ครบรอบ 75 ปี! ย้อนรอยความเป็นมา ‘Serpenti’ เครื่องประดับรูปอสรพิษสุดไอคอนิกของ Bulgari

นับตั้งแต่ปี 1948 มาจนถึงปี 2023 นี้ ดีไซน์สุดไอคอนิกของแบรนด์เครื่องประดับแห่งโรมัน ‘Bulgari’ อย่าง Serpenti (เซอร์เพนติ) ได้มีอายุครบรอบ 75 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบสุดสำคัญในครั้งนี้ Bulgari ได้เผยโฉม ‘Bulgari Serpenti 75 Years Anniversary Pop-Up’ ที่ตั้งขึ้นในช่วงระยะเวลาจำกัด ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ช้อปปิ้งเซนเตอร์สุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 75 ปีของเซอร์เพนติ อีกทั้งยังเปิดตัวแคมเปญ ‘Bulgari Serpenti 75 Years of Infinite Tales’ อีกด้วย 

โดยงาน Bulgari Serpenti 75 Years Anniversary Pop-Up นี้จะมีตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม จนถึง 25 เมษายน 2023 บริเวณช้ัน M ด้านหน้าของ Bulgari Emporium Boutique (บุลการี เอ็มโพเรียม บูติก) ภายใต้การตกแต่งและนำเสนอด้วยคอนเซปต์แห่งการเฉลิมฉลองให้กับไอคอนสูงสุดของแบรนด์อย่างเซอร์เพนติ โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านนั้นทาง Bulgari มามีงานเปิดตัวป๊อปอัพสโตร์อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังที่มาร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ด้วย 

นำทีมโดย ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, ซี-พฤกษ์ พานิช, ท็อปแท๊ป-จิรกิตติ์ คูอาริยะกุล, ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล, แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย และวงบอยแบนด์ DVI รวมถึงเหล่าศิลปินจาก 4NOLOGUE ที่มาร่วมอวดโฉมพร้อมเหล่าเครื่องประดับและเครื่องหนังที่มีดีไซน์อสรพิษสุดรุ่มรวยในไลน์เซอร์เพนติ 

เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 75 ปี ของเซอร์เพนติโมติฟสุดไอคอนิกเหนือกาลเวลาของแบรนด์เครื่องประดับโรมันแบรนด์นี้ ELLE MEN Thailand จะพาทุกคนไปย้อนรอยประวัติของดีไซน์งูอันเลื่องชื่อนี้ ว่ามีต้นกำเนิดและความเป็นมาอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปเยี่ยมชม Bulgari Serpenti 75 Years Anniversary Pop-Up ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม

เปิดประวัติ Serpenti ดีไซน์ไอคอนิกที่อยู่เหนือกาลเวลา

ตำนานของ ‘Serpenti’ (เซอร์เพนติ) เริ่มต้นขึ้นมาอย่างยาวนาน ก่อนที่สัตว์แห่งตำนานเล่าขานนี้จะก้าวเข้าสู่อาณาจักรอันทรงเกียรติของเครื่องประดับอัญมณี โดยหยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาติที่ ‘งู’ นั้นได้จับจินตนาการนับจากโลกตะวันออกมาสู่โลกตะวันตก และผ่านระยะเวลากว่าพันปีนับจากตำนานปรัมปราแห่งยุคกรีกและโรมัน ที่เชื่อกันว่างูสามารถกุมพลังแห่งการเปลี่ยนรูปและการฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ได้จากความสามารถในการลอกคราบ 

พลังอันเป็นสากลนี้อยู่ใต้การเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องและเป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์โดยภาพของอสรพิษ กับสัญลักษณ์ของงูที่กัดหางของตนเองเพื่อสร้างรูปเป็นวงกลมที่ไม่มีสิ้นสุด ไร้ซึ่งจุดเริ่มต้นหรือจุดจบ 

ด้วยธรรมชาติแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและจิตวิญญาณอันเป็นนิจนิรันดร์ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับไอคอนงูของ Bulgari นับตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการก่อตั้งในปี ค.ศ. 1948 เมื่อผลงานสร้างสรรค์เซอร์เพนติชิ้นแรกๆ ได้เปิดตัวในฐานะเครื่องประดับอัญมณีและนาฬิกา ที่สามารถโอบรอบข้อมือได้ ขณะที่ ณ เวลานั้นเซอร์เพนติยังมีความโดดเด่นของสไตล์จากลำตัวที่เชื่อมต่อด้วยข้อที่รังสรรค์ขึ้นโดยอาศัยเทคนิค ‘ทูโบกาส (Tubogas)’ อันอัจฉริยะ 

เทคนิคอันซับซ้อนจับคู่เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านช่างทอง ทำให้มอบความโค้งอ่อนให้กับไอคอนงูนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ จากแถบข้อที่มีลักษณะคล้ายกับท่อซึ่งทำจากโลหะล้ำค่าอันยืดหยุ่นและได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกแห่งอุตสาหกรรม ที่ทำให้ลำตัวของงูมีความโค้งโดยไม่จำเป็นต้องหลอมรวมเข้าด้วยกัน นับเป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของ Bulgari ทั้งยังเหมาะสมอย่างเป็นธรรมชาติกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่นำทางสู่อนาคตของเซอร์เพนติ 

การเดินทางอันไร้กรอบของ Serpenti

ในยุค 50s งูของ Bulgari ได้เริ่มต้นวิวัฒนาการการเปลี่ยนรูปสู่สไตล์แห่งรูปทรงและรูปลักษณ์ที่มีมิติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหัวของงูอันล้ำค่าที่ประดับตกแต่งดวงตาไว้ด้วยทับทิม มรกต หรือเพชร นับเป็นวิวัฒนาการที่สั่งสมและพัฒนาเรื่อยมาตลอด และเมื่อเข้าสู่ยุค 60s รูปลักษณ์หน้าตาของงูได้กลายเป็นดั่งผืนผ้าใบให้กับการทดลองสร้างสรรค์ และตกแต่งด้วยลวดลายเกล็ดอันเย้ายวนใจที่ได้มาจากการผสมผสานของการประดับอัญมณีล้ำค่าและงานอีนาเมล (Enamels) หรืองานลงยาสี โดย ณ ช่วงเวลาของการประดิษฐ์คิดค้นนี้เอง เมซงได้สร้างสรรค์นาฬิกาประดับอัญมณี เซอร์เพนติ ซีเครต (Serpenti Secret) เรือนแรกๆ ขึ้นด้วยหน้าปัดที่ซ่อนอยู่ใต้หัวงู 

การผสมผสานสีสันอันโดดเด่นและการใช้วัสดุที่แตกต่างไปจากขนบทั่วไป ได้ถูกกล่าวถึงในช่วงระยะเวลาหลายปี และได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสไตล์ระดับตำนานของ  ขณะที่งานลงยาและการประดับอัญมณีด้วยมืออย่างเชี่ยวชาญ รวมถึงการตกแต่งลวดลายเกล็ดบนข้อแบบยืดหยุ่นได้ถูกคิดค้นและเชื่อมต่อเข้ากับแกนโค้งด้านใน ทั้งหมดนี้พิสูจน์ถึงวิวัฒนาการของเซอร์เพนติ ที่ถักร้อยอย่างลุ่มลึกเข้ากับงานหัตถศิลป์อันมีเอกลักษณ์ของ Bulgari ในฐานะช่างเครื่องประดับอัญมณีผู้เชี่ยวชาญ  

วิวัฒนาการมาจากรูปทรงอันเป็นที่จดจำหนึ่งสู่รูปทรงอื่นๆ งูยังได้นำเสนอการแปลความหมายอันน่าทึ่งของลวดลายเกล็ดทรงหกเหลี่ยม รวมถึงระดับอันหลากหลายของความล้ำค่าและการผสมผสานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของอัญมณีอันงดงามวิจิตร ภายใต้งานออกแบบสะกดสายตาที่ผสมผสานเข้ากับงานฝีมือสร้างสรรค์

ความร่วมสมัยในแบบฉบับของ Serpenti 

นับจากชิ้นงานมรดกสู่ความสวยงามปราดเปรียวและร่วมสมัยสูงสุด Bulgari ได้สร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีสไตล์อันทันสมัยของ ‘Serpenti Viper’ (เซอร์เพนติ ไวเปอร์) ที่เราต่างรู้จักกันดีในวันนี้ ในฐานะไอคอนที่ยังคงสืบทอดไว้ด้วยคุณค่าแห่งสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนรูปได้อย่างเย้ายวนใจ และพร้อมเสมอที่จะเผยซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ หรือการเปลี่ยนไปสู่รูปทรงใหม่ราวกับร่ายมนตร์สะกด 

‘Lucia Silvestri’ (ลูเซีย ซิลเวสตรี) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณีของ Bulgari กล่าวว่า “การแปลความหมายใหม่ให้กับสัญลักษณ์แห่ง เซอร์เพนติ ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเอกลักษณ์อันเป็นแก่นแท้ของตำนานนี้นับเป็นความท้าทายอันเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ นับเป็นสมดุลยภาพอันสมบูรณ์แบบระหว่างมรดกและวิวัฒนาการแห่งพลังสร้างสรรค์ที่สร้างให้ไอคอนนี้ดำรงอยู่เหนือกาลเวลา และยังคงเดินหน้าก้าวต่อไปตามยุคสมัยและกาลเวลา”

เพื่อสัมผัสเรื่องราวและตำนานไม่มีสิ้นสุดของเซอร์เพนติ Bulgari ขอเชิญคุณให้ร่วมดื่มด่ำประสบการณ์แห่งการผสมผสานผลงานสร้างสรรค์อันเป็นไอคอนิกสูงสุด ด้วยงานออกแบบอันล้ำเลิศ และสไตล์แห่งอิตาเลียนอันแสนเปี่ยมเสน่ห์ได้ที่ Bulgari Serpenti 75 Years Anniversary Pop-Up ณ ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม นับจากวันที่ 29 มีนาคม ถึง 25 เมษายน นี้

Photo Courtesy of Bulgari

Similar Articles

More