ครั้นได้รับคำเชิญมาจาก มาเซราติ ประเทศไทย กับการเทสไดร์ฟ (Test Drive) รุ่น Maserati Grecale (มาเซราติ เกรดาเล่) ยนตรกรรมใหม่ที่เปี่ยมทั้งงานดีไซน์หรูหรา สง่างาม มาพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีทันสมัย สร้างความประทับใจที่แตกต่างกว่าครั้งไหนๆ กับเอสยูวีที่โดดเด่นและครบครันมากที่สุดในกลุ่ม High Performance Luxury หากใครที่หลงรักซูเปอร์คาร์ อย่างมาเซราติ MC20 เปิดประทุน 630 แรงม้าในไทยเพียง 2 คัน (ราคาเริ่ม 25 ล้านบาท) ก็ตอบโจทย์อย่างขั้นสุดกับความแรงและความเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ Nettuno (เน็ททูโน) ที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีสนามแข่งฟอร์มูลาวัน (เฉพาะรุ่น Trofeo)


ความน่าสนใจของ Maserati Grecale GT Hybrid
- นิยามใหม่ของความหรูหราในชีวิตประจําวัน มาเซราติ เกรคาเล่ ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด Everyday Exceptional ที่
ผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ นวัตกรรมล้ำสมัย การเลือกใช้วัสดุ และศักยภาพบนเส้นทางออฟโรด ให้อยู่ใน SUV สุดหรูคันนี้
นับเป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ - เครื่องยนต์ Nettuno ที่ปกติแล้วจะถูกใช้ในรุ่น Trofeo ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีจากสนามแข่งฟอร์มูลาวัน
- ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับค่ายตรีศูล กับตัวถังสไตล์คูเป้ เส้นสายโค้งมน กระจังหน้าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมไฟท้ายบูมเมอแรงที่ได้แรงบันดาลใจจาก มาเซราติ Giugiaro 3200 GT
Maserati Grecale รถเอสยูวีกลุ่ม High Performance Luxury
‘มาเซราติ เกรดาเล่’ รถสปอร์ตเป็นไฮไลต์ที่มีความใกล้เคียงกับซูเปอร์คาร์ สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด ‘Everyday Exceptional’ ขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะชั้นยอด ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นด้วยสุดยอดทีมงานวิศวกรของ Maserati Innovation Lab ทำให้มาเซราติ เกรคาเล่ ถือเป็นเอสยูวีที่มีความโดดเด่นและครบครันมากที่สุดในกลุ่ม High Performance Luxury ด้วยคอนเซปต์การออกแบบ ‘Masters of Italian Audacity’ ความกล้าที่จะแตกต่างในสไตล์อิตาเลียน
Maserati Signature Sound การันตีความเร้าใจ

ความเร้าใจเกิดขึ้นตั้งแต่สตาร์ตของ Maserati Grecale คือดุดันของเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ‘Maserati Signature Sound’ เอกสิทธิ์เฉพาะของมาเซราติ มาพร้อมรับทุกสถานการณ์ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ 4 โหมดการขับขี่ 4 ได้แก่ Comfort, GT, Sport และ Off-road ขณะที่รุ่น โทรเฟโอ เพิ่มโหมด Corsa ที่มาพร้อมความเร้าใจสูงสุด ผสานระบบควบคุมการทรงตัวใหม่ล่าสุด วีดีซีเอ็ม’ (VDCM-Vehicle Dynamic Control Module) เกิดจากการขับเคลื่อนของพลัง Mid Hybrid เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับ แบตเตอรี่ 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซเปอร์ซาร์จ (e-Booster) มีกำลังสูงถึง 300 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 สูบ 580 แรงม้า ตอกย้ำดีเอ็นเอแห่งความสปอร์ตของค่ายตรีตูล





ดีไซน์ล้ำสมัยภายใน Maserati Grecale

พื้นที่ภายในที่กว้างขวาง เมื่อเทียบกับรถยนต์ในเซ็กเมนูเดียวกัน มาเซราติ เกรคาเล่ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ หรูหราสง่างาม ควบคู่ไปกับความเร้าใจ ด้วยพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน ตกแต่งอย่างประณีตทุกรายละเอียด ด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียม ไม้แท้ และคาร์บอนไฟเบอร์ อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีการใช้นาฬิกาดิจิทัล แทนนาฬิกาทรงรีแบบดั้งเดิม สามารถแสดงข้อมูลได้หลากหลาย ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบทีเอฟที (TFT: Thin-Film Transistor) ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ พร้อมติดตั้งระบบทัซสกรีนแบบจอคู่บริเวณกลางแดชบอร์ด โดยจอบนมีขนาด 12.3 นิ้ว และจอล่าง 8.8 นิ้ว ใหญ่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในรถยนต์มาเซราติ ครบทุกอรรถรสของการขับขี่ด้วยสุดยอดเครื่องเสียงจากประเทศอิตาลี Sonus
Faber พร้อมลำโพง 14 และ 21 ตำแหน่ง เป็นออปชั่นเสริมมั่นใจ



Maserati Grecale นับเป็นยนตรกรรมสปอร์ตหรูคันใหม่ที่หนุ่มๆ ไม่แก่การขับขี่ เพื่อพิสูจน์ความเร็วแบบเร้าใจ