เต็มอิ่มกับความชุ่มฉ่ำไปพร้อม 5 น้ำหอม ‘กลิ่นฝน’ ที่ไม่ควรพลาด!

ในโลกของวงการน้ำหอมนั้นมีหลายๆ สิ่งที่ถูกยกมาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อให้ ‘Perfumer’ (สุคนธกร) รังสรรค์ออกมากลายเป็นกลิ่นหอมที่พวกเราใช้ฉีดบนร่างกาย ซึ่งมีน้ำหอมอยู่หลายขวดที่ได้จับเอาสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศรอบๆ ตัวของเรานั้นมาตีความให้กลายเป็นกลิ่นที่จะติดอยู่บนตัวเราไปทั้งวัน ซึ่งบรรยากาศตอน ‘ฝนตก’ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

เพราะมีคนรักน้ำหอมรวมไปถึงผู้บริโภคหลายๆ นั้นที่ชื่นชอบกลิ่นหอมของบรรยากาศในช่วงเวลาฝนตกนี้ เพื่อต้องการนำเอากลิ่นเรานั้นมาอยู่บนร่างกายเพื่อสร้างความยูนีก รวมไปถึงสร้างความผ่อนคลายในวันเดือดๆ ด้วยกลิ่นของ สายฝน ไอดิน และ กลิ่นตอนที่ฝนกำลังจะตก จนนักวิทยาศาสตร์ถึงกับทำการวิจัยถึงกลิ่นจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้ จนได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘Petrichor’ หรือ ‘กลิ่นหลังฝนตก’

ซึ่งปัจจุบันโลกของน้ำหอมก็มีกลิ่นหอมประเภทนี้อยู่มากมายให้เราได้เลือกใช้ วันนี้ ELLE MEN Thailand จึงรวมน้ำหอมกลิ่นฝน 5 ขวดที่ชาวแอลเมนไม่ควรพลาดดมาให้ชาวแอลเมนได้ชมกัน จะมีขวดไหนบ้างไปดูกันเลย!

Rain จาก Commodity

เริ่มกันด้วยกลิ่นแรกที่แค่ชื่อก็บอกว่าเป็นกลิ่นฝนอย่าง ‘Rain’ จาก Commodity แบรนด์น้ำหอมนิชสุดโมเดิร์นจากสหรัฐ กลิ่นนี้มีโทนกลิ่นสไตล์ Earthy และ Musky ที่เปิดกลิ่นด้วยส่วนผสมอย่าง เบอร์กามอต และพริกไทยชมพู ที่มาพร้อมกับกลิ่นของพืชพรรณ, อควาติก, ไม้สน, แพทชูลี่ และมัสก์ พร้อมด้วยส่วนผสมอย่างน้ำมันจากกลีบกุหลาบ และดอกมะลิ

ผลลัพธ์ของส่วนผสมต่างๆ ที่เราได้กล่าวไปทำให้กลายเป็นของฝนที่ตกกลางทุ่งดอกไม้ แต่ถึงแม้จะมีโน๊ตกลิ่นสไตล์ฟอรัลอย่าง กลีบกุหลาบ และดอกมะลิ ไม่ได้แปลว่าชาวแอลเมนจะใช้ไม่ได้นะ เพราะน้ำหอมขวดนี้มีกลิ่นที่ Unisex มากๆ และเหมาะมากๆ สำหรับการ Uplift อารมณ์ของเราในวันที่ร้อนอบอ้าวเพราะฝนกำลังจะตก!

Baie 19 จาก Le Labo

สำหรับกลิ่นต่อมาเรียกว่าเป็นอีกน้ำหอมกลิ่นฮิตจากบ้านน้ำหอม Le Labo น้ำหอมนิชจากนิวยอร์กเลย กับกลิ่นที่มีชื่อว่า ‘Baie 19’ เพราะคำบรรยายของกลิ่นนี้นั้นก็บอกแล้วว่าขวดนี้ได้แรงบันดาลใจจากฝน ซึ่งทางแบรนด์ได้อธิบายกลิ่นของ Baie 19 ไว้ว่า “มีกลิ่นที่สดชื่น ชุ่มฉ่ำ และเปียกโชกเหมือนน้ำที่ถูกมอบให้กับโลกไว้หลังฝนตก”

ส่วนผสมของกลิ่นนี้เรียกว่าตรงจุดสุดๆ เพราะประกอบด้วยโน๊ตอย่าง จูนิเปอร์เบอร์รี่แห้ง แพทชูลี่ ใบไม้ และกลิ่นของฝน น้ำหอมกลิ่นนี้นอกจากที่จะมีเนื้อกลิ่นที่ยูนีกสุดๆ สมกับเป็นกลิ่นหอมจากบ้าน Le Labo ก็ยังเป็นน้ำหอม Unisex ที่เหมาะมากๆ สำหรับทุกคนที่ต้องการกลิ่นหอมที่เข้ากับวันที่ฝนตกพรำ

When The Rain Stops จาก Replica

สำหรับน้ำหอมกลิ่นต่อมาเราก็ยังคงอยู่ที่แบรนด์น้ำหอมนิชเช่นเคย เพราะว่าส่วนใหญ่แบรนด์น้ำหอมนิชมักจะชอบทำน้ำหอมที่มีแรงบันดาลใจสุดแหวกแนว อย่าง น้ำหอมกลิ่นฝน นี่แหละ และ ‘When The Rain Stops’ จาก Replica ก็คือหนึ่งในนั้น น้ำหอมกลิ่นนี้ได้แรงบันดาลใจจากช่วงเวลาหลังฝนตก มาในโทนกลิ่น Earthy และ Musky เช่นเคย

ในส่วนของ Top Note นั้นประกอบไปด้วย เบอร์กามอต และพริกไทยชมพู พอเข้าสู่ช่วง Middle Note นั้นคุณจะได้พบกับส่วนผสมอย่าง อควาติก มะลิ และกลีบกุหลาบ ส่วนท้ายของกลิ่นอย่าง Base Note นั้นก็มี ไม้สน แพทชูลี่ และมัสก์ จนแทบจะพูดได้เต็มปากว่าโครงสร้างกลิ่นหอมแบบนี้กลายเป็นอีกหนึ่งโครงสร้างกลิ่นยอดฮิตของน้ำหอมกลิ่นฝนไปแล้ว

Terre D’Hermes จาก Hermes

ขอพักน้ำหอมกลิ่น Unisex และหันมาโฟกัสน้ำหอมสำหรับผู้ชายอย่าง ‘Terre D’Hermes’ จาก Hermes กันบ้าง เรียกว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นหอมสำหรับผู้ชายสุดไอคอนิกของไลน์น้ำหอมแบรนด์นี้เลย ถูกคิดค้นโดย Jean-Claude Ellena (ฌ็อง โคลด เอลเลน่า) สุคนธกรในอดีต House Perfumer ของ Hermes โดยเขาได้ร้อยเรียงโน๊ตอย่าง ส้ม, เกรปฟุต, พริกไทย, เครื่องเทศ, หญ้าแฝก, ไม้ซีดาร์, เรซิน และกำยาน เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ผลลัพธ์กลายเป็นน้ำหอมที่สื่อถึงความชุ่มฉ่ำระหว่างผืนดินและผืนน้ำ จนพูดได้ว่าน้ำหอมในไลน์ Terre D’Hermes เกือบทุกตัวนั้นเป็นน้ำหอมที่สื่อถึงธรรมชาติ แต่ถึงแม้ว่าทางแบรนด์และผู้ปรุงกลิ่นจะไม่ได้บอกเจาะจงว่าน้ำหอมกลิ่นนี้นั้นได้แรงบันดาลใจจากฝน แต่ด้วยกลิ่นที่เต็มไปด้วยส่วนผสมอย่าง หญ้าแฝก เกรปฟุต และไม้ซีดาร์ ที่ให้ทั้งให้ความ Earthy และความ Fresh สะท้อนถึงกลิ่นอายของฝน ไปพร้อมๆ กัน

Silver Mountain Water จาก Creed

มาถึงน้ำหอมขวดสุดท้าย อย่าง ‘Silver Mountain Water’ จาก Creed แบรนด์น้ำหอมสัญชาติฝรั่งเศส-อังกฤษ ที่ตอนนี้อยู่ในเครือสินค้าลักชูรีอย่าง Kering เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกลิ่นหอมกลิ่นนี้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่เราไม่ควรพลาดเลยเพราะนอกจาก Aventus ก็มีกลิ่นนี้แหละเป็นไฮไลต์ของแบรนด์ นอกจากจุดเด่นเรื่องความไร้เพศของน้ำหอมกลิ่นนี้แล้ว เนื้อกลิ่นของ Silver Mountain Water ยังมีความเฟรชมากๆ

ด้วยส่วนผสมที่เบลนด์โน๊ตอย่าง เบอร์กามอต, แมนดาริน, ชาเขียว, แบล็คเคอร์แรนท์, ยางไม้, มัสก์, แซนดัลวู๊ด และแพตติเกรน เพื่อถ่ายทอดและสะท้อนภาพของลำธารบนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งเรามองว่าความเฟรชและสดชื่นมากๆ ของกลิ่นนี้ ยังสามารถสะท้อนถึงสายฝนที่ตกพรำลงในวันที่อากาศเย็นสบายอีกด้วย ใครชอบน้ำหอมที่ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง แถมยังสร้างความรื่นรมย์เราว่ากลิ่นนี้เหมาะมากๆ

Similar Articles

More