ตีความทุเรียนสัญญะใน ‘วิมานหนาม’ ภาพยนตร์ดราม่าล่าสุดจาก GDH

หลังจากลุกออกจากโรงในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง วิมานหนาม (The Paradise of Throns) ภาพยนตร์ทริลเลอร์ดราม่าเรื่องใหม่จากค่าย GDH ผู้เขียนก็อยากจะปรบมือให้ทีมผู้สร้างภาพยนตร์รัวๆ เพราะทั้งพล็อตเรื่อง บท งานภาพ ไปจนถึงองค์ประกอบศิลป์ในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือการที่ทางทีมหยิบเอาผลไม้เศรษฐกิจของประเทศไทยอย่าง ‘ทุเรียน’ มาเป็นองค์ประกอบสอดแทรกไปกับประเด็นต่างๆ ในการเล่าหนังเรื่องนี้อย่างลงตัว

เหตุใดทางทีมเบื้องหลังหนังเรื่องนี้ถึงเลือก ทุเรียน มาเป็นผลไม้ในการเล่าหนังเรื่องนี้ วันนี้ผู้เขียนจะมาตีความตามความเข้าใจของผู้เขียน ว่าทำไมราชาผลไม้ถึงได้กลายเป็นเป็นอีกหนึ่งในตัวช่วยเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี ไปตีความพร้อมกับ ELLE MEN Thailand กัน

‘ทุเรียน’ ราชาผลไม้สัญญะอันทรงพลังในวิมานหนาม

*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ และเป็นการตีความตามความเข้าใจของนักเขียน*

จากที่เห็นในตัวอย่างว่า ทองคำ และ เสก (รับบทโดย เต้ย พงศกร) นั้นเป็นคู่รัก LGBTQIA+ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ทำสวนทุเรียนแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที แต่เมื่อประกายไฟแห่งความสำเร็จนั้นใกล้จะจุดประกายขึ้น ก็ดันเกิดเหตุโศกนาฏกรรมอันน่าสลดขึ้น คือการที่เสกตกจากต้นทุเรียนจนเข้าขั้นโคม่า แต่ด้วยความที่เสกและทองคำเป็นคู่รัก LGBTQIA+ ทำให้ทองคำไม่สามารถเซ็นอนุญาตให้แพทย์ผ่าตัดทองคำได้

ดังนั้นทุเรียนจึงถูกนำมาผูกกับ #สัญญะแรก อย่าง ‘ความมุมานะอุตสาหะ’ ของคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ และสังคมเกษตรกรรมในประเทศไทย เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่กระบวนการเพาะปลูกที่ใช้เวลานานมาก กว่าจะออกดอกออกผลก็กินระยะเวลาร่วมหลายปี สะท้อนการต่อสู้ของชุมชน LGBTQAI+ และเกษตรกรไทยกับการเอารัดเอาเปรียบของนายทุน และความไม่เท่าเทียมในมิติต่างๆ ของประเทศนี้

#สัญญะที่สอง เราก็อาจจะเห็นได้จากตัวอย่างก็คือ ‘การทิ่มแทง’ กันระหว่าง โหม๋ และ ทองคำ ในการช่วงชิงที่ดินผืนนี้ที่ตกไปเป็นของ แม่แสง (รับบทโดย สีดา พัวพิมล) ซึ่งการแย่งชิงครั้งนี้สร้างความบาดเจ็บเสียหายระหว่างทั้งสองไม่แพ้กัน อีกทั้งผู้เขียนคาดเดาว่าทางทีมผู้สร้างตั้งใจให้บ้านหรือ ‘วิมาน’ นั้นตั้งอยู่เหนือสวนทุเรียน เพื่อให้ภาพเป็นการบอกเล่าว่าผู้ครอบครองที่ดินผืนนี้จะต้องเจ็บปวดราวกับว่าเหยียบย่ำอยู่บนหนามผลไม้ชนิดนี้ในทุกลมหายใจ

และสุดท้าย #สัญญะที่สาม ที่เราได้เห็นได้ก็คือ ‘ความพยายามในการขยับฐานะทางสังคม’ ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านซีนในการปีนต้นทุเรียนขึ้นไปเพื่อผสมเกสรในดอกทุเรียน หรือแม้แต่การขึ้นไปตรึงผลทุเรียนไม่ให้ร่วงลงมาในช่วงที่พายุเข้า ก็เปรียบกับการที่เกษตรกรอย่าง เสก ทองคำ โหม๋ และจิ่งนะ (รับบทโดย เก่ง หฤษฎ์) พยายามขยับฐานะทางสังคมขึ้นมาเพื่อหวังจะลืมตาอ้าปากด้วยการขายผลไม้ชนิดนี้ ซึ่งการปีนขึ้นไปนั้นก็มีความเสี่ยงที่จะตกต้นทุเรียนลงมาบาดเจ็บเหมือนเสก แต่ทุกตัวละครก็เต็มใจที่จะทำเพื่อให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น

‘วิมานหนาม’ เตรียมลงจอ 22 สิงหาคมนี้

นี่ก็คือ 3 สัญญะที่ผู้เขียนได้ตีความมาให้ชาว ELLE MEN ได้คิดตามกัน สำหรับใครที่อยากจะไปซึมซับความเข้มข้นและร่วมตีความประเด็นต่างๆ ใน วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) ก็สามารถจองบัตรเข้าไปดูในโรงได้ตั้งแต่ วันที่ 22 สิงหาคม เป็นต้นไป หากใครเข้าไปดูแล้วเห็นสัญญะหรือประเด็นอื่นๆ ก็สามารถร่วมพูดคุยกับเรา เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้แข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีก ในอนาคตเราจะได้มีภาพยนตร์ไทยน้ำดีดูกันเยอะๆ เป็นอีก Soft Power ในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้แข็งแรง

Similar Articles

More