‘Who is Motley Flower’ ศิลปินอินดี้ ผู้รักการทำเพลงเป็นชีวิตจิตใจ

#ELLEMENMusic ส่งท้ายเดือนสิงหาคมกับ ‘Motley Flower’ หรือ นิค-สุปรีดา โสตะวงศ์ ศิลปินอินดี้ ที่ล่าสุดนี้เราได้แวะไปเซย์ไฮเขาแบบถึงที่ ความเป็นเฟรนลี่ผ่านรอยยิ้มในครั้งแรกพบกับหนุ่มคนนี้ ทำให้คิดถึงท่วงทำนองเพลง FUNKY DOG (เพลงแรกที่ขึ้นมาหากเสิร์ชชื่อเขาในยูทูบ) แนวเพลงอิเล็คทรอนิก–ป็อบชวนโยกหัว ซึ่งสามารถอธิบายความเป็นตัวเขาได้อย่างเข้าใจ และยิ่งจับเข่าคุยเพื่อทำความรู้จักแล้ว ก็รู้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้ใช้ดนตรีในการขับเคลื่อนชีวิตได้อย่างมีสีสันและหลากหลายนพื้นฐานของดนตรี อิเล็คทรอนิค – ป็อบ นำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของทุกคนไม่ว่าจะเป็นความสุข, ความทุกข์, สมหวัง และยังมีการนำเอาแฟชั่น – งานศิลปะที่มีฉีกจากแนวดนตรีของ Motley Flower ที่กลายเป็นภาพจำของศิลปินคนนี้

Motley Flower คือ นิค สุปรีดา โสตะวงศ์

ตัวผมเองอยู่ในอุตสาหกรรมดนตรีเมืองไทยมาประมาณสิบเอ็ดปีแล้วครับ และเริ่มต้นของการเป็น Motley Flower นั่นมาจากในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ทุกอย่างหยุดชะงัก ทำให้ช่วงนั้นผมได้เริ่มทำเพลงแบบจริงจัง และหากย้อนไปจริงๆ ผมเริ่มตอนใช้ชีวิตอยู่ เซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นผมอินมากกับหลากหลายทั้ง ร็อค, ฟังก์, อิเล็คทรอนิก, อัลเตอร์เนทีฟ ทำให้เพลงของ Motley Flower มีความหลากหลายบนพื้นฐานของดนตรี อิเล็คทรอนิก–ป็อบ

ส่วน Motley Flower ที่เป็น A.K.A ในพาร์ทศิลปินมาจากชื่อของวง Mötley Crüe วงฮาร์ดร็อกอเมริกันในยุค 80 โดยนำเอาคำว่า Motley ที่มีความหมายถึงความหลากหลายซึ่งก็เหมือนกับนิค มาประกอบเข้ากับคำว่า Flower ซึ่งมีมากมายนานาพันธ์ุและมีความแตกต่างกันเมื่อนำสองคำนี้มารวมกัน จึงกลายเป็น Motley Flower จบชื่อที่ดูเป็นผมที่สุดครับ

‘MAGNOLIA’ อัลบั้มแรกของ Motley Flower

MAGNOLIA คืออัลบั้มที่รวมเพลงตั้งแต่เพลงแรก FUNKY DOG และอีก 11 เพลง ชื่ออัลบั้มนี้ก็มาจากความผูกพันในอดีตตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ ในทุกๆ วันที่กลับบ้านระหว่างทางก็มักจะพบกับดอกแมกโนเสียที่เบ่งบานสะพรั่งเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เติบโตไปพร้อมกันในด้าน emotional ของผมที่มีทั้งความสดใส เศร้าในบางทีหรืออาจจะมีแค่ความว่างเปล่าของจิตใจที่สามารถเปลี่ยนไปตามสิ่งรอบตัว

ซึ่งเพลงทั้งหมดถูกเขียนจากเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในวงสนทนาตอนปาร์ตี้ที่ทำให้เราได้เห็มมุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยเกิดขึ้นในเวลาปกติ หรืออาจจะได้แรงบันดาลใจจากเรื่องกอสซิบที่ดูเป็นเรื่องตลกจนอยากนำมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟัง หากลองมองลงไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือสีสันของชีวิตก็เหมือนกับสีของดอกไม้เมื่อยามอยู่บนต้นก็ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา แต่พอเด็ดมาปักแจกันก็เพิ่มความสดใสแต่พอเริ่มเหี่ยวก็เปลี่ยนเป็นดอกไม้แห้งที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย และนั่นก็คือเรื่องราวทั้งหมดในอัลบั้ม Magnolia จาก Motley Flower ที่อยากให้ทุกคนได้ลองฟัง

จริงๆตัวผมเองโตด้วยแบบฟังแบบ Rock n Roll Punk Electronic  เนี่ยจริงๆก็เข้ามาน่าจะช่วงแบบระหว่าง high school แล้วก็มหาลัยครับแล้วก็ความที่ผมรู้สึกว่ามัน ความที่ตอนเราเด็กๆ แล้วเราโต เราเริ่มเปิดใจ เราเริ่มเข้าใจขึ้นว่าอิเล็กทรอนิกส์มันเป็นยังไงบ้างแล้วก็ผมก็เริ่มเห็นอ่าวงอะไรแปลกแปลกที่เขาก็อ่าที่ผมโตก็ จุดนั้นก็มีวงชื่อเดอะเฟคมีวงชื่อมูฟวิ่งยูเนสอะไรงี้ที่ผมจะชอบไปดูคอนเสิร์ตมาบ่อยครับผมก็เลยรู้สึกว่าเออมันมันค่อนข้างเอ่อสนุกดีแล้วก็อินสปายริ่งดีครับแล้วมันก็ก็เลยทําให้แบบเวลาเรา ได้ยินเพลงพวกนี้แล้วแบบเหมือนแบบขนลุกอะครับก็เลยก็เลยค่อนข้างอินสไปร์กับพวกเพลง

ทำความรู้จัก Motley Flower ผ่านเพลงดังต่อไปนี้

FUNKY DOG

เริ่มด้วยจังหวะสนุก ‘FUNKY DOG‘ เพลงแรกเลย ซึ่งเป็นเพลงที่ผมทำงานร่วมกับ YOUNGGU เพื่อนคนแรกๆ ของผมตอนที่ผมกลับมาอยู่เมืองไทย ซึ่งเราเป็นผู้ชายฮาๆ สนุกๆ เหมือนกันเลยเริ่มปล่อยตามอารมณ์ ไม่ได้มีอะไรนิ่งๆ ลึกๆ เอาแค่จอยๆ เหมือนในเพลงนี้

Real Eye

เพลงนี้สะท้อนมุมมองเข้าใจชีวิตที่ผ่านชีวิตมาระดับหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาของเพลงบอกเล่าถึงการไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด แล้วเมื่อเราเริ่มยอมรับรู้ตัวเองว่า เราไม่ได้ถูกตลอดเวลา ก็จะทําให้เรามองโลกในอีกแบบหนึ่งลดอีโก้ ค้นพบสิ่งใหม่ที่ดีกว่า

No Words

เพลง No Words ครับ อันนี้ฟีทริ่งกับวง Sherry ที่มาจากอเมริกาด้วย เป็นอีกเพลงหนึ่งที่สนุกด้วยจังหวะของเมโลดี้ดีมาก

Give or Take

ส่งท้ายเพลงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมากับ ‘Give or Take‘ เนื้อเพลง 18+ ให้ชาวแอลเมนได้โยกตัว

Credit:
Photographer: Wasu Sukatocharoenkul

Similar Articles

More