมาก ยอมรับว่างานสถาปัตยกรรมที่ดีส่งผลต่อวิถีชีวิตผู้คน โคเปนเฮเกนจึงเป็นเมืองสุด Vibes ซึ่งต้องยอมรับว่า ‘มันดีต่อใจ’ จริงๆ ปีนี้โคเปนเฮเกนจึงได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็นเมืองหลวงแห่งสถาปัตยกรรมโลก ซึ่งเป็นรางวัลที่สมมงมากๆ
อย่างแรกเลย โคเปนเฮเกนเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์การเดินทางของสถาปัตยกรรมมายาวนานหลายศตวรรษ งานมีรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่โกธิคไปจนถึงความร่วมสมัย แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเมืองในการปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในขณะที่ยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้



เราปั่นจักรยานไปเที่ยว ‘Nyhavn’ ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมที่เราเคยเห็นมาจากในโปสต์การ์ดเมื่อหลายปีก่อน Nyhavn เคยเป็นท่าเรือการค้าริมน้ำที่มีอายุหลายร้อยปี จากนั้นได้พัฒนามาเป็นลานจอดรถในช่วงที่คนเดนนิชนิยมใช้รถยนต์ก่อนจะเจอกับวิกฤติน้ำมันแพงจนต้องหันมาปั่นจักรยานแทน
ตึกสีสันสดใสที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ คือสัญลักษณ์ที่บอกว่าเรามาถึงโคเปนเฮเกนแล้วนะ นอกจากคลองตรงกลางแล้ว รอบๆ ก็มีร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงต่างๆ ตั้งอยู่ทั่วไป ย่าน Nyhavn มีการตกแต่งและการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มความสวยงามและสะดวกสบายในการใช้ชีวิต



เรื่องนี้ต้องยกให้เมืองนี้เลยนะ โคเปนเฮเกนมีอาคารประวัติศาสตร์หลายแห่งที่แปลงร่างเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต บ้างเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อาคารหลายแห่งน่าสนใจและถ่ายรูปสวยมาก เราจึงได้เห็นคนเดนมาร์ก และนักท่องเที่ยวมาเดินเล่น ปั่นจักรยาน พักผ่อนกันในสวนและนั่งเล่นริมน้ำ หรือจะข้ามไปนั่งชิลที่ร้านกาแฟตอนสายๆ ก็ได้


เท่าที่สังเกตพบว่า โดยหลักงานออกแบบของเดนมาร์กมักจะเน้นผู้คนเป็นศูนย์กลาง เห็นได้จากการวางผังเมือง การออกแบบทางเท้าคนเดิน มีเลนจักรยานและถนนหลักที่อยู่คู่ขนานกันไป กว่าสัปดาห์ของการมาอยู่ที่โคเปนเฮเกน เราได้เห็นผู้คนจำนวนมากสัญจรโดยใช้จักรยานเป็นหลัก วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ได้รับการออกแบบให้สะดวกต่อการปั่นจักรยาน การเดินเท้า ใช้รถสาธารณะ ชาวโคเปนเฮเกนเกินกว่าครึ่งปั่นจักรยานไปทำงาน ไปโรงเรียน
บ่ายๆ เราได้เห็นพ่อแม่ปั่นจักรยานแบบที่มีล้อเข็นด้านหน้า หรือว่าพ่วงที่นั่งด้านหลังไปรับลูกกลับจากโรงเรียน ที่นี่จะเรียกจักรยานแบบนี้ว่าคาร์โก้ มี 2 ยี่ห้อที่คนนิยมใช้คือ ‘Nihola’ และ ‘Christiania Bike’ ใช้ขนของแทนรถยนต์ได้เลย เป็นอีกมิติของการปั่นจักรยานที่มากกว่าแค่เรื่องสุขภาพ



ประมาณ 4 โมงเย็น พนักงานออฟฟิศแถวนี้เลิกงานไว แต่ยังไม่กลับบ้าน ปั่นจักรยานไปนั่งชิลกันตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Black Diamond ห้องสมุดประจำเมืองที่มีวิวสวยมาก Superkilen Park พื้นที่สร้างสรรค์แห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม นั่งหรือก็ทิ้งตัวนอนกันดื้อๆ บนพื้นไม้ริมแม่น้ำ
การขับเคลื่อนเรื่องจักรยานในโคเปนเฮเกน จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ย้อนกลับไปในปี 1973 เดนมาร์กเจอวิกฤติน้ำมันแพงจากการประท้วงของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ผู้คนเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ จากนั้นในปี 1980 เดนมาร์กรวมกระทรวงที่ดูแลเรื่องถนนและสวนสาธารณะเข้าไว้ด้วยกัน ตั้ง DCF: Danish Cycling Federation เป็นองค์กรอิสระ ทำหน้าที่ส่งเสริมการใช้จักรยานของผู้คนโดยตรง สภาออกกฎหมายที่เชื่อมโยงกับนโยบายสถาปัตยกรรม เพื่อให้การออกแบบที่ดีทำหน้าที่ของตัวเองในการรับใช้สาธารณะ



เรามองว่าโครงสร้างพื้นฐานคือสิ่งสำคัญนะ การออกแบบเมืองต้องเอื้อต่อการใช้งานเหมือนที่โคเปนเฮเกนทำอยู่ จักรยานมีเลนเป็นของตัวเองแยกออกไปจากถนนและทางเท้า การเชื่อมต่อเลนเข้ากับสะพานลัดเลาะไปเรื่อย ทำให้การปั่นจักรยานช่วยย่นระยะเวลาได้ดีมาก
โคเปนเฮเกนจึงเป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตร การใช้ชีวิตกลางแจ้งและพื้นที่สาธารณะที่มีชีวิตชีวา การมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมในเมืองที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้คน ย่อมสอดคล้องกับเป้าหมายของยูเนสโกในการส่งเสริมความสามัคคีทางสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเมือง
โคเปนเฮเกนยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน ตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งสู่ภาวะคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี 2025 ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัด คือ ‘CopenHill’ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเนินเขา แต่เกิดจากการออกแบบให้โรงเผาขยะซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากเมืองโคเปนเฮเกนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ลานสกีและจุดชมวิวตั้งอยู่ริมทะเล บรรยากาศดีมาก



เอาจริงนะ เราว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการจะเปลี่ยนขยะ 440,000 ตันให้เป็นพลังงานสำหรับบ้านหลายแสนหลัง โดยที่กระบวนการผลิตและระบบบำบัดน้ำเสียจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น ‘เตาเผาขยะที่สะอาดที่สุดในโลก’ สถาปนิกดีไซน์หลังคาของอาคารให้มีความลาดเอียงลงไป ลานกว้างปูด้วยวัสดุพื้นสีเขียวคล้ายหญ้า จัดสวนใหม่ให้เหมือนสไลเดอร์สนามหญ้า ช่วยดูดซับความร้อน ขจัดอนุภาคในอากาศที่เป็นอันตราย ลดการไหลบ่าของน้ำฝนได้ และเมื่อหิมะตกลงมาจะกลายเป็นลานสกี
งานออกแบบภายนอกเหมือนเอาอิฐขนาดใหญ่ไปวางซ้อนกันราวกับภูเขาหิน ด้านหนึ่งทำเป็นหน้าผาจำลองสำหรับนักปีนเขา มีลู่วิ่ง สนามขับรถโกคาร์ตและลานสเก็ตอยู่ด้านล่าง ส่วนชั้นบนสุดมีบาร์และคาเฟ่คอยให้บริการ สามารถขึ้นไปชมวิวโคเปนเฮเกนจากมุมสูงได้
CopenHill ออกแบบโดย BIG บริษัทของ Bjarke Ingels สถาปนิกชื่อดังระดับโลก ซึ่งได้สร้างแรงกระเพื่อมที่สำคัญต่องานสถาปัตยกรรมมาแล้วมากมาย สถาปนิกชาวเดนมาร์กมักจะเน้นการนำเสนองานออกแบบที่โดดเด่น สวยงามทว่าเรียบง่าย แฝงไว้ด้วยประโยชน์ใช้สอย และความใส่ใจในรายละเอียด สะท้อนถึงคุณค่าของการออกแบบ




นอกจากนี้รัฐบาลยังส่งเสริมการศึกษา และวิจัยทางสถาปัตยกรรมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่เมืองนี้มีโรงเรียน มหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ด้านสถาปัตยกรรม และสถาบันการวิจัยด้านการออกแบบตั้งอยู่หลายแห่ง เช่น Royal Danish Academy of Fine Arts, Schools of Architecture, Design and Conservation (KADK) และ Danish Architecture Center สถาบันเหล่านี้มีส่วนร่วมในการอภิปรายทางสถาปัตยกรรมระดับโลกและส่งเสริมนวัตกรรมในสาขานี้
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมโคเปนเฮเกนถึงได้เป็นเมืองหลวงแห่งสถาปัตยกรรมโลก เอาเป็นว่าใครที่ชอบงานดีไซน์ อาคารบ้านเรือนสวยๆ รุ่มรวยความคิดสร้างสรรค์ มีร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ให้ถ่ายรูปมันมาก ได้สัมผัสความชิลและคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยมของผู้คน เราแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่!
