เมื่อสองตำนาน Michael Phelps (ไมเคิล เฟ็ลปส์) กับ Léon Marchand (เลอง มาร์ช็อง) สองแบรนด์แอมบาสเดอร์ เจอกันในการสัมภาษณ์ โดย OMEGA สองนักกีฬา ที่นิยามการว่ายน้ำในหนทางของตนเอง เฟ็ลปส์ ผู้ที่เป็นเจ้าเหรียญโอลิมปิกมากที่สุดถึง 28 เหรียญได้ส่งไม้ต่อให้กับมาร์ช็อง นักกีฬาว่ายน้ำดาวรุ่งที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสระที่ Paris 2024
ระหว่างการแข่งกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลก 2023 ที่ฟุกุโอกะ เลองได้ทำลายสถิติโลกรายการสุดท้ายของไมเคิลในรายการเดี่ยวผสม 400 เมตรลงสำเร็จ และในการสัมภาษณ์คราวนี้ ทั้งสองก็ได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แบ่งปันความลับสู่ความแม่นยำ ความชื่นชมที่พวกเขามีต่อผู้ฝึกสอน บ็อบ โบว์แมน เช่นเดียวกับความสำคัญของการบอกเวลาของ OMEGA
พวกคุณพบกันครั้งแรกได้อย่างไรและตอนไหน?
มาร์ช็อง: ครั้งแรกคือที่การแข่งกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลก 2023 ที่ฟุกุโอกะ ตอนนั้นผมเพิ่งแข่งรอบคัดเลือก 400 เมตรจบ ก่อนจะถึงรอบชิงชนะเลิศ ไมเคิลที่อยู่ตรงอัศจรรย์ก็เรียกผมให้เข้าไปหา นั่นคือครั้งแรกที่ผมได้พบกับเขา “คืนนี้ชนะให้ได้นะ” เขาตื่นเต้นกับผลงานของผม ผมรู้สึกตื้นตันมากหลังจากรอบคัดเลือกที่ได้พบกับตำนานและก็พร้อมที่จะลุยต่อ
เฟ็ลปส์: ผมบอก “เอาเลยพวก คืนนี้ลุยให้เต็มที่” พวกเราคุยกันทางอินสตราแกรมมาก่อนหน้านั้นหลายเดือน ผมเคยไปที่สระมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตตที่เลองใช้ฝึกหลายครั้ง แต่เรายังไม่เคยเจอกันมาก่อน มันบ้าทีเดียว ดังนั้นครั้งแรกที่พวกเราได้คุยกันคือที่ฟุกุโอกะ แน่นอนว่าผมได้ยินผลงานของเขามาแล้วจาก บ็อบ โบว์แมน ผู้ฝึกสอนที่เป็นเหมือนพ่อสำหรับผม และเป็นคุณปู่สำหรับลูกๆ ของผม ดังนั้นผมจึงรู้ว่าเลองต้องเผชิญอะไรบ้างระหว่างการฝึกซ้อม ผมบอกเขาว่า “พยายามเข้า สถิติมีไว้ทำลาย” ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือคนหนุ่มที่จะมาทำลายสถิติของผม
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือคนหนุ่มที่จะมาทำลายสถิติของผม”
แน่นอน เวลานี้เราทราบแล้วว่าเลองคือผู้ที่ทำลายสถิติของไมเคิล
เล่าถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนั้นให้เราฟังที
เฟ็ลปส์: จริงๆ แล้วผมพยายามจะเป็นเจ้าของสถิติให้ได้ 20 ปี และก็ทำมันสำเร็จ ผมสามารถพูดได้ว่าเป็นเจ้าของสถิติโลกในกีฬาว่ายน้ำที่ยาวนานที่สุด มันสุดยอดมาก แต่ระหว่างการแข่งของเลอง ช่วงที่เขากลับตัวในระยะ 100 เมตรสุดท้ายและยังนำหน้าสถิติเดิมอยู่ถึงหนึ่งช่วงลำตัว ผมรู้ทันทีว่าเขาจะทำลายมันได้ อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้า ผมรู้ว่าสถิติจะถูกทำลาย แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไร
มาร์ช็อง: ผมศึกษาวิดีโอที่บันทึกสถิติโลกของไมเคิลมามาก นัดที่เขาแข่งที่ปักกิ่ง ผมรู้ดีว่านั่นเป็นการว่ายที่น่าทึ่งมากและผมเฝ้าฝันที่จะได้เข้าใกล้สถิตินั้น ผมจำได้ถึงตอนที่แตะขอบสระ ผมรู้ว่าตัวเองทำลายสถิติสำเร็จเพราะความรู้สึกมันเอ่อล้น ทั้งสระส่งเสียงเชียร์ผม ผมคิดว่า “ในที่สุดผมคิดว่าผมทำสำเร็จแล้ว” ผมหันไปมองที่สกอร์บอร์ดของ OMEGA และแทบไม่เชื่อสายตา ผมยังจดจำความรู้สึกอิ่มเอมในวินาทีนั้นได้ดี
เฟ็ลปส์: นั่นคือสถิติโลกว่ายน้ำเดี่ยวรายการสุดท้ายที่เหลือของผม แต่มันยังคงเป็นของครอบครัวเรา เป็นของบ็อบ และเลอง คงไม่มีคนใดที่เหมาะไปมากกว่านี้แล้ว
คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังจะทำลายสถิติโลกระหว่างที่ยังไม่เข้าเส้นชัย?
เฟ็ลปส์: ผมได้ยินแค่เสียง ในทุกสถิติโลกของผม เสียงที่ผมได้ยินจะต่างกัน ผมไม่รู้ว่ามันเป็นพลังงานหรือเปล่าแต่มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ผมมักจะได้ยินเสียงนกหวีด แต่ต่างกันที่โทนเสียง และมันเหมือนกับว่าในขณะนั้นคุณอยู่ในเมทริกซ์ คุณเตรียมตัวมาพร้อม ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีและคุณก็คิดเพียงว่า “ปล่อยให้ผมออกตัว ให้ผมแข่งซักที”
มาร์ช็อง: ผมเห็นด้วย สำหรับผม ทุกอย่างค่อนข้างเงียบจนกระทั่งเข้าระยะ 200 เมตร จากนั้น ผมคิดว่าตัวเองน่าจะทำความเร็วได้ดีจนผู้คนเริ่มส่งเสียงเชียร์ และผมได้ยินมันชัดเจนตอนว่ายท่ากบ เพราะเวลาว่ายท่ากบศีรษะของคุณจะโผล่พ้นน้ำ ผู้ชมชาวญี่ปุ่นเชียร์กันเต็มที่ มันให้ความรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
“ผมยังจดจำความรู้สึกอิ่มเอมในวินาทีนั้นได้ดี”
พวกคุณคุยอะไรกันหลังจบการแข่งขัน?
มาร์ช็อง: ก่อนจะขึ้นแท่นรับรางวัล สิ่งแรกที่ไมเคิลบอกผมคือ “ใช่เลย นายไปได้เร็วกว่านั้นอีก” (หัวเราะ) แต่แค่ได้คุยกับเขาก็ตื่นเต้นมากแล้ว เขายังอวยพรให้ผมโชคดีกับการแข่งขันนัดต่อไปเพราะมันเป็นแค่วันแรกของการแข่งขันเท่านั้น
เฟ็ลปส์: มันเป็นสถิติที่เจ๋งไปเลย ว่าไหม? มันเป็นการว่ายที่เดือดมาก ถ้าคุณใส่ความตั้งใจลงไป ผลลัพธ์ย่อมปรากฏ เลองคือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับเรื่องนี้ หากเขาต้องการจะก้าวไปอีกขั้น ผมมั่นใจว่าเขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ผมคงบอกไม่ได้ทั้งหมด เขาอยู่ในการดูแลของบ็อบ ผมหมายถึง บ็อบเป็นคนจริงจังที่ไม่ปล่อยผ่านรายละเอียดต่างๆ เลย (หัวเราะ) ผมหมายถึงเป็นความจริงจังในแง่ดีจากใจจริง
แล้วรายละเอียดพวกนั้นคืออะไร? อะไรคือความลับที่ทำให้เหนือกว่าคู่แข่งไปเสี้ยววินาที?
มาร์ช็อง: เมื่อไม่กี่ปีก่อนผมได้ดูสารคดีเกี่ยวกับไมเคิลกับบ็อบ และทั้งหมดเกี่ยวกับระหว่างเวลาอยู่ใต้น้ำ มันแสดงให้เห็นว่าไมเคิลว่ายได้ไวกว่าเมื่ออยู่ใต้น้ำ เขาอธิบายว่าคุณจะหลีกเลี่ยงคลื่น หลบจากผิวน้ำได้อย่างไรระหว่างการกลับตัว แค่ไปให้ลึกกว่าเดิม กดร่างกายให้จมลึกกว่าเดิมเมื่อกำลังถึงขอบสระ และอยู่ใต้น้ำให้มากกว่าปกติ ในเวลานั้นผมคุ้นเคยกับการอยู่ใต้น้ำแล้วแต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีนัก ราวสามถึงสี่ปีก่อนผมจึงเริ่มที่จะซ้อมฝึกว่ายใต้น้ำทุกวัน ทุกรอบ ทุกการกลับตัว ในที่สุดมันก็สร้างความแตกต่างแม้เพียงเสี้ยววินาทีได้
เฟ็ลปส์: ผมสามารถขยายความสิ่งที่เลองบอกไปได้ ในทุกๆ วัน บ็อบที่เป็นผู้ฝึกสอนจะให้ความท้าทายต่างๆ เพื่อเตรียมเราให้พร้อมสำหรับการลงแข่ง สถานการณ์กดดันจนถึงขีดสุด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเลองกับผมถึงก้าวข้ามนักว่ายน้ำรายอื่นได้ เพราะบ็อบได้ฝึกเราให้เผชิญกับทุกสถานการณ์มาก่อน ดังนั้น ถ้าการแข่งขันดำเนินไปอย่างสูสี ก็คุณแทบจะรับประกันได้เลยว่าหนึ่งในเราจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันนั้น เพราะเป็นการฝึกที่เราต้องทำทุกวัน
มาร์ช็อง: ผมคิดว่าการฝึกซ้อมกับบ็อบทุกวันนั้นยากกว่าการแข่งขันจริงเสียอีก พวกเราเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส แต่เมื่อถึงเวลาลงแข่งจริง การคว้าชัยชนะกลับง่ายกว่า
เฟ็ลปส์: ทุกวัน ที่โต๊ะทำงานของผม ผมจะมองดูรูปถ่ายที่ชนะการแข่งขันด้วยไปด้วยเวลาเพียงหนึ่งในร้อยของวินาที เป็นชัยชนะที่เฉียดฉิวที่สุด เหตุผลที่ผมชนะการแข่งขันก็เพราะในช่วงเวลานั้น ผมรู้ว่าถ้าหากผมสโตรคเต็มรอบ ผมจะสูญเสียโมเมนตัมไป สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากการตระหนักรู้ว่าที่เรามีอะไรและได้อะไรจากการฝึกซ้อมทุกวัน
“สิ่งแรกที่ไมเคิลพูดคือ
‘ใช่ นายไปได้เร็วกว่านั้นอีก’”
ถ้าแบบนั้นคำกล่าวที่ว่าคนเราไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิดก็เป็นความจริง?
เฟ็ลปส์: เมื่อคุณแวดล้อมด้วยการฝึกแบบเลอง ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ผมเคยผ่าน คุณจะได้ฝึกร่วมกับนักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดในโลกในท่าต่างๆ เลองเป็นเจ้าของสถิติโลกในประเภทเดี่ยวผสม 400 เมตร แต่เขาฝึกซ้อมกับนักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดสามหรือห้าอันดับแรกของโลกในท่าฟรีสไตล์ ท่ากรรเชียง ท่ากบ และท่าผีเสื้อ ทุกคนต้องการชนะเหรียญทอง ดังนั้นคุณจึงได้แข่งกับคนที่เก่งที่สุดทุกวัน และเมื่อคุณทำอย่างนั้นซ้ำๆ คุณก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อคุณกระโดดออกจากแท่น คุณจะคิดว่า “ใช่ เราจะเอาชนะเขาได้แน่นอน”
มาร์ช็อง: เป็นเรื่องจริง ผมมีทีมที่ดี เป็นกลุ่มซ้อมที่ดีมาก ผมมักจะมั่นใจมากจากการซ้อมที่พวกเราเคยผ่านมาก่อน มันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับพวกเรา
คุณเห็นสิ่งเดียวกันนี้ในตัวอีกฝ่ายไหม?
มาร์ช็อง: แน่นอนว่าพวกเรามีสิ่งที่เหมือนกัน พวกเราทั้งคู่ฝึกซ้อมอย่างหนัก เราชอบที่จะทำลายขีดจำกัดในด้านการกีฬา และพวกเราต่างทำผลงานได้ดีภายใต้แรงกดดัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราสองคนทำผลงานได้ดีในหลายการแข่ง
เฟ็ลปส์: พวกเราทุ่มเทและฝึกฝนอย่างหนัก ฝึกหนักเพื่อให้เรามีโอกาสนั้น ผมเห็นเขาฝึกซ้อม สำหรับผม ผมคยอยากได้โอกาสนั้นและจะคว้ามันไว้ให้ได้มากที่สุด และผมเห็นสิ่งนี้ในเลอง ผมเห็นเขาพัฒนาการว่ายใต้ผิวน้ำให้ไปสู่อีกระดับ เอียน โธร์ปเป็นคนที่คิดค้น จากนั้นก็ไรอัน ลอชต์ และผม แต่ตอนนี้เป็นเลองที่กำลังยกระดับมันขึ้นไปยังขั้นหนึ่ง
พวกคุณได้ใช้เครื่องบอกเวลาของ OMEGA ตลอดอาชีพนักกีฬาความแม่นยำและความน่าเชื่อถือนั้นมีความหมายอย่างไรกับนักกีฬา?
มาร์ช็อง: ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถลงแข่งกีฬาที่ต้องอาศัยคนตัดสินได้ ผมคิดว่าการมีการบอกเวลาที่แม่นยำแบบนี้มันน่าทึ่งมาก เพราะมันขจัดความลำเอียงหรือความอยุติธรรมจนหมด เราสามารถยอมรับผลแพ้ชนะ ผลลัพธ์ไม่โกหก มันเป็นตัวเลข และผมคิดว่ามันช่วยให้กีฬาโดยรวมดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น
เฟ็ลปส์: นั่นเป็นภาพของผมที่เฉือนชนะคาวิชไปด้วยเวลาหนึ่งในร้อยของวินาที พวกเขาต้องเรียกดูเวลาละเอียดถึงหนึ่งในพันวินาทีเพื่อยืนยันผล นี่คืออุปกรณ์บอกเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ผมได้เหรียญโอลิมปิกทุกเหรียญโดยอาศัยการบอกเวลาของ OMEGA ผมคิดว่าตัวเองอาจมีอคติ แต่เครื่องบอกเวลาของแบรนด์คืออันดับหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2000 จนถึง 2020 เราสามารถเห็นการพัฒนาในหลากหลายด้านที่เป็นประโยชน์ต่อวงการกีฬา พวกเรามีระบบบอกเวลาที่เกินกว่าจะจินตนาการ พวกเรามีบล็อกออกตัวที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ นี่คือรายละเอียดเล็กๆ ที่ช่วยพาเรานำกีฬาไปสู่ระดับใหม่
“ผมได้เหรียญโอลิมปิกทุกเหรียญโดยอาศัยการบอกเวลาของ OMEGA”
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก OMEGA คือการแสดงค่าต่างๆแบบสดเช่นจำนวนครั้งของการสโตรคตำแหน่งปัจจุบันและกระทั่งความเร่งคุณคิดว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยทั้งผู้ฝึกสอนและนักกีฬาได้หรือไม่?
มาร์ช็อง: ผมคิดว่าข้อมูลสามารถทำให้เราปรับปรุงเทคนิคหรือการเคลื่อนไหวได้ ทุกอย่างอยู่ในรายละเอียด หากพวกเราได้ข้อมูลนั้นมา เราก็สามารถปรับปรุงในบางจุด พวกเราสามารถเพิ่มคุณภาพการฝึกซ้อมและช่วยให้ว่ายได้เร็วขึ้นได้ ผมคิดว่ามันคือการช่วยวงการกีฬาอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น เวลานี้ผมพยายามที่จะรักษาความเร็วระหว่างอยู่ใต้น้ำ เพราะผมทำความเร็วได้มหาศาล ข้อมูลจึงช่วยผมให้เห็นและอาจบอกได้ว่าผมควรปรับการสโตรคตรงจุดไหนและรักษาความเร็วใดตลอดการแข่ง
เฟ็ลปส์: สำหรับผม ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นจุดบกพร่องของเราได้ชัดเจน อย่างที่เลองพูด เช่น เมื่อคุณมองเรื่องการเร่งความเร็ว คุณสามารถเจาะจงในรายละเอียดแล้วขยายให้มันชัดเจนขึ้นได้ คุณสามารถดูการควบคุมการสโตรค การดูระยะการสโตรค ทุกรายละเอียดทั้งหมด ผมค่อนข้างจะเป็นคนที่สนใจรายละเอียดแบบนั้น ยิ่งผมมีความรู้และข้อมูลมากเท่าไหร่ ผมก็จะยิ่งใช้มันให้เกิดประโยชน์ ผมคิดว่ามันเปลี่ยนการแข่งขันไปได้จริงๆ และจากมุมมองของการถ่ายทอดสด ผมก็เป็นคนที่หลงใหลเรื่องนั้นอีกเช่นกัน ถ้าผมเห็นว่าใครสักคนช้าลง แต่คนอื่นๆ บอกว่าคนนั้นจะชนะ ผมสามารถบอกได้ง่ายๆ ด้วยชุดข้อมูล มันคือรายละเอียดเล็กๆ ที่คนทั่วไปไม่เห็น
พวกคุณมีนาฬิกา OMEGA รุ่นโปรดหรือเปล่า?
มาร์ช็อง: ผมชอบ Speedmaster Chronoscope รุ่นใหม่มาก รุ่นที่อุทิศให้กับ Paris 2024
เฟ็ลปส์: รุ่นนั้นมันสวยเกินบรรยาย ทันทีที่นาฬิกาถูกเปิดตัวทางออนไลน์ ผมก็ถ่ายภาพหน้าจอไว้และใส่มันลงในรายการนาฬิกาที่อยากได้ทันที ผมเดาว่าผมเป็นคนที่ชอบ Speedmaster และชอบอะไรก็ตามที่เป็นทองหรือทอง Sedna ผมมีรุ่น CK 2998 ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตในจำนวนจำกัดและผมสลักชื่อของลูกชายไว้ด้านหลัง แต่ผมไม่สามารถลืมนาฬิกาที่ผมชอบตลอดกาลไปได้ – Planet Ocean ของผม เมื่อครั้งยังเด็กผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีนาฬิกาที่รังสรรค์ขึ้นโดยใช้ชื่อของผม
มาร์ช็อง: ผมคิดว่าผมชอบนาฬิกาตระกูล Speedmaster มากที่สุด วันนี้ผมใส่ Speedmaster Moonwatch และผมก็รักมันมาก
แล้วถ้าพูดถึงเรื่อง Speed…
เลองมีการแข่งนัดไหนของไมเคิลเฟ็ลปส์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณมากที่สุด?
มาร์ช็อง: มีครับ มันคือการแข่งผีเสื้อ 200 เมตรของไมเคิลในรอบชิงชนะเลิศโอลิมปิกเมื่อปี 2008 เขาชนะการแข่งขันแม้ว่าตอนแข่งแว่นตาของเขาจะเต็มไปด้วยน้ำ มันเหมือนกับการถูกปิดตา เป็นฝันร้าย ผมไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นเลย คุณมองไม่เห็นอะไรเลยถูกไหม?
เฟ็ลปส์: มองไม่เห็นอะไรเลยหลังจากผ่านไป 25 เมตรแรก
มาร์ช็อง: นั่นมันบ้าสุดๆ แต่สำหรับเขา มันไม่สำคัญเลย เขาไม่ยอมจำนน ผมคิดว่าน่าประทับใจมากที่ได้เห็นว่าเขาเตรียมพร้อมทางจิตใจมาแค่ไหน เขาต้องการชนะมากเพียงไร สิ่งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผมจริงๆ
เฟ็ลปส์: ผมเคยหงุดหงิดกับเรื่องนี้ บางทีผมอาจทำได้ 1:50 ในวันนั้น คุณก็พอทราบ ผมคิดว่ามันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมหัวเสียมากที่สุด
“มันเหมือนกับการถูกปิดตา เป็นฝันร้าย ผมไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นเลย”
และไมเคิลมีเรื่องไหนของเลองที่ทำให้คุณประทับใจมากที่สุด?
เฟ็ลปส์: การแข่งท่าผสม 400 เมตรของเขาเยี่ยมยอดมาก แต่แน่นอนว่าเขาเป็นคนถนัดท่ากบ เขาว่ายท่าผีเสื้อ 200 เมตรได้ดีมาก เลองไม่ใช่พวก “เก่งด้านเดียว” ผมคิดว่าคงสนุกหากได้เห็นเขาเพิ่มความชำนาญในท่าอื่นหากเขาต้องการ หรือพุ่งความสนใจและพาการว่ายน้ำไปสู่ระดับใหม่ ผมคิดว่าเลองคือคนที่พิเศษ คุณจะไม่เห็นนักกีฬาว่ายน้ำมากนักที่ทำแบบเดียวกับที่เขากำลังทำสำหรับผมในฐานะคนบ้ากีฬาว่ายน้ำมันเพลิดเพลินที่ได้เห็น
ตอนนี้เรากำลังนับถอยหลังสู่ Paris 2024 ที่จะจัดขึ้นในประเทศบ้านเกิดของเลองนอกเหนือจากกีฬาผู้ที่มาเยือนสามารถคาดหวังอะไรได้จากเมืองเจ้าภาพบ้าง?
มาร์ช็อง: ผมไม่ได้อาศัยในปารีส แต่ผมได้คำแนะนำดีๆ จากเพื่อนที่อยู่ที่นั่น บางทีอาจจะออกไปทานอาหารค่ำพร้อมชมวิวของลูฟวร์ หรือสั่งเพสตรี้จาก เซดริก โกรเลต์ อินสตราแกรมของเขาสุดยอดมากและขั้นตอนการทำก็งดงามเกินบรรยาย หลังจากนั้นคุณสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจากที่พักในปารีส หรืออาจจะค้างคืนที่โรงแรมโมลิเตอร์ สระว่ายน้ำที่นั่นอลังการมาก คุณเคยไปที่นั่นแล้วใช่ไหมไมเคิล?
เฟ็ลปส์: ผมเคยไป ที่ออกแบบโดย โรลังด์ การ์รอส ใช่ไหม? ผมเคยมีประสบการณ์ดีๆ ในปารีส ภรรยากับผมใช้เวลาพักผ่อนกันที่นั่น พวกเราไปออกไปทานมื้อค่ำพร้อมชมหอไอเฟลหลายหน พวกเราเคยไปลูฟวร์ ความจริงคือพวกเราไปมาแล้วเกือบทุกพิพิธภัณฑ์ จริงๆ แล้วสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกคือการได้เพลิดเพลินไปกับทุกวัฒนธรรม
“คุณจะไม่เห็นนักกีฬาว่ายน้ำมากนักที่ทำแบบเดียวกับที่เขากำลังทำ”
และคำถามสุดท้ายสำหรับทั้งสองคนคงยากจะตัดสินว่าใครว่ายน้ำเก่งกว่าแต่มีกีฬาชนิดอื่นไหมที่คิดว่าสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้?
มาร์ช็อง: โอ้ พระเจ้า ผมเล่นกีฬาทางบกไม่ได้เรื่องเลย
เฟ็ลปส์: ผมเคยเล่นกอล์ฟมาก่อน
มาร์ช็อง: คุณต้องเล่นกอล์ฟเก่งแน่ๆ บางทีของผมอาจจะเป็นกีฬาฟูซบอล คุณเคยเล่นฟูซบอลไหม?
เฟ็ลปส์: ผมเล่นได้เข้าขั้นแย่มาก
มาร์ช็อง: พ่อผมเล่นเก่งมาก พ่อน่าจะสอนได้ ผมเลือกกีฬานี้ดีกว่า (หัวเราะ)