สำหรับนักดื่มคอทองคำวันนี้ ELLE MEN Thailand จะพาทุกคนไปพบกับแคมเปญ ‘The Macallan Double Cask’ ของ The Maccallan แบรนด์เครื่องดื่มสุดเก๋าที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1824 ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ไม้และเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใครและด้วยหลักการ The Six Pillars ของแบรนด์ทำให้แบรนด์ออกคอลเล็กชั่นใหม่อย่าง ‘The Macallan Double Cask’ ออกมา
The Macallan Double Cask วิสกี้ที่เน้นคุณภาพในทุกภาคส่วน
สำหรับคอลเล็กชั่น The Macallan Double Cask นั้นเป็นคอลเล็กชั่นที่สื่อถึงการเดินทางห้วงอารมณ์อย่างซับซ้อน และความสวยงามที่ส่งผ่านออกมาอย่างสมดุลระหว่างความเป็นไม้โอ๊ค ‘ยุโรป’ และไม้โอ๊ค ‘อเมริกา’ โดยที่เป็น Sherry-Seasoned จากเมือง Jerez de la Frontera ประเทศสเปน ซึ่งเป็นไม้โอ๊คที่ไม่เป็นชั้นเลิศคุณภาพหาใครเทียบยาก
โดยไม้โอ๊คชั้นดีเป็นอีกหนึ่งของล้ำค่าสำหรับทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านไม้ และเครื่องดื่มของ The Maccallan ที่อุทิศตนอย่างหนักเพื่อสร้างเครื่องดื่มวิสกี้ของแบรนด์ให้ออกมาเลิศและถูกปากผู้บริโภคมากที่สุด และด้วยความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้วิสกี้คอลเล็กชั่นนี้มีความคงที่และสม่ำเสมอในทุกๆ ขวด
‘ถังไม้โอ๊คแบบพิเศษ’ จุดชูโรงของวิสกี้ Macallan
เรียกว่าเครื่องดื่มของ The Macallan นั้นเป็นที่เลื่องลือจากถังไม้โอ๊คแบบพิเศษเฉพาะ ทำให้คุณภาพของวิสกี้ยี่ห้อนี้กลายเป็นเครื่องดื่มที่โดดเด่น ทั้งด้านคุณภาพและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงรสชาติ และสีโดยธรรมชาติของวิสกี้ที่มาจากการถูกบ่มในถังไม้โอ๊ค ทำให้คอลเล็กชั่นของ The Macallan Double Cask มีรสชาติโดดเด่น และมีความหวานพอเหมาะ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ถังไม้โอ๊ค Sherry-Seasoned แบบอเมริกันบ่มเป็นระยะเวลานาน
แคมเปญ The Macallan Double Cask ที่ถูกโปรโมตทั่วกรุงเทพ
กิจกกรรมโปรโมต The Macallan Double Cask นั้นถูกจัดขึ้นทั่วกรุงเทพ เพื่อส่งต่อรสชาติสุดพิเศษของห้วงอารมณ์ที่ซับซ้อน และถ่ายทอดลักษณะความเชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มและไม้ของ The Macallan อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมโปรโมตคอลเล็กชั่นนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป โดยมีร้านเด่นๆ มากมาย เช่น Villa Frantzen, IGNIV, The Loft และอีกมากมาย
แต่วันนี้เราจะยกร้าน ‘Ms. Jigger’ ที่ทาง The Macallan ได้จัดกิจกรรมพิเศษที่บาร์แห่งนี้ เพื่อมอบประสบการณ์การดื่มค็อกเทลแบบเฉพาะตัว พร้อมเสิร์ฟคู่กับอาหารอิตาเลียน พร้อมนำพาท่านไปสู่เส้นทางเรื่องเล่าของ Ms.Jigger ที่ใช้ชีวิตคุ้มค่าที่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่สุดท้ายที่แล้วก็ตัดสินใจกลับมาสู่บ้านหลังเดิมที่เธอโปรดปรานนั่นคือ ‘อิตาลี’