นาฬิกาโครโนกราฟของ Patek Philippe ได้รับการชื่นชมเสมอ และนับเป็นหนึ่งในนาฬิกาสลับซับซ้อนที่หลายคนหมายปองจะได้ครอบครอง แต่สำหรับผลงานรุ่นใหม่ของนาฬิกาโครโนกราฟโดยแบรนด์นี้ ได้สร้างความเอ็กซ์คลูซีฟเหนือรุ่นอื่นๆ อีกครั้ง กับการเป็นเรือนเวลาที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะสำหรับการสวมใส่บนข้อมือขวาของบรรดาผู้ซึ่งถนัดซ้าย หรือ ‘Lefty’ ทั้งหลาย ซึ่งนอกเหนือจากจุดเด่นที่สังเกตเห็นได้อย่างทันที จากการย้ายเม็ดมะยมมาไว้บนด้านข้างซ้ายของตัวเรือนแล้ว การตีความใหม่ให้กับนาฬิกาสลับซับซ้อนโครโนกราฟที่จำเป็นต้องปรับสร้างโครงสร้างกลไกจักรกลขึ้นมาใหม่นั้น ก็นับเป็นความท้าทายอย่างมากเช่นกัน

Courtesy of Patek Philippe
ในนาฬิการุ่นล่าสุดของ Ref. 5373P-001 Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar โดย Patek Philippe จึงนับเป็นทั้งผลงานหายาก กับการพัฒนาอันทันสมัย และถ่ายทอดความสง่างามไว้ด้วยตัวเรือนแพลทินัม ตอกย้ำถึงสถานะของการเป็นนาฬิกาสปอร์ตร่วมสมัยด้วยหน้าปัดดีไซน์คลาสสิก กลมกลืนเข้ากับเฉดสีแบบสปอร์ต โดยเฉพาะการเลือกบรรจุด้วยเข็มจับเวลา Split-seconds สีแดงสะกดสายตา ทว่า นาฬิกาสำหรับคนถนัดซ้ายนี้ยังคงผลิตขึ้นในแบบซีรีส์จำนวนไม่มาก เพื่อมอบให้กับคนถนัดซ้ายจริงๆ รวมถึงนักสะสมที่ชอบความพิเศษหายากและหลงใหลในกลไกจักรกลอันวิจิตรประณีต ที่พวกเขาจะสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ของนาฬิการุ่นนี้

Courtesy of Patek Philippe
นับจากปี 2005 Patek Philippe ได้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ของนาฬิกาโครโนกราฟสำหรับการจับวัดเวลาช่วงสั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ และยังคงเดินหน้าพัฒนาความสามารถในสาขานี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดของผลงานล้วนผ่านการออกแบบและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง เช่น การพัฒนาและเปิดตัวกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ caliber CHR 27-525 PS ซึ่งเป็นกลไกจักรกล Split-seconds chronograph ควบคุมโดย column-wheel ที่บางที่สุดในโลก ขณะที่ caliber CHR 27-525 PS Q ก็นับเป็นอีกหนึ่งกลไกที่มีฐานเดียวกัน แต่เสริมด้วยโมดูล perpetual calendar กับความบางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาโดยโรงงานแห่งนี้ การพัฒนากลไกจักรกลเหล่านี้จึงนับเป็นนัยยะสำคัญที่มีต่อการเดินหน้าสร้างวิวัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่งให้กับนาฬิกาโครโนกราฟของ Patek Philippe เสมอ
เช่นกันกับนาฬิการุ่นล่าสุดสำหรับคนถนัดซ้าย ที่ครั้งนี้แบรนด์ได้เลือกนำเสนอผ่านเวอร์ชันใหม่ของ Ref. 5372 ให้กับคนถนัดซ้าย และยังคงดีกรีความสลับซับซ้อนระดับ Grand complication จากการผสมผสานระหว่างจักรกลโครโนกราฟและ Perpetual calendar โดยเวอร์ชันเฉพาะนี้ได้ย้ายเม็ดมะยมมาติดตั้งไว้ที่ 9 นาฬิกา รวมถึงปุ่มกดควบคุมของ Split-seconds ที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งแตกต่างจากทั่วไปคือที่ 8 นาฬิกา

Courtesy of Patek Philippe
ส่วนด้านรูปลักษณ์สปอร์ตร่วมสมัยของรุ่นได้ถ่ายทอดทั้งบนขอบตัวเรือนโค้งเว้าและขัดเงา ขอบด้านข้างตัวเรือนตกแต่งงานขัดด้านแบบซาตินและเว้าลง ส่วนขาตัวเรือนคงความโค้งให้รับกับทุกข้อมือได้ บนหน้าปัดกลางบรรจุการแสดงต่างๆ ที่ถูกปรับหมุนไปประมาณ 180 องศา ทั้งการแสดงวันที่แบบอนาล็อกที่ 12 นาฬิกา กับหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ 3 นาฬิกา แสดงข้างขึ้น-ข้างแรมที่ 6 นาฬิกา และพระเอกของหน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที ที่ 9 นาฬิกา โดยครบเครื่องกับการเสริมด้วยการแสดงอื่นๆ ผ่านช่องหน้าต่าง ทั้งวันและเดือน ตลอดจนวงจรของปีอธิกสุรทินที่ 10.30 นาฬิกา พร้อมทั้งการแสดงกลางวัน/กลางคืนที่ 1.30 นาฬิกา สำหรับการสั่งการและควบคุมโครโนกราฟทั้ง 3 ฟังก์ชัน คือ Start, Stop และ Reset สามารถทำได้ผ่านปุ่มกดเดี่ยวหรือ monopusher ยกระดับซึ่งความแม่นยำเหนือใคร และเหมือนกับนาฬิกาแพลทินัมทุกเรือนของแบรนด์ ที่บนแถบด้านข้างตัวเรือนจะประดับไว้ด้วยเพชรเจียระไนบริลเลียนต์คัต 1 เม็ด โดยนับจากนี้ไป นาฬิการุ่นนี้จะยังคงเป็นผลงานเพียงรุ่นเดียวที่มีอยู่ซึ่งติดตั้งด้วยกลไก CHR 27-525 PS Q ที่ก่อนหน้านี้มีให้เลือกภายในรุ่น Ref. 5372P-001 และ 5372P-010 แต่ทั้งสองรุ่นได้หยุดการผลิตจากคอลเล็กชันนี้ไปแล้ว