#ELLEMENLovesher ‘พีพี-ปุญญ์ปรีดี’ จากความฝันของเด็กสาวที่มาถึงจุดหมายได้ด้วยความมุ่งมั่น

Photographer: Manosit Boonnon
Words: Nawajit Ua-apinansakul

จากกระแสของผลงานทางโทรทัศน์จากทั้งไทยและต่างประเทศ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในผลงานสำคัญที่ดึงผู้คนทั่วไปหันกลับมารับชมละครไทยในปีนี้คือละครซีรีส์ชุด ดวงใจเทวพรหม ซึ่งสร้างขึ้นจากนวนิยายอันโด่งดังในชื่อเดียวกัน โดยท่ามกลางนักแสดงมากมายที่มารวมตัวกันอวดฝีมือในผลงานครั้งนี้ ‘ชีวัน’ จากตอน พรชีวัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ครองใจของเหล่าผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด และนั่นทำให้ ‘พีพี-ปุญญ์ปรีดี’ เจ้าของบทนี้กลายเป็นนางเอกสาวมาแรงแห่งปีที่เต็มไปด้วยความสามารถและน่าจับตามองบทบาทต่อไปของเธอ

การได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงของสาวพีพีนั้นไม่ใช่เพียงเรื่องโชคชะตาความบังเอิญ เพราะการเป็นนักแสดงที่โลดแล่นอยู่บนจอโทรทัศน์เป็นความฝันของเธอตั้งแต่ยังเด็ก โดยไม่ว่าจะไปออกรายการไหนๆ เธอก็มักจะเล่าว่าคุณแม่ของเธอเป็นคนชอบดูละครมาก เธอจึงอยากเห็นภาพที่คุณแม่ภาคภูมิใจในวันที่เธอเป็นส่วนหนึ่งของละครที่ฉายบนหน้าจอนั้น 

ความหลงใหลในโลกของการแสดงที่มีครอบครัวเป็นแรงผลักดันสำคัญนั้น ทำให้พีพีตั้งใจตระเวนออดิชั่นคว้าทุกโอกาส มุ่งมั่นเรียนการแสดงตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วความฝันที่เธอตั้งไว้จะมาเป็นความจริงได้หรือไม่ แต่ความพยายามของเธอก็สัมฤทธิ์ผลในวันที่เธอได้เปิดตัวในฐานะนักแสดงสมทบกับผลงานซีรีส์ชิ้นแรกเรื่อง คุณหมีปาฏิหาริย์ ในบท ‘พริบพรี’ ต่อด้วยผลงานที่ทยอยปล่อยออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2565 อาทิ ปมเสน่หา และ เลือดเจ้าพระยา กระทั่งเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นด้วยการรับบท ‘แม่ปราง’ ลูกสาวพี่หมื่นและการะเกดในเรื่อง พรหมลิขิต ภาคต่อของละครไทยชื่อดังอย่าง บุพเพสันนิวาส ที่คนไทยทุกคนต้องรู้จักเมื่อปีที่ผ่านมา 

เรียกได้ว่าแม้โลกของการทำงานอาจไม่เป็นอย่างที่เธอเคยคิดไปเสียทุกอย่าง แม้เธอจะยังมีประสบการณ์ไม่มากนักเมื่อเทียบกับนักแสดงมากฝีมือคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคใหญ่สำหรับพีพีที่จะเฉิดฉาย เพราะตัวเธอเองสามารถดึงเสน่ห์ของตัวละครจากหลากหลายบทบาทที่เธอได้รับออกมาได้อย่างน่าทึ่ง อีกทั้งแฟนคลับเองก็ยังเห็นถึงการพัฒนาของเธอขึ้นทุกวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่านักแสดงสาวมีความรักในการทำงานนี้มากเพียงใด 

 นอกจากผลงานดีๆ ที่เธอตั้งใจสร้างมันขึ้นมาแล้ว อีกส่วนสำคัญที่ทำให้ทุกคนหลงรักพีพีทั้งในจอและนอกจอคือความเป็นตัวเองที่แสดงออกมาอย่างสดใสและซื่อตรง เพราะเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าอุตสาหกรรมนี้ถูกมองเป็นภาพมายา เราไม่มีทางทราบได้เลยว่าภาพของดาราหรือเซเลบริตี้คนหนึ่งที่เราเห็นผ่านหน้าจอนั้นเป็นตัวตนจริงๆ ของเขาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากเราติดตามรายการต่างๆ ที่นักแสดงสาวคนนี้ไปให้สัมภาษณ์ หนึ่งในคำที่เราจะเห็นในช่องคอมเมนต์อยู่ตลอดนั่นคือคำว่าเธอดูเป็นธรรมชาติ มีความจริงใจ ซึ่งหากคนๆ หนึ่งในโลกแห่งแสงสีจะได้รับคำชมนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

จากเด็กสาววัยประถมที่อยากเห็นรอยยิ้มของแม่ ในวันนี้ สาวพีพีวัย 25 ปี กลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของเหล่าแฟนคลับมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนไล่ตามความฝันอย่างไม่ย่อท้อ รวมไปถึงเป็นต้นแบบในด้านการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีอีกเช่นกัน 

สุดท้ายนี้ หากต้องเปรียบเทียบเธอเป็นผลงานรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เชื่อว่าทุกคนคงมีละครหรือภาพยนตร์ที่บังเอิญได้ดูแล้วติดอยู่ในใจเป็นผลงานเรื่องโปรด เส้นทางการเติบโตของเธอคงเทียบเท่าได้กับผลงานที่อัดแน่นไปด้วยพลังเรื่องนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องราวที่ดีที่สุดเหนือใครๆ ไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ตั้งแต่แรกจนจบเหมือนงานประพันธ์ชั้นเลิศ แต่หากใครได้มาบังเอิญค้นพบเธอสักครั้ง ชื่อของ ‘พีพี-ปุญญ์ปรีดี’ ก็น่าจะติดอยู่ในใจของทุกคนจนต้องอยากติดตามเส้นทางของเธออย่างแน่นอน 

Similar Articles

More