‘OMEGA Speedmaster’ นาฬิกาสปอร์ตที่ขึ้นชื่อเรื่องการจับเวลาได้อย่างแม่นยำ

หนึ่งในบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาสปอร์ตที่เชี่ยวชาญด้านการจับเวลานั้น ต้องยกให้กับชื่อนี้ นั่นคือ OMEGA และคอลเล็กชั่นคู่บุญด้านความเที่ยงตรงแม่นยำ อย่าง Speedmaster ที่มีตำนานการสร้างสรรค์อันยาวนาน พ่วงมาด้วยบทบาทบนหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของการบันทึกและจับเวลาเหตุการณ์มากมายที่กลายเป็นสถิติระดับโลก นับจากการดำดิ่งสู่ใต้ท้องทะเลลึก หรือแม้แต่การลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ เช่นเดียวกันกับการเป็นเครื่องมือจับเวลาในโลกแห่งความเร็วและการแข่งขันกีฬาอีกหลากหลาย

จากวิวัฒนาการที่มีมาอย่างต่อเนื่องของ Speedmaster และยังคงสมดั่งชื่อกับการพัฒนาด้านความเชี่ยวชาญสำหรับการจับเวลาแห่งความเร็ว ล่าสุดแบรนด์ยังได้เปิดตัวแนะนำนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ใน Speedmaster Super Racing กับดีกรีของการบรรจุไว้ด้วย Spirate™ System ระบบปรับตั้งอย่างละเอียดและแม่นยำ รวมถึงชิ้นส่วน spiral หรือขดใยซึ่งรอการจดสิทธิบัตรที่เป็นเสมือนหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จด้านการปรับตั้งอัตราการทำงานของกลไกได้อย่างละเอียด ซึ่งนั่นยังส่งผลให้ ในวันนี้ OMEGA สามารถบรรลุถึงระดับแห่งความเที่ยงตรงสูงด้วยความคลาดเคลื่อนเพียง 0/+2 วินาทีต่อวันเท่านั้น 

นอกเหนือจากชิ้นส่วน อย่าง spiral แล้ว อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยสร้างระดับแห่งการปรับตั้งได้อย่างละเอียดและแม่นยำสูงนั้น คือการคิดค้นบาลานซ์สปริง Si14 ใหม่ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ช่างนาฬิกาสามารถเข้าถึงการปรับตั้งจักรกลที่ติดตั้งบนสะพานจักรบาลานซ์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งอาศัยโครงสร้างและงานออกแบบที่ตอบโจทย์เพื่อการปรับตั้งได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบระบบรองรับแบบยืดหยุ่น (flexible bearings) ขณะที่ spiral ของ Spirate™ System ซึ่งคิดค้นขึ้นใหม่ ยังทำขึ้นจากซิลิคอนเวเฟอร์โดยผ่านกระบวนการผลิตภายในโรงงานซึ่งเรียกกันว่า DRIE (Deep Reactive Ion Etching) ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบหลักที่เสริมให้ผลงานสร้างสรรค์รุ่นนี้เดินหน้าสู่ระดับใหม่ของการปรับตั้งได้อย่างละเอียดและแม่นยำ 

สำหรับนาฬิการุ่นแรกที่ติดตั้งนวัตกรรมอันก้าวล้ำยุคด้านการจับเวลาและแสดงเวลาอย่างเที่ยงตรง OMEGA ได้เลือกประยุกต์ใช้กับคอลเล็กชั่น Speedmaster มาสู่รุ่น Speedmaster Super Racing ซึ่งมีตัวเรือนสเตนเลสสตีล และอุทิศทั้งรูปลักษณ์ รวมถึงสไตล์ให้กับเรือนเวลารุ่นเด่นของ OMEGA ที่สามารถต้านทานอิทธิพลของแม่เหล็กได้ซึ่งเปิดตัวในปี 2013 โดยเฉพาะการติดตั้งไว้ด้วยฝาหลังกระจกแซปไฟร์ใส เพื่อโชว์ให้เห็นการทำงานและศักยภาพของจักรกลชุดใหม่ได้อย่างชัดเจน ส่วนบนหน้าปัดยังคงไว้ด้วยสไตล์เรซิ่งโดดเด่นของทั้งสเกลนาที รวมถึงวงแหวนบนขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำที่บรรจุด้วยสเกลทาคีมิเตอร์ตกแต่งอีนาเมลสีเหลือง คล้ายกันกับเฉดสีเหลืองของรุ่น Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS ในปี 2013 และในรุ่นใหม่นี้ประกอบไว้ด้วยความโดดเด่นและอ่านค่าได้อย่างชัดเจน จากเฉดสีเหลืองเข้มของเข็มจับเวลาโครโนกราฟแบบไล่ระดับสี และเข็มวินาทีเล็กลายทางสีเหลืองดำ ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา พร้อมทั้งหน้าปัดย่อยบันทึกการจับเวลา 60 นาที และ 12 ชั่วโมง ที่จัดวางไว้ในตำแหน่งตรงข้ามกัน ณ 3 นาฬิกา ซึ่งยังทำหน้าที่แสดงเวลาไทม์โซนที่สองได้อีกด้วย ส่วนที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา บรรจุด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่ โดยเฉพาะตัวเลข 10 ที่เป็นฟอนต์เดียวกันกับข้อความ Speedmaster นอกจากนี้ ลวดลายรังผึ้งของหน้าปัดยังอ้างอิงมาจากนาฬิกาคอนเซปต์ที่จัดแสดงภายใน OMEGA Museum ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นของการทำงานท่ามกลางสนามแม่เหล็กสูงได้ถึง 160,000 GAUSS 

ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 9920 ที่ติดตั้งด้วยระบบ Spirate™ System ทั้งยังผ่านประกาศนียบัตรมาตรฐานระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส อย่าง METAS มาแล้ว Speedmaster Super Racing พร้อมด้วยจิตวิญญาณสไตล์เรซิ่งและความแม่นยำของการจับทุกช่วงเวลานี้ ประกอบคู่มากับสายสเตนเลสสตีลหรือสายไนลอนรีไซเคิล ตกแต่งด้วยแถบสีดำและสีเหลือง รหัสสีที่เชื่อมโยงกับรุ่นตำนานอย่าง Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS ที่เปิดตัวเมื่อ 10 ปีก่อน 

Similar Articles

More