แปลกแต่จริง! ‘หมิงฮุน’ ประเพณีแต่งงานกับผีในหนังเรื่อง Marry My Dead Body

เรียกว่าในตอนนี้กลายเป็นยุคทองของภาพยนตร์และซีรีส์เกี่ยวกับคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ ในอุตสาหกรรมบันเทิงทั่วโลกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งตะวันตก หรือเอเชียเองก็ตาม อีกหนึ่งภาพยนตร์ในช่วงกระแสมาแรงมากๆ และเป็นที่พูดถึงอย่าง ‘Marry My Dead Body’ ชื่อภาษาไทยที่แปลตรงตัวเป๊ะ! ว่า ‘แต่งงานกับผี’

เรื่องราวเกิดจาก นายตำรวจที่เช็คลิสต์แล้วว่าเป็น ‘ชายแท้’ แบบติ๊กถูกทุกข้อมีนามว่า ‘หมิงฮั่น’ รับบทโดย เกร็ก ซู บังเอิญไปหยิบ ซองแดง (คีย์เวิร์ดสำคัญ! จำไว้นะทุกคน) ที่คุณย่าของ ‘เหมาเหมา’ รับบทโดย ออสติน ลิน ทิ้งเอาไว้ เพื่อหาคนมาเป็นสามีให้หลาน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่รู้โชคชะตาฟ้าลิขิตหรือความบังเอิญของหมิงฮั่นที่ทำให้เขาต้องแต่งงานกับเหมาเหมาไปโดยปริยาย

‘หมิงฮุน’ พิธีแต่งงานกิมมิกของ ‘Marry My Dead Body’

คำเตือน: อาจจะมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน!

จากเรื่องย่อนี้จุดพลิกผันของตัวหลักอย่างหมิงฮั่นหลังจากหยิบซองแดง แล้วจับพลัดจับผลูแต่งงานกับผีอย่างเหมาเหมา หลายคนอาจคิดว่าพล็อตเรื่องนี้ดูแฟนตาซีชวนจิ้นระหว่างพระเอกกับนายเอกเป็นแน่ แต่เราขอพักเรื่องรัก แล้วขอมาจริงจังในเรื่องวัฒนธรรมจีน กับพิธีกรรมที่ชื่อว่า ‘หมิงฮุน’ หรือ ‘เพ่ยกู่’ การแต่งงานหลังความตาย เป็นประเพณีการจัดงานแต่งงานให้หญิงหรือชายที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งหนังสัญชาติไต้หวันเรื่องนี้ได้หยิบเรื่องหมิงฮุนมาเล่าผ่านบริบทสังคม LGBTQIA+ โดยเชื่อมกับความเชื่อที่ว่าด้วยการแต่งงานกับคนตายนั้นดวงวิญญาณผู้ตาย จะนำความรุ่งเรืองและความโชคดีมาให้วงศ์ตระกูลทั้งสองฝ่ายมาเป็นตัวเดินเรื่อง

โดยในเรื่องนี้ ‘ซองแดง’ ทำหน้าที่เป็นตัวสื่อระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตาย ที่ผู้เขียนได้สอบถามเพื่อนชาวไต้หวันเกี่ยวกับประเพณีหมิงฮุน จนได้คำตอบน่าขนลุก! ถึงข้อห้ามว่า ‘ห้ามหยิบซองแดงบนพื้นกันเลยทีเดียว!’ เพราะถ้าคุณหยิบซองแดงแล้ว ก็หมายความว่า ‘Say yes!’ รับคำแต่งงานกับผี ถ้าไม่ทำตามความชิบหายจะบังเกิด (สะกิด! เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)

Notes: ประเพณี ‘หมิงฮุน’ หรือ ‘เพ่ยกู่’ มีมาตั้งแต่ ‘ราชวงศ์ซาง’ เป็นการวิวาห์หลังความตายนั้นมี 2 แบบนั่นก็คือ ‘ระหว่างศพกับศพ’ โดยครอบครัวของผู้ตายทั้ง 2 ฝ่ายจะนำเอาร่างของทั้งคู่ไปฝังไว้ด้วยกัน เพราะชาวจีนมีความเชื่อว่าหากชีวิตหนึ่งเกิดมาแล้วตายไปโดยปราศจากการแต่งงาน ชีวิตหลังความตายก็จะไปสู่ปรโลกอย่างไม่เป็นสุข และวงศ์ตระกูลของพวกเขาก็จะไม่เป็นสุขเช่นกัน

จากประเพณีสุดแปลกสู่แรงบันดาลใจ ‘Marry My Dead Body’

Marry My Dead Body นำเสนอการแต่งงานอีกหนึ่งรูปแบบของประเพณีหมิงฮุน คือการแต่งงาน ‘ระหว่างคนกับศพ’ ทั่วไปแล้วถ้าศพผู้ชายแต่งกับผู้หญิงก็จะเรียกว่า ผีแต่งเมีย หรือถ้าศพผู้หญิงแต่งกับผู้ชายก็จะเรียกว่า ผีแต่งผัว แต่ในเรื่องนี้กลับพลิกออกจากขนบเดิมคือการแต่งงานระหว่างศพผู้ชายกับผู้ชาย ที่เกิดในบริบทสังคมของคนไต้หวัน (ประเทศไต้หวันเป็นประเทศแรกในเอเชียที่อนุญาตให้คู่รัก LGBTQIA+ แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) ทำให้เรื่องนี้มีความย้อนแย้งที่ในสนใจในสังคมยุคปัจจุบันที่เปิดกว้างในเรื่องเพศ

นอกจาก Marry My Dead Body แล้วยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องเลยที่ได้แรงบันดาลใจจากประเพณีนี้ อาทิ The Maid (2005) หนังสัญชาติสิงคโปร์ที่เล่าเรื่องราวของสาวใช้ชาวฟิลิปปินส์กับครอบครัวชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเพณีหมิงฮุน และเทศกาลสาทรจีน หรือ ‘Ghost Month’ เทศกาลและเดือนที่คนจีนและคนเชื้อสายจีนทั่วโลก เชื่อว่าเป็นเดือนที่ประตูระหว่างโลกมนุษย์และปรโลกนั้นจะเปิด ทำให้วิญญาณสามารถขึ้นมาบนโลกได้ คล้ายๆ กับเทศกาล Halloween ของฝั่งตะวันตก

ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง The Maid (2005)

ประเด็นสังคมที่ซ่อนอยู่ใต้ร่ม ‘หมิงฮุน’ และ ‘Marry My Dead Body

เรียกว่าประเพณีนี้คนไทยอย่างพวกเราอาจไม่คุ้นหูหรือเคยได้ยิน แม้แต่คนไทยเชื้อสายจีนอย่างผู้เขียนเองก็ตาม แต่ว่าภายใต้ประเพณีสุดแหวกขนบนี้เราก็สามารถมองเห็นถึงประเด็นสังคมต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเชื่อนี้

#ประเด็นแรก การให้ความสำคัญกับครอบครัวของชาวจีน เพราะชาวจีนมีประเพณีและวัฒนธรรมมากมายที่เชิดชูสถาบันครอบครัวไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะเทศกาลเช็งเม้ง, เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลสาทรจีน ซึ่งเทศกาลที่เรากล่าวมาก็จะมีวันที่ชาวจีน และใครก็ตามที่มีเชื้อสายจีนต้องกราบไหว้บรรพบุรุษ

#ประเด็นที่สอง ที่เราอยากหยิบยกมาพูดก็คือ ‘สมรสเท่าเทียม’ เพราะภาพยนตร์เรื่อง Marry My Dead Body นั่นมีการบอกเล่าถึงประเพณีหมิงฮุน และการสมรสระหว่างเพศเดียวกันของสองตัวละครหลัก (ที่แม้อีกฝ่ายจะเป็นวิญญาณก็ตาม) นอกจากนั้นยังให้ตัวละครอย่างอาม่าของเหมาเหมาที่เป็นภาพแทนของคนเจน Baby Boomer ที่เปิดกว้างและก้าวข้ามเรื่องเพศ ยอมรับความหลากหลายอย่างเข้าใจ

เรียกว่า Marry My Dead Body นั้นเป็นหนังฟีลกู๊ดอีกหนึ่งเรื่องที่นำเอาประเด็นสมรสเท่าเทียมขึ้นมาพูด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นประเด็นหลักของเรื่องก็ตาม ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายที่กำลังผลิบานอย่างสวยงามในประเทศไต้หวัน ประเทศแรกในเอเชียที่มีกฎหมาย ‘สมรสเท่าเทียม’ อย่างเป็นทางการ!

Similar Articles

More