5 เรือนเวลา 5 สไตล์ มาพร้อมเสน่ห์เฉพาะตัวพร้อมขึ้นแท่นเป็นเรือนเวลาโปรดชิ้นใหม่ของคุณ

ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอย่างช่วง ปีใหม่ เป็นโอกาสอันดีที่หลายๆ คนจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งแต่ กิจวัตรประจำวัน สไตล์ ไปจนถึงนาฬิกาเรือนโปรดส่วนตัวของคุณ วันนี้ ELLE MEN Thailand เลยคัด 5 เรือนเวลา 5 สไตล์ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกัน มาเป็นทางเลือกให้ชาวแอลเมนคนไหนที่กำลังมาหาเรือนเวลาเรือนใหม่ใส่อยู่ มีตั้งแต่ ดีไซน์สปอร์ตสุดหรู ไปจนถึงวัสดุที่ผลิตขึ้นด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ จะมีเรือนไหนตรงสเป็กคุณบ้าง ไปดูกันได้เลย!

#1 Unique Spirit

Hubolt Big Bang Unico Novak Djokovic

Hublot ถ่ายทอดจิตวิญญาณอันเข้มแข็งผ่านการสร้างสรรค์เรือนเวลา Big Bang Unico Novak Djokovic ความร่วมมือครั้งใหม่กับ Novak Djokovic หนึ่งในนักเทนนิสฝีมือเยี่ยมที่สุดในโลก ได้แรงบันดาลใจมาจากความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะของยอโควิช พร้อมถ่ายทอดผ่านสไตล์อันเข้มแข็งหนักแน่น ผสานเข้ากับความเบา รวมถึงความทนทานและยั่งยืนที่ได้มาจากนวัตกรรมวัสดุที่ Hublot เองเชี่ยวชาญ 

ในนาฬิกาข้อมือเรือนนี้หลอมรวมไว้ด้วยบุคลิกอันชัดเจนของ Novak กับสไตล์อันกล้าหาญของคอลเล็กชั่น Big Bang ผสมผสานไว้ด้วยนวัตกรรมวัสดุใหม่ที่ต่างก็มีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว รังสรรค์ตัวเรือนนาฬิกาทำมาจากโลหะผสมหรือคอมโพสิต ประกอบด้วยวัสดุจากไม้แร็กเก็ต HEAD 25 อัน พร้อมทั้งเสื้อเชิ้ต Lacoste สีน้ำเงินเข้ม 17 ตัว และสีน้ำเงินอ่อนอีก 15 ตัว ซึ่งเคยสวมโดยยอคอวิชในระหว่างฤดูกาลแข่งขันปี 2023 ปีที่ทั่วโลกได้ร่วมเป็นสักขีพยานให้กับการทุบสถิติครั้งใหม่ของเขา

#2 The First in Space 

OMEGA Speedmaster

นาฬิกาที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์การเยือนอวกาศและยังสืบทอดเรื่องราวแห่งตำนานมาจนถึงปัจจุบัน ต้องยกให้ OMEGA Speedmaster หนึ่งในเครื่องบอกเวลาแห่งห้วงอวกาศอันโด่งดัง โดยเฉพาะในฐานะนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ได้ร่วมบันทึกตำนานไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ อย่าง นาฬิกาข้อมือรุ่น Speedmaster CK 2998 ซึ่งเป็นนาฬิกาส่วนตัวของ Walter Schirra นักบินอวกาศแห่ง NASA ที่เขาได้สวมใส่ในระหว่างภารกิจ Sigma 7 เมื่vวันที่ 3 ตุลาคม ปี 1962

จาก Speedmaster CK 2998 ที่ได้ออกเดินทางสู่การสำรวจอวกาศครั้งแรก เป็นที่มาของสมญานามว่า ‘The First OMEGA in Space’ นั้นก็ได้สร้างชื่อเสียงให้ทั้ง OMEGA และ Speedmaster กลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานนาฬิกาแห่งการสำรวจอวกาศไปโดยปริยาย

#3 Every Second Counts

Franck Muller Long Island Evolution

Franck Muller เปิดตัวนวัตกรรมการสร้างสรรค์ตัวเรือนรูปแบบใหม่ของ Long Island คอลเล็กชั่นอันโด่งดังที่เผยโฉมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000 ด้วยเอกลักษณ์ของรูปทรงตัวเรือนสี่เหลี่ยมโค้งกลมมน หูตัวเรือนแบบสั้น และตัวเลขบอกเวลาดีไซน์โค้งไปตามโครงร่างของนาฬิกา ซึ่งถ่ายทอดอย่างชัดเจนถึงอิทธิพลของอาร์ตเดโค่

นั่นนับเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จที่ทำให้ชื่อของ Long Island กลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมเรือนเวลาเรื่อยมา โดยในวันนี้ ยังได้มาบรรจบกับวิวัฒนาการก้าวใหม่ของงานออกแบบตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมที่เน้นเส้นสายและความคมชัดมากขึ้น พร้อมทั้งความสลับซับซ้อนของกลไกจักรกลแสดงเวลาในผลงานนาฬิกาข้อมือ 3 รุ่น 3 ฟังก์ชันอันน่าทึ่งของ Long Island Evolution 

#4 Full Force

Audemars Piguet Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสร้างสรรค์และบุกเบิกด้านนวัตกรรม Audemars Piguet ย่อมไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง กับการเปิดตัวเทคโนโลยีการหลอมขึ้นรูปสีแบบใหม่ล่าสุดของโลกเรือนเวลา และยังนับเป็นครั้งแรกของการใช้คาร์บอนหลอมสี หรือ Colored Forged Carbon ที่มีความพิเศษด้านสุนทรียะความสวยงามเฉพาะตัวจากวัสดุคาร์บอนสีดำ แต่แต่งแต้มไปด้วยลูกเล่นแห่งลวดลายและสัมผัสของสีสันไว้ได้อย่างกลมกลืน 

เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น Audemars Piguet ได้พาเราไปรู้จักกับนวัตกรรมวัสดุใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกของแบรนด์ และยังมาพร้อมรูปโฉมอันโดดเด่นของนาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date กับตัวเรือนใหม่ซึ่งเลือกใช้เป็นวัสดุคาร์บอนหลอมสีใหม่หมดจดเป็นครั้งแรก

โดยอาศัยเทคโนโลยีการหลอมขึ้นรูปสีที่แบรนด์ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นภายในห้องปฏิบัติการของตนเอง กับผลลัพธ์อันทรงเสน่ห์ไม่เหมือนใครของตัวเรือนนาฬิกาสีดำลุ่มลึกจากคาร์บอนหลอมสี ที่มีกิมมิกของลวดลายสีน้ำเงินเรืองแสงซึ่งถูกหลอมเป็นเนื้อเดียวกันกับวัสดุได้อย่างกลมกลืน โดยวัสดุที่ได้นั้นยังไร้รูพรุนจึงมีคุณสมบัติที่เด่นกว่า ทั้งความทนทานสูงต่อความชื้น ความร้อน และแรงกระแทกได้อย่างไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย 

#5 Dive in New Shades

Longines Legend Diver

คอลเล็กชั่นนาฬิกาข้อมือ Legend Diver จาก Longines ยังคงสืบทอดไว้ด้วยสไตล์และงานออกแบบของนาฬิกาดำน้ำแบบไอคอนิก กับเอกลักษณ์เด่นๆ ของการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ใต้น้ำลึก เช่นกันกับความแข็งแกร่งสมบุกสมบันของตัวเรือนดีไซน์สปอร์ตเหมาะจะเป็นไลฟ์สไตล์วอทช์ได้ในเรือนเดียว รวมถึงยังครบครันด้วยประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งในแง่ความเที่ยงตรงแม่นยำและการกันน้ำ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ได้สร้างชื่อเสียงและมอบสถานะแห่งการเป็นนาฬิกาดำน้ำระดับตำนานสมดั่งชื่อให้กับผลงานใหม่ล่าสุดของปีนี้เช่นกัน

Legend Diver เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นระดับตำนานของ Longines สืบทอดความโดดเด่นในฐานะนาฬิกาข้อมือดำน้ำประสิทธิภาพสูงมาอย่างยาวนานถึง 65 ปี นาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ของคอลเล็กชั่นได้พัฒนางานออกแบบ มาพร้อมตัวเรือนขนาด 39 มม. ทำจากสเตนเลสสตีล พร้อมด้วยนวัตกรรม Super-Compressor กันน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

มาพร้อมกับหน้าปัดที่มีให้เลือกมากขึ้น ทั้งหน้าปัดสีน้ำเงินหรือสีดำจากปีที่ผ่านมา สมทบด้วยหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ สีเขียว และสี Terracotta เด่นสะดุดตาด้วยกระจกคริสตัลแซปไฟร์ทรงโดมเคลือบกันแสงสะท้อน และบรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova บนชุดเข็มชี้ ตัวเลข และมาร์กเกอร์บอกเวลาต่างๆ

Words: Wanphen Nilpiam & Poohchiss Kuanpiputkul
Photo: Courtesy of the Brand

Similar Articles

More