Simply Natural ‘ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก’ กับความเป็นธรรมชาติที่ทำให้ใครๆ ต่างตกหลุมรัก

Words: Panicha Imsomboon
Photographer: Pathomporn Phueakphud

ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เคยบอกไว้ว่า ถ้าตัดความเป็นนักแสดงออกไป เธอก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่เมื่ออยู่กับพ่อแม่ก็เป็นลูกสาว อยู่กับน้องชายก็เป็นพี่สาว หรือเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ก็เป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่น 

แต่เมื่อเพิ่มความรับผิดชอบในฐานะนักแสดงเข้าไป สิ่งที่ตามมาคือความตั้งใจที่เธอบอกเสมอนับตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ จนถึงทุกวันนี้ที่เป็นนักแสดงหญิงเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทยว่า อยากเป็นนักแสดงที่ดีและเป็นคนที่ทุกคนอยากร่วมงานด้วย 

ความตั้งใจนี้ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดเท่านั้น เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทีมงานที่ได้ร่วมงานกับเธอจะรู้ว่า ใบเฟิร์นมักจะขอเข้าร่วมเวิร์กช็อปหรือหาทางเรียนรู้เกี่ยวกับบทที่ได้รับอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มประสบการณ์และถ่ายทอดบทบาทให้สมจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นบทนำในละคร ภาพยนตร์ หรือมิวสิกวิดีโอ 

และความตั้งใจในการทำงานของเธอยังพิสูจน์ด้วยรางวัลการันตีจากอีกหลายสถาบันชนิดที่เรียกได้ว่า ช่วงหลายปีมานี้เกือบทุกงานที่มีการแจกรางวัลนักแสดงทั้งจากผลงานและความนิยม จะต้องมีชื่อของเธอติดอยู่ในโผนักแสดงที่เข้าชิงรางวัลเหล่านั้น

“อยากทำหน้าที่นักแสดงให้ดีอยู่เสมอ” เป็นแนวคิดที่ผลักดันให้ผู้หญิงที่มองว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาทุ่มเทในทุกงาน และไม่ว่าแฟนๆ หรือคนทำงานด้วยกันจะมองว่าใบเฟิร์นเป็นนักแสดงมากฝีมือที่ได้รับรางวัลมามากแค่ไหน แต่เธอก็เชื่อว่ายังมีเรื่องที่เธอไม่รู้อีกมากหากอยากพัฒนาตัวเองในวงการบันเทิงต่อไปเรื่อยๆ

บ่อยครั้งบทที่เธอได้รับมักจะเป็นตัวละครที่น่าสนใจ รวมถึงมีคาแรกเตอร์ที่หลากหลาย เฉพาะในปี 2567 นี้ นอกจากเราจะได้เห็นเธอในบทของหญิงสาวที่พึ่งการศัลยกรรมใบหน้าเพื่อหนีจากความรู้สึกที่มองว่าตัวเองไม่มีคุณค่าในเรื่อง ‘Beauty Newbie หัวใจไม่มีปลอม’ แล้ว ยังมีบทคนที่สั่งสมความแค้นจากการถูกเหยียบย่ำเพราะความต่างทางชนชั้นในสังคม จนกลายเป็นการแก้แค้นเพื่อทวงคืนความเท่าเทียมในเรื่อง ‘ทิชา’ และบทเด่นจากเรื่อง ‘ทองประกายแสด’ ละครรีเมกที่ใบเฟิร์นรับบทเป็นหญิงสาวผู้ใช้ผู้ชายเป็นบันไดสู่เป้าหมายในชีวิต

นอกจากการเป็นนักแสดงแล้ว อีกสิ่งที่ใบเฟิร์นทำได้ดีเช่นกันคือบทบาทของการเป็นนางแบบที่ต้องถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของแบรนด์ผ่านเสื้อผ้าที่สวมใส่ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เมื่อไม่นานมานี้ เธอเพิ่งได้รับเลือกจาก Loewe ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง Loewe เป็นแบรนด์ที่ใบเฟิร์นติดตามมาอย่างต่อเนื่องและมองว่ามีดีเอ็นเอของแบรนด์ที่ตรงกับความเป็นตัวเธอ

“เฟิร์นรู้สึกว่าดีเอ็นเอของแบรนด์ที่คลิกกับตัวเองก็คือเรื่องศิลปะ เขาใช้ศิลปะในทุกไอเทม แล้วไอเทมแต่ละชิ้นก็เป็นของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว เห็นแล้วอยากครีเอตลุคใหม่ๆ ตลอดเวลา หรือเวลาออกจากบ้านก็มีเรื่องราวที่อยากเล่า” ใบเฟิร์นพูดถึง Loewe ผ่านมุมมองของเธอ

การนำความธรรมดามารวมกับความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัวคืออีกเหตุผลที่ทำให้ใบเฟิร์นตกหลุมรักแบรนด์นี้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่คนอีกหลายล้านคนที่ได้ติดตามผลงานตกหลุมรักเธอเช่นกัน 

ความสดใสและเป็นตัวของตัวเองคือธรรมชาติของใบเฟิร์นที่ทำให้คนจำนวนมากมองเห็นถึงความพิเศษของเธอ แต่ในขณะเดียวกัน ความธรรมดาที่มองว่าตัวเองไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่น เป็นแค่คนหนึ่งที่ตั้งใจทำงานที่ตัวเองรักให้ออกมาดีที่สุด ก็กลายเป็นสิ่งที่สร้างความพิเศษให้เธอผ่านผลงานต่างๆ ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา

เพราะทุกครั้งที่ทำงาน ใบเฟิร์นจะไปพร้อมกับความคิดที่ว่าทำทุกอย่างให้เต็มที่ เธอเชื่อว่าเมื่อทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่เธอได้รับตั้งแต่กระบวนการทำงาน นั่นคือความสุขจากการทำงานนั้นๆ และเมื่อแปลงความสุขนั้นออกมาเป็นผลงานแล้ว ดูเหมือนว่าความสุขของการทำงานที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของใบเฟิร์นสามารถส่งผ่านไปถึงคนดูได้ผ่านงานทุกชิ้นของเธอ

Similar Articles

More