ใครว่า ‘ชายหนุ่ม’ กับ ‘เรือนเวลาสีฟ้า’ อย่าง Big Bang Unico Sky Blue จาก Hublot ไม่เข้ากัน ขอเถียงสุดใจเมื่อซัมเมอร์นี้ Hublot แบรนด์เรือนเวลาสัญชาติสวิส ได้ลบความคิดนี้เมื่อเผย Big Bang Unico Sky Blue 42 mm. แล้วยิ่งเมื่อ เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ Friend of Hublot เลือกแมตช์ลุคเท่ปนสดใสอย่างลงต้วด้วยแล้ว คุณต้องมามาทำความรู้จักเรือนเวลาสีฟ้านี้กับ 3 ความพิเศษที่ควรเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่นักสะสมนาฬิกาควรค่าแก่ครอบครอง (ที่มีเพียงจำนวนจำกัดด้วย)


ข้อแรก ‘ตัวเรือนสีฟ้า’ ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่ไม่มีใครเหมือน
ความพิเศษแรกที่เห็นคือโทนสีซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่เป็นสีท้องฟ้าอันสว่างไสวของ Big Bang Unico Sky Blue ที่ผลิตจากเซรามิก วัสดุอันเป็นความเชี่ยวชาญของ Hublot มาตั้งแต่ปี 2019 ที่ได้จดสิทธิบัตรเป็นครั้งแรกของโลกในแทบทุกแพนโทนสีรวมทั้งสีฟ้าของ Big Bang Unico Sky Blue ด้วย

ข้อสอง จุดเด่นของวัสดุเซรามิก Hublot
นอกจากความโดดเด่นของโทนสีฟ้าแล้ว ด้วยวัสดุซิกเนอรืของแบรนด์ยังเป็นเซรามิก ที่ตกแต่งด้วยงานขัดเงาและขัดด้านแบบซาติน พัฒนาขึ้นโดยใช้กระบวนการผลิตเฉพาะหนึ่งเดียวของแบรนด์ ในการนำเสนอซึ่งเฉดสีพิเศษและมอบซึ่งความสะดวกสบายด้วยคุณสมบัติที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้ ทั้งยังสามารถปรับไปตามอุณหภูมิของผิว รวมถึงมีน้ำหนักเบาและทนทานสูงต่อการเกิดอ็อกซิเดชันและการเกิดรอยขีดข่วน ผลงานนี้จึงนับเป็นสหายอันสมบูรณ์แบบสำหรับทุกกิจกรรมในฤดูร้อนของคุณ Big Bang Unico รุ่น Summer ใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับสาย Velcro และตัวล็อกสายแบบสปอร์ต เช่นเดียวกับสายเวอร์ชันปกติที่ทำจากยางธรรมชาติเดินลายเส้นซึ่งเป็นไอคอนิกของแบรนด์ที่มาพร้อมหัวเข็มขัดปรับได้ทำจากไทเทเนียม


ข้อสุดท้าย การตกแต่งที่นำไปสู่อิสระเหนือกาลเวลา
ด้วยหน้าปัดที่คล้ายกับท้องฟ้าอันสดใสไร้ก้อนเมฆ เผยให้เห็นคอลัมน์วีลของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ คาลิเบอร์ HUB1280 พลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตัวเอง ขณะที่กลไก Unico นี้ทำหน้าที่ติดตามการเดินทางของเวลา Big Bang Unico Sky Blue ก็ชวนให้สัมผัสถึงความสว่างไสวและไร้กาลเวลา เข็มชี้และเครื่องหมายบอกเวลาเรืองแสงสีขาว ส่วนสกรูไอคอนิกทั้งหกตัวของแบรนด์โดดเด่นอยู่บนสีฟ้าของขอบตัวเรือนทำจากเซรามิก




ความพิเศษนำมาสู่เหตุผลของความน่าครอบครองมุมเล็กๆ ของท้องฟ้าสีฟ้าสดใสนั้นเป็นเรื่องสากล ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือนเท่านั้น